เมื่อเวลา 22.30 น. วันที่ 25 เม.ย. ผู้สื่อข่าว ข่าวสด รายงานว่า ร.ต.อ.จีรศักดิ์ แอบแฝง พนักงานสอบสวน สภ.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งมีคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามยิงถล่มบ้านเลขที่ 71/1-2 ม.3 ต.โป่ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วย พล.ต.ต.คัชชา ธาตุศาสตร์ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พ.ต.อ.สมนึก จันทร์เกตุ ผกก. พ.ต.ท.ธนเดช ดวงตาปิยะชัย หัวหน้าพนักงานสอบสวน พ.ต.ท.คงศักดิ์ บุญสื่อสุวรรณ สว.สส. นำกำลังตำรวจชุดสืบสวนรุดไปตรวจสอบ

 ที่เกิดเหตุเปิดเป็นร้านขายของชำและที่ทำการผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ต.โป่ง อ.บางละมุง บริเวณโต๊ะม้าหินอ่อนหน้าบ้านพบเพียงกองเลือด และร่องรอยคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงใส่ร้านจนได้รับความเสียหาย ในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนเอชเค ขนาด .223 มม. ตกอยู่จำนวน 21 ปลอก ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 50 เมตร พบอาวุธปืนเอชเค-33 ตกอยู่ในพงหญ้าจำนวน 1 กระบอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดถูกนำส่ง รพ.กรุงเทพพัทยาไปก่อนหน้านี้แล้ว

 ต่อมาตำรวจไปตรวจสอบภายในห้องฉุกเฉิน ร.พ.กรุงเทพพัทยา พบผู้บาดเจ็บ 3 ราย ทราบชื่อต่อมาคือนายนิกร กรัดกราย อายุ 44 ปี ตำแหน่งผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ต.โป่ง สภาพถูกยิงเข้าที่หัวไหล่ขวาด้านหลัง 1 นัด แต่กระสุนเจาะไม่เข้าร่างกาย มีเพียงรอยจ้ำเป็นแผลเล็กน้อยเท่านั้น ส่วน ด.ช.เอ (นามสมมติ) อายุ 11 ปี นักเรียนชั้น ป.5 ลูกชายของนายนิกร ถูกยิงเข้าที่โคนขาซ้าย 2 นัด ท้องข้างซ้าย 1 นัด ตามร่างกายมีสะเก็ดกระสุนฝังอยู่หลายแห่ง และนางแเพงศรี แสนศิลา อายุ 45 ปี ญาติของผู้ใหญ่นิกร สภาพถูกยิงเข้าที่ขาซ้าย 1 นัดจนกระดูกแตก แพทย์ต้องนำตัวเข้าห้องผ่าตัดเอาหัวกระสุนออกมาอย่างเร่งด่วนเนื่องจากอาการสาหัสและเสียเลือดมาก

 สอบสวนนายนิกร ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุขณะตนนั่งกินข้าวอยู่โต๊ะม้าหินอ่อนหน้าบ้าน จู่ๆ คนขับรถปิกอัพ ยี่ห้ออีซูซุ ตอนเดียว สีแดง ไม่ทราบทะเบียน มาจอดที่หน้าร้าน ระหว่างนั้นมีชายฉกรรจ์ อายุประมาณ 35-40 ปี กระโดดลงจากท้ายกระบะรถ แล้วมายืนพิงข้างรถคล้ายคนเมาสุรา ก่อนตะโกนสั่งเบียร์ 2 กระป๋อง ตนจึงให้ลูกน้องในร้านเดินไปหยิบมาให้

 โดยเมื่อจ่ายเงินเสร็จเรียบร้อยแล้ว ชายคนดังกล่าวได้เปิดเผยตัวตนที่แท้จริง ด้วยการหยิบปืนเอชเคจากท้ายกระบะ ออกมากราดยิงใส่ร้านเสียงดังหูดับตับไหม้ ตนและครอบครัวและลูกน้องในร้าน ต่างพากันวิ่งหนีตายกันอลหม่าน จนคมกระสุนไปถูก ลูกชายของตน ที่นั่งเล่นคอมพิวเตอร์อยู่ในบ้าน และถูกนางแเพงศรี จนได้รับบาดเจ็บ ก่อนที่คนร้ายจะขับรถหลบหนีมุ่งหน้าไปทาง จ.ระยอง โดยในระหว่างเกิดเหตุตอนแรกตนรู้สึกว่าถูกกระสุนยิงใส่บริเวณด้านหลังหัวไหล่ขวา แต่พอให้คนช่วยดูกลับมีเพียงรอยแผลเป็นจุดเล็กๆ และมีเลือดซึมออกมานิดหน่อย การที่ตนรอดตายในครั้งนี้เชื่อว่าน่าจะเป็นเพราะพระเครื่องหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ที่ตนเคารพบูชาและใช้ห้อยคออยู่ทุกวันนี้ ส่วนสาเหตุที่ถูกปองร้ายตนไม่ทราบ เพราะไม่เคยมีเรื่องกับใครมาก่อน

 ด้าน พล.ต.ต.คัชชา เปิดเผยว่า คดีนี้คนร้ายก่อเหตุอย่างอุกอาจไม่เกรงกลัวกฎหมาย เพราะอาวุธที่ใช้เป็นปืนสงคราม อีกทั้งเป้าหมายยังเป็นถึงผู้ใหญ่บ้านคนดังที่ชาวบ้านส่วนใหญ่ให้ความเคารพนับถือ อย่างไรก็ตาม สาเหตุของการถูกยิงถล่มครั้งนี้ตำรวจสันนิษฐานว่าน่าจะมาจากเรื่องธุรกิจ ความแค้นส่วนตัว หรือไม่ก็เรื่องชู้สาว ไม่น่าจะเกี่ยวกับเรื่องการเมืองท้องถิ่น เบื้องต้นได้ส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่หาข่าวและสอบปากคำพยานเพิ่มเติม รวมถึงหาภาพจากกล้องวงจรปิดตามสถานที่หรือเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะใช้หลบหนี เพื่อติดตามมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป