ตีแผ่การทำแท้ง (โหดมาก เตือนกันแล้ว ใครทำใจไม่ได้ไม่ต้องดู เพราะไม่ได้เซ็นเซอร์)

 

 

 

 

 

 

อย่าเพิ่งไปด่าผู้หญิงที่ไปทำแท้งฝ่ายเดียว ถ้าคุณไปนั่งคุยกับผู้หญิงที่เคยทำแท้ง คุณอาจเห็นใจเขามากกว่าที่คิด (ไม่เกี่ยวกับพวกรักสนุก ชอบเที่ยวน่ะค๊ะ)


ผู้ชายที่ทิ้งผู้หญิงที่ท้องให้แก้ปัญหาฝ่ายเดียว จนบีบบังคับให้ผู้หญิงไปทำแท้ง มันก็ไม่ต่างกับการที่ให้ผู้หญิงไปทำแท้ง ถ้าฝ่ายชายมีความรับผิดชอบ หรือยอมรับลูกในท้องของผู้หญิง ก็คิดว่าปัญหาการทำแท้งจะลดลงไปเยอะ ส่วนใหญ่ที่ผู้หญิงทำแท้ง ก็เพราะผู้ชายมันไม่รับเป็นพ่อเด็ก ไม่ยอมแต่งด้วยนี่แหล่ะ ผู้หญิงส่วนใหญ่ถ้าท้องเขากล้าที่จะรับปัญหา แต่เมื่อใดที่ไม่มีฝ่ายชายมาช่วยแบกปัญหา เขาก็จะรับกับเรื่องตรงนี้ไม่ได้เหมือนกัน  ก่อนที่ผู้ชายอย่างเราๆ จะด่าผู้หญิง ที่มีปัญหา ต้องมองย้อนกลับมาดูที่ตัวเราเองก่อนว่าเรารับผิดชอบต่อสิ่งที่เราทำไปได้ดีพอหรือยัง การมีเซ๊กส์ไม่ผิด แต่เซ๊กส์ในวัยเรียน คุณต้องถามตัวเองก่อนว่า คุณพร้อมที่จะรับหรือบังเอิญที่จะรับสิ่งที่จะตามมาได้หรือไม่ ถ้าไม่พร้อมจะรับ คุณก็ต้องเซฟตัวเองด้วยการใส่ถุงยางเรื่องเท่านี้ ฝ่ายชายที่มีเซ๊กส์กับแฟนประจำ ก็หัดพกถุงยางไว้ ปัญหาก็จะไม่เกิด อย่าเอาอารมณ์อยากเสียวแค่แว้ปเดียวมาเป็นตัวให้เกิดปัญหาตามมา ส่วนผู้หญิงที่คิดจะทำแท้งตอนนี้ แนะนำให้ลองไปคุยกับคนที่มีประสบการณ์ท้องในวัยเรียน พูดง่ายๆ ท้องก่อนแต่งนั่นแหล่ะ บางคนเขาก็เคยคิดหาทางออกโง่ๆแบบนี้มาแล้ว แล้วเขาก็เปลี่ยนใจที่จะไม่ทำแท้ง ลองถามความรู้สึกที่เขามีลูกดูว่าเขาคิดยังไง และลองถามคนที่เคยทำแท้งว่า เขาคิดยังไงคิดว่าคุณต้องได้คำตอบที่คุณต้องการแน่ๆ

 

ทำแท้ง ถ้ารู้จริง จะรู้ว่าไม่ใช่เรื่องเล็ก

By - หมอแมว

 

เรื่องนี้ผมตั้งท่าจะเขียนมาหลายวันมากแล้วล่ะครับ แต่ว่าเนื่องจากมันเป็ฯเรื่องใหญ่มากที่ไม่รู้จะเขียนในแง่มุมไหนดี เลยทำให้ตั้งท่าอยู่นาน วันนี้ตั้งใจแล้วว่าจะเขียนซะที
เอาเป็นว่าเขียนได้ไม่เต็มก็มีตอนสองแล้วกัน

ที่ตั้งใจจะเขียนก็เพราะว่าเมื่อก่อนเคยไม่ชอบคนที่ไปทำแท้งมาอย่างมาก เนื่องจากคิดว่าเป็นเรื่องไม่ดีบาปหนักหนามาก และเคยคิดว่าเป็นเรื่องวัยรุ่นใจแตก...........
ความเห็นของผมเปลี่ยนไปเมื่อคนไข้คนแรกเรื่องทำแท้งของผมสมัยเรียนนั่นเอง.... เธอเป็นแม่ลูก4อายุ40ปี.. ลูกก็เป็นลูกจากพ่อคนเดิม สาเหตุที่ทำให้เธอไปทำแท้งคือไม่มีจะเลี้ยง 

วิธีทำแท้งที่ใช้กันในสมัยนี้ตามสถานที่ทำแท้งเถื่อนมีหลายวิธี(ผมขอไม่เรียกว่าคลีนิกแล้วกัน มันแสลงหู)
1. ใส่อุปกรณ์หรือฉีดสารเข้าทางช่องคลอด
2. เหน็บยา
3. กินยา
4. เหยียบเตะต่อย(อันนี้ที่จริงมักทำกันเองที่บ้าน)


