เมืองคอนฮือฮา “ควาย 3 เขา”

 

เมื่อเช้าวันที่ 30 เม.ย. 2556 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งนายสมหมาย  ชลสินธ์  ส.อบจ.นครศรีธรรมราช เขต  อ.สิชล ว่าชาวบ้านที่เลี้ยงในท้องที่หมู่ 3 ต.ทุ่งใส  อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ไม่ไกลจากบ้านของนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์มากนัก โดยมีควายตัวหนึ่งเป็นควายเพศผู้มีเขา 3 เขา  ซึ่งไม่เคยพบเห็นที่ไหนมาก่อน จึงเดินทางไปตรวจสอบพบนายมนัส หนูอิ่ม อายุ 53 ปี  และนางศิริพร หนูอิ่ม อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15/3 หมู่ 4  ต.ทุ่งใส  อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเจ้าของควาย 3 เขาตัวดังกล่าว กำลังนำฝูงควายออกไปเลี้ยงกลางทุ่งนา

                นายมนัส หนูอิ่ม เปิดเผยว่า ตนและบรรพบุรุษเป็นคน ต.ทุ่งใส อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช  มีอาชีพทำสวนมะพร้าวและเลี้ยงควาย โดยเมื่อก่อนมีควายเป็นร้อยตัว  แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมามีปัญหาการปลูกปาล์มน้ำมันและยางพาราเพิ่มขึ้น ทำให้พื้นที่สำหรับเลี้ยงควายฝูงลดน้อยลง ตนจึงทยอยขายควายไปเหลือไว้เพียง 3 ตัวเป็นควายเพศผู้ 1ตัวคือตัวที่มี 3 เขาตนจึงตั้งชื่อมันว่า “เจ้าสามเขา”  ปัจจุบันเจ้าสามเขามีอายุ 6 ปี น้ำหนักประมาณ 800 กิโลกรัม ส่วนควายเพศเมียอีก 2 ตัวชื่อ “เจ้าห้อยใหญ่” อายุ 12 ปี หนัก 400 กิโลกรัม และ”เจ้าห้อยเล็ก” อายุ  4 ปี หนัก 300 กิโลกรัม  ต่อมาไอ้3 เขามีลูกกับเจ้าห้อยใหญ่ 1 ตัว และมีลูกกับเจ้าห้อยเล็กอีก 1 ตัว  ลูกเจ้าห้อยใหญ่และลูกของเจ้าหอยเล็กปัจจุบันมีอายุ 1 ปี ทำให้ในขณะนี้ตนมีควายอยู่จำนวน 5 ตัว

                “ในส่วนของ”เจ้าสามเขา”นั้นจัดเป็นควายขนาดใหญ่ ในตอนที่มันมีอายุได้ 1 ปี ซึ่งยังเลี้ยงรวมอยู่ในฝูงใหญ่ตนสังเกตเห็นความผิดปกติว่าเขาด้านซ้ายเริ่มแยกออกเป็น 2 เขา จึงไม่ยอมขายและเลี้ยงมันไว้รวมกับเจ้าห้อยใหญ่และเจ้าห้อยเล็ก ส่วนควายในฝูงตัวอื่น ๆ ตนขายไปทั้งหมด   หลังจากนั้นในช่วงที่มันมีอายุ  2-3 ปี เขาข้างซ้ายทั้งสองเขาแยกออกจากกันและยาวออกไปเรื่อย ๆ จนในปัจจุบันช่วงโคนเขาใหญ่ที่ขึ้นเรื่อย ๆ จนกลายเป็นเนื้อเดียวกัน แต่ในส่วนปลายแยกออกจากกันเห็นได้ชัดเจน ความยาวตั้งแต่โคนเขาถึงปลายเขาทั้งสองประมาณ 2 ฟุตเศษในส่วนที่แยกออกจากกันความยาวเขาละกว่า 1 ฟุต โดยเขาด้านในยาวกว่าเขาด้านนอกเล็กน้อย ในขณะที่เขาด้านขวาก็งอกออกมาเป็นปกติความยาวประมาณ 2 ฟุตเช่นกัน”

                เจ้าของควาย 3 เขา กล่าวอีกว่า สำหรับเจ้าห้อยใหญ่และเจ้าห้อยเล็ก ก็มีเขาความแปลกประหลาดเช่นกัน โดยเจ้าห้อยใหญ่เขาทั้งสองข้างงอกย้อยลงมาด้านล่างคล้ายงาช้างปลายเขางุ้มเข้าหากันและยาวจนเลยปากของเจ้าห้อยใหญ่ ความยาวรวมเกือบ 3 ฟุต เวลามันก้มลงกินหญ้าเขาทั้งสองข้างจะแตะพื้นทำให้มันกินหญ้าค่อนข้างลำบากมันจึงเลือกกินหญ้าที่มียอดยาวขึ้นมาจากพื้นดินแทนการกินหญ้าที่มียอดสั้น ๆ   ส่วนเจ้าห้อยเล็กก็มีเขาย้อยยาวลงมาคล้ายงาช้างเช่นเดียวกัน แต่ส่วนปลายของเขาทั้งสองข้างจะงอขึ้นบริเวณข้างปากทั้งสองข้าง โดยความยาวของเขาทั้งสองข้างของเจ้าห้อยเล็กประมาณ 2.5 ฟุต”

