จากเหตุการณ์ สะพานแขวน ข้ามแม่น้ำป่าสัก หรือ สะพาน 200 ต.ท่าหลวง อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา พังถล่มลงไปในแม่น้ำป่าสัก เมื่อช่วงเย็นวันที่ 28 เมษายน ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมากนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 1 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เรือเครนและกำลังพลจากกองทัพบก ได้พบรถจักรยานยนต์ เพิ่มอีก 2 คัน จากก้นแม่น้ำป่าสัก ในจุดที่สะพานแขวนขาดลง จนมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก ซึ่งอยู่ในเขตเทศบาลตำบลท่าหลวง โดยรวมแล้วเป็นการกู้รถจักรยานยนต์ ขึ้นมาจากแม่น้ำได้แล้ว 13 คัน แต่การค้นหายังไม่ยุติ โดยยังจะมีความพยายาม กู้เอาโครงสะพานที่ทำจากเหล็ก และแผ่นปูนขึ้นมาจากแม่น้ำ ด้วยปัจจุบันเรือขนส่งปูนซีเมนต์ไม่สามารถสัญจรผ่านในจุดนี้ไปได้
ด้าน นายทวีศักดิ์ นาคสิทธิ์ สมาชิกสภาเทศบาลตำบลท่าหลวง กล่าวว่า ชาวบ้านตั้งข้อสงสัยว่าเพราะเหตุใด กลุ่ม สะลิงสายหลัก 2 ข้าง ที่รับน้ำหนักสะพานแขวน ข้างละ 14 เส้น แต่ละเส้นขนาด ¾ นิ้ว โดยปรากฏว่า สะลิงทุกเส้นแกนกลางเป็นเชือก และสะลิงแต่ละเส้นมีสภาพสีเก่า-ใหม่ แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งชาวบ้านยอมรับไม่ทราบเทคนิคเชิงช่างเท่าใดนัก จึงอยากให้มีคำอธิบาย ให้ชาวบ้านได้เข้าใจอย่างกระจ่าง ในประเด็นนี้เช่นกัน
อย่างไรก็ตามสะพานแขวนอีกแห่งที่ข้ามแม่น้ำป่าสัก เชื่อมวัดสะตือและวัดไก่จ้น ที่มีลักษณะเดียวกันสะพานที่ขาดลง และมีสภาพชำรุด ทางเทศบาลตำบลท่าหลวง ได้สั่งปิดห้ามใช้งานโดยเด็ดขาดแล้วในเวลานี้