มาร์ติน คูเปอร์ เป็นชาวอเมริกัน อายุ 81 ปี ปัจจุบันอยู่ที่ชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ สหรัฐอเมริกา เป็นผู้ประดิษฐ์โทรศัพท์เครื่องแรกของโลกสำเร็จ ในปี ค.ศ. 1973 ด้วยความช่วยเหลือจากทีมงานโมโตโรล่า โทรศัพท์เคลื่อนที่เครื่องแรกนั้นหนัก 2 กิโลกรัม ท่านผู้อ่านที่มีโอกาสได้ ใช้คงจะจำกันได้
มาร์ติน คูเปอร์ ได้กล่าวว่า “ตอนนั้นวิศวกรทุกคนในบริษัทของเราทุ่มเทให้กับเรื่องโทรศัพท์เพียงอย่างเดียว เพื่อให้สามารถใช้งานได้” กระทั่งในปี ค.ศ.1983 โทรศัพท์เคลื่อนที่ราคาสูงถึง 136,000 บาท ซึ่งถ้าจะเทียบเป็นเงินในปัจจุบันก็ประมาณ 340,000 บาท”
ในตอนนั้นวิศวกรทั้งทีมก็พบกับความท้าทายอย่างยิ่งที่จะบีบให้ชิ้นส่วนทุกชิ้นอยู่ในโทรศัพท์เคลื่อนที่แค่เพียงเครื่องเดียว คือ รวมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่เข้าไปกับโทรศัพท์ด้วย ซึ่งก็จะปรากฏว่าวิศวกรอุตสาหการ (Industrial Engineer) ทำให้น้ำหนักเหลือประมาณ 1 กิโลกรัมขึ้นมาได้ น้ำหนักแบตเตอรี่อย่างเดียวหนักกว่าโทรศัพท์ถึง 4 หรือ 5 เท่าและก็มี อายุการใช้งาน 20 นาที ซึ่งตอนนั้นก็เชื่อว่ารับได้เพราะโทรศัพท์รวมกับแบตเตอรี่หนักประมาณ 1 กิโลกรัม ผู้ใช้โทรศัพท์จะถือคุยได้นานไม่เกิน 20 นาที
อุปสรรคต่อมาในช่วงนั้นคือ การใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ซึ่งเหมือนสากกะเบือสามารถใช้ในรถยนต์ได้ในขณะวิ่ง ซึ่งก็สามารถทำได้ที่ความถี่ 3 เมกะเฮิรตซ์ ตอนนั้นมาร์ติน คูเปอร์เคยพูดเล่นๆว่า “ในอนาคตเมื่อทุกคนเกิดมาก็จะให้มีเบอร์โทรศัพท์ติดตัวกันไปเลย ถ้าหากโทรศัพท์ไปไม่มีการตอบกลับแสดงว่าตายแล้ว” คุณปู่ก็ยอมรับว่าท่านไม่เคยคิดเลยว่า 35 ปีต่อมาคนค่อนโลกจะมีโทรศัพท์มือถือน้ำหนักเบาราคาก็แสนจะถูกมาก และก็ไม่เคยคิดเลยว่าเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ จะเกิดขึ้นด้วย
ในปัจจุบันนี้โทรศัพท์มือถือกลายเป็นโทรศัพท์ประเภทอัจฉริยะไปเรียบร้อยแล้ว คือ โทรศัพท์มือถือเล็กๆเบาๆเครื่องเดียวทำได้สารพัดเรื่อง เช่น ฟังเพลง ท่องเว็บ ถ่ายรูปและอะไรได้อีกสารพัด มาร์ติน คูเปอร์ บอกว่า“หนังสือคู่มือโทรศัพท์ปัจจุบันมีน้ำหนักมากกว่าและใหญ่กว่าโทรศัพท์มือถือที่ใช้เสียอีก เลยทำให้ผู้ใช้โทรศัพท์จะต้องเป็นคนเรียนรู้เหมือนกับวิศวกร”
มาร์ติน คูเปอร์ บอกว่าเราจะต้องเข้าใจนวัตกรรมที่เกิดขึ้นกับโทรศัพท์มือถือที่เกิดขึ้นในตลาดปัจจุบันเยอะมาก ปัจจุบันคุณปู่จะต้องซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่แทบทุกเดือน เพื่อทำให้เข้าใจถึงโทรศัพท์มือถือจริงๆ แต่คุณปู่ก็สรุปว่าโทรศัพท์มือถือทำให้ชีวิตมีความสะดวกสบายดีขึ้นมาก
“โทรศัพท์มือถือในอนาคตจะถูกฝังไว้ใต้ผิวหนังข้างหู พร้อมด้วยระบบคอมพิวเตอร์ที่พร้อมจะเป็นทาสคุณ”