               “ซึ่งก่อนหน้านี้มีคนมาขอซื้อควายทั้ง 3 ตัวของตนทั้งเจ้าสามเขา เจ้าห้อยใหญ่ และเจ้าห้อยเล็กโดยให้ราคาสูงมากแต่ตนไม่ยอมขาย เพราะตนและครอบครัวมีความรักความผูกพันกับควายทั้ง 3 ตัวเป็นอย่างมาก โดยครอบครัวของตนรู้สึกว่าการเลี้ยงเจ้าสามเขา เจ้าห้อยใหญ่ และเจ้าห้อยเล็ก ทำให้ครอบครัวของตนประสบแต่ความสุข มีโชคลาภมาโดยตลอด และเมื่อมันมีลูกออกมาอีก 2 ตัวทำให้ตนมีควายที่เลี้ยงอยู่ในขณะนี้รวม 5 ตัว ตั้งใจว่าจะเลี้ยงมันไปเรื่อย ๆ ไม่ยอมขายควายอีกแล้ว” นายมนัส กล่าวยืนยัน  

                ทางด้านนายสมหมาย  ชลสินธ์ ส.อบจ.นครศรีธรรมราช เขต อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ตนและบรรพบุรุษเป็นคนในพื้นที่ ต.ทุ่งใส อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช  ในสมัยก่อนชาวบ้านใน         ต.ทุ่งใส อ.สิชล จะเลี้ยงควายกันเกือบทุกบ้าน ๆ ละหลายสิบตัว จนอาจจะพูดได้ว่าเป็นตำบลหนึ่งที่เลี้ยงควายมากที่สุดในประเทศก็ว่าได้ ทำให้ควายจึงเป็นสัญลักษณ์ของ อ.สิชล ไปโดยปริยาย คนในสมัยปู่ย่า ตา ทวด เมื่อพูดถึงควายก็มักจะกล่าวว่า “ควายสิชล” และกลายเป็นคำพูดที่ติดปากคล้องจองเป็นบทกลอน “ควายสิชล คนฉลอง ไอ้เข้ท่าเรือ ไอ้เสือท่าทอง” มาจนถึงปัจจุบัน

                “แต่ในปัจจุบันเมื่อบ้านเมืองมีความเจริญในด้านต่าง ๆ มากขึ้นชาวบ้านหันมาประกอบอาชีพ ทำยางพารา สวนปาล์ม สวนมะพร้าวทำเพราะที่ดินพื้นที่ว่างเหลือน้อยลง พื้นที่สำหรับปล่อยควายเลี้ยงจึงน้อยลง   ชาวบ้านจึงทยอยขายควายกันไปเรื่อย ๆ จนเกือบหมดแล้ว  ในปัจจุบันหลงเหลือมีชาวบ้านที่ยังมีควายเลี้ยงอยู่ประมาณ  4-5 ครอบครัวเท่านั้น รวมทั้งครอบครัวของนาย นายมนัส นางศิริพร หนูอิ่ม ที่เลี้ยงควาย 3 เขา ซึ่งตั้งแต่ตนเกิดมาปัจจุบัน อายุ 62 ปีแล้วก็เพิ่งเคยเห็นว่าควายมี 3 เขาที่บ้านของนายมนัส แห่งเดียวเท่านั้น และเชื่อว่าเป็นตัวเดียวในโลกก็ได้”

                ผู้สื่อข่าวรายงานว่าแม้เจ้าควาย 3 เขาตัวดังกล่าวจะเลี้ยงอยู่ในหมู่บ้านแต่ชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่มีใครรู้ว่ามีควาย 3เขาอยู่ในพื้นที่ เมื่อทราบข่าวต่างฮือฮาเดินทางมาชมเจ้าควาย 3 เขารวมทั้งเจ้าห้อยใหญ่ ห้อยเล็ก กันอย่างต่อเนื่อง โดยไม่วายจะนำไปตีเป็นเลขเด็ดสำหรับการแทงหวยเสี่ยงโชคในงวดที่จะถึงนี้ ส่งผลให้บ้านของนายมนัส คึกคักเป็นพิเศษ และเชื่อว่าหากนักท่องเที่ยวจากต่างถิ่นที่เดินทางมาท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยว “เขาพลายดำ” ทราบข่าวเรื่องควายสามขาในพื้นที่คงจะแห่เดินทางไปขอชมกันอย่างเนืองแน่นแน่นอน และทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางเขาไปท่องเที่ยวเขาพลายดำมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของ อ.สิชลไปในตัวอีกด้วย.

 

30 เม.ย. 56 เวลา 18:38 2,975 1 20
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...