หลายคนๆ คงไม่รู้จักชื่อ รัฐสิกขิม สักเท่าไร ว่ามันอยู่ที่ไหนกัน? ถ้าคุ้นชื่อ ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่า มีอะไร ให้น่าไปเที่ยว? วันนี้ Travel MThai จะไปสมาชิกมิตรรักทุกท่านไปรู้จัก รัฐสิกขิม กันให้มากขึ้นกว่าเดิม พร้อมแล้วร่วมมาเดินทางกัน

รัฐสิกขิม (Sikkim) เป็นรัฐทางตอนเหนือของประเทศอินเดีย (India) มีภูมิประเทศแบบที่ราบสูงบนเทือกเขาหิมาลัย มีพรมแดนติดกับหลายประเทศ อาทิ เขตปกครองตนเองทิเบต, เนปาล และภูฏาน แต่เดิมสิกขิมเป็นรัฐเอกราช มีขนาดใหญ่กว่ากรุงเดลี เมืองหลวงของอินเดียเล็กน้อย ปกครองโดยราชวงศ์นัมเยล ด้วยความป็นรัฐเอกราชเล็กๆ อาจถูกบั่นทอนจากจีนซึ่งยึดทิเบตได้แล้วขณะนั้น เมื่ออินเดียได้รับเอกราชจากอังกฤษ รัฐสิกขิม จึงยอมอยู่ใต้เอกราชเดียวกับอินเดีย อดีตประชากรส่วนใหญ่ของที่นี้เป็น ชาวเลปชา ซึ่งมีเชื้อสายเป็นชาวทิเบต แต่ในปัจจุบันประชากรส่วนใหญ่ได้ถูกกลมกลืนเชื้อชาติกับชาติใกล้เคียงอย่างชาวเนปาล จนทำให้มีเชื้อชายเป็นชาวเนปาลี ประมาณร้อยละ 75 ของประชากร และใน รัฐสิกขิม มีเมืองหลวงสำคัญที่ชื่อว่าเมือง กังต็อก (Gangtok) รอนักท่องเที่ยวให้เยือนอยู่ขณะนี้ และยังถูกยกย่องให้เป็นเมือง “สวรรค์บนดินอีกหนึ่งแห่งของประเทศอินเดีย“

เมืองกังต็อก ซึ่งคำว่า “กังต็อก” เป็นภาษาในภูเทีย กัง คือ ที่ราบ และ ต็อก คือ เนินเขา รวมกันเป็น ที่ราบที่อยู่บนเนินเขา เป็นเมืองที่อยู่ด้านล่างเทือกเขาหิมาลัย นับเป็นอีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวที่มีทัศนียภาพที่สวยงามมากๆ ภายใน เมืองกังต็อก ประกอบด้วยชาว เนปาล ภูฏาน และชาวอินเดีย เป็นส่วนใหญ่ เมืองกังต็อก ถือกำเนิดเกิดขึ้นราว ปี ค.ศ. 1716 ขณะนั้นเป็นเพียงหมู่บ้านเล็กๆ เท่านั้น จนกระทั่งได้มีการสร้างวัดเอนเซย์(Enchey Monastery) ขึ้นมาในปี ค.ศ. 1840 กังต็อก จึงกลายเป็นศูนย์กลางของการแสวงบุญไปโดยปริยาย

สำหรับการท่องเที่ยวภายใน เมืองกังต็อก นั้น จุดหมายปลายทางแรกที่อยากแนะนำให้ไปเยือนก็คือ วัดรุมเต็ก(Rumtek Monastery) หรือ ศูนย์ธรรมจักร (Dharmachakra Centre) เป็นสถานที่ศึกษา และปฏิบัติธรรม เป็นวัดศาสนาพุทธที่ใหญ่ที่สุดในรัฐสิกขิม ตั้งอยู่บนเนินเขาสูง 1,550 เมตร ห่างจากกังต็อก 24 กิโลเมตร

ถัดจากนั้น ไปเยี่ยมชมสถาบันทิเบตวิทยาลัยนัมเกล (Namgyal Institute of Tibetology) เป็นพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับศาสนาพุทธที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของ เมืองกังต็อก เป็นศูนย์กลางในการมอบทุนให้กับการศึกษาพระพุทธศาสนาที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของโลก โดยบริเวณวัดร่มรื่นเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ และมีอาณาเขตกว้างใหญ่ สงบ เหมาะอย่างยิ่งในการใช้สมาธิศึกษาพระธรรม

ต่อมามุ่งหน้าไปเยือน วัดเอนเซย์ (Enchey Monastery หรือ Enchey Gompa) : เป็นวัดพุทธที่เก่าแก่มีอายุประมาณ 200 ปี สร้างขึ้นโดยพระลามะชื่อ Drupthob Karpo โดยเริ่มแรกพระ Drupthob Karpo ได้สร้างกุฏิเล็กๆไว้ที่นี่ก่อน ต่อมาในระหว่างการปกครองของ Sikyong Tulku (ปี ค.ศ. 1909-1910) เขาจึงได้สร้างวัดนี้ขึ้นมา ตามลักษณะรูปทรงเจดีย์จีน

สุดท้ายที่เราจะไปเยือน จุดชมวิวตาชิ (Tachi Viewpoint) อยู่ห่างจากกังต็อกประมาณ 6 กิโลเมตร เป็นจุดชมวิวที่มองเห็นเทือกเขา กังเชงจุงก้า ได้ชัดเจนที่สุด และสวยที่สุด รายล้อมด้วยเทือกเขาบริวารมากมาย เช่น ยอดเขาทาลุง ยอดเขาปานดิม และหากวันไหนอากาศดีๆยังสามารถมองเห็น ยอดเขาชิโนชู (Siniolchu) วัดโพด็อง และวัดลาบรังได้อีกด้วย

รัฐสิกขิม อาจจะไม่คุ้นหูสำหรับนักท่องเที่ยวทั่วโลก แต่ในความที่ไม่รู้จักของหลายๆ คน ย่อมมีความสวยงาม บริสุทธิ์เสมอ ที่รอให้ผู้มาเยือนต้องหาโอกาสไปสัมผัสสักครั้งในชีวิต ไปอินเดียคราวนี้ อย่าลืมลองไปเที่ยว รัฐสิกขิม “สวรรค์บนดินอีกหนึ่งแห่งของประเทศอินเดีย” กันนะครับ

 

 

View Larger Map

 

เมืองกังต็อก (Gangtok) รัฐสิกขิม (Sikkim) ประเทศอินเดีย

 

ข้อมูลและภาพ : wiki / travel.thaiza.com
เรียบเรียงโดย Travel MThai