1. ใส่อุปกรณ์หรือฉีดสารเข้าทางช่องคลอด


เป็นวิธียอดนิยมที่ทำกันมานาน และก็เป็นวิธีที่ "เลียนแบบ" แพทย์ตัวจริงมาใช้


"ขูดมดลูก" อุปกรณ์ที่ใช้คือตัวขูดเนื้อยาวราวๆฟุตนึง ตรงกลางเป็นก้าน ตรงปลายจะมีลักษณะคล้ายที่ขูดมะพร้าว

วิธีทำคือเมื่อผู้หญิงมาถึง นั่งบนขาหยั่ง ผู้ทำแท้งจะเปิดแหวกช่องคลอดด้วยเครื่องถ่าง แล้วใช้เครื่องมือจิกปากมดลูกไว้ จากนั้นเอาที่ขูด แหย่เข้าไปขูดในมดลูก
ถ้าคนทำแท้งมีความรับผิดชอบต่อค่าจ้างที่ได้ เขาจะขูดตัวอ่อนออกมา แล้วก็ขูดเนื้อในมดลูกไปด้วย
ถ้าไม่รับผิดชอบ ก็ขูดแค่พอเห็นเนื้อๆแล้วก็พอให้กลับได้
ระหว่างที่ทำอาจเจ็บได้บ้าง ขึ้นกับราคาที่จ่ายไป ถ้ามากหน่อยอาจมียาแก้ปวดอย่างแรงให้กิน (ซึ่งก็เลยเห็นเป็นภาพชินตาที่พอตำรวจบุกแล้วพวกเธอมักหนีไม่ทันกัน) แต่บางแห่งก็ให้แค่ยาแก้ปวดธรรมดามากินก่อนขูดมดลูก เพราะว่าเวลาขูดก็เอาแค่ขูดน้อยๆ

ปัญหาที่ตามมาคือ

1. เนื้อในมดลูกที่เหลือ... เพราะว่าร่างกายคนเราที่เตรียมจะมีเด็ก จะมีการขยายของพื้นที่ในมดลูกโดยเพิ่มเส้นเลือดมากๆ และมีที่ให้เด็กมาเกาะมากๆ ทีนี้พอไม่มีเด็กเพราะโดนขูดไปแล้ว เนื้อพวกนี้ก็จะพยายามหลุดลอกตัวออก แต่ฤทธิ์ฮอร์โมนที่ยังมีอยู่ อาจทำให้หลุดไม่ดี
คนที่โชคดี ก็จะมีเลือดออกมาสักสัปดาห์-2สัปดาห์ กินยาสตรีต่างๆแล้วก็ขับน้ำคาวปลาออกไปได้พร้อมเนื้อรกเนื้อมดลูก
คนที่โชคไม่ดี เนื้อเหล่านี้ไม่หลุดออก ก็จะมีเลือดไหลออกมาเรื่อยๆไม่หยุด
บางคนไหลเป็นเดือนๆกว่าจะมาหาหมอ
บางคนไหลจนตาย(ที่จริงคงมีการทะลุมดลูกร่วม)

2.1 -  ติดเชื้อ ตรงไปตรงมา เครื่องมือและคนทำห่วยแตก 
2.2 -  มดลูกทะลุ .... เพราะในการขูดมดลูกที่ถูกต้อง ต้องมีการวัดขนาดและตรวจดูรูปร่างของมดลูกว่าหันไปทางทิศใดก่อนขูดเนื่องจากการขูดเป็นการทำโดยไม่เห็นด้วยตา แต่อย่าไปหวังอะไรกับคนทำแท้งเถื่อนเลย ส่วนใหญ่มักขูดไปเลย และมีไม่น้อยที่ทะลุ โชคดีก็ปิดได้เอง โชคร้ายเผลอๆติดเชื้อในท้องแบบเวลาไส้ติ่งแตกหรือกระเพาะทะลุก็มี
ที่ร้ายไปกว่านั้น บางคนที่ผมเคยเจอการทะลุจากมดลูกเข้าช่องท้องต่อไปยังลำไส้ใหญ่... เมื่อหายแล้วก็กลายเป็นว่ามีช่องทางใหม่ ทำให้อุจจาระไหลออกมาทางช่องคลอดได้ (ซึ่งผ่าซ่อมยาก)

3. ขูดมั่วไม่โดนเด็ก เลือดออกแป๊บเดียวก็หยุด แต่ที่ไหนได้ท้องโตเอาโตเอาจนคลอดออกมาเป็นตัว

4. สุดท้ายก็ต้องไปหาหมอ(ตัวจริง)
เท่าที่เคยเจอมา ที่ทำแท้งเถื่อนห่วยๆบางที่ใช้วิธีขูดมั่วซั่ว พอเป็นพิธีแล้วบอกว่าถ้าเลือดไม่หยุดให้ไปหาหมอ.. ส่วนใหญ่มันแค่เอาเครื่องมือสอดแล้วขูดครั้งสองครั้ง เอาเนื้อชิ้นโตๆมาชิ้นเดียวแล้วปล่อยภาระให้เป็นของแพทย์ตัวจริง
ส่วนใหญ่มักจะมีอาการมาด้วยเรื่องเลือดไหลออกทางช่องคลอด 
พร้อมกับเรื่องเล่าแปลกๆ
ถ้าเป็นสิบปีก่อน ก็จะเล่าว่าเดินข้ามท้องร่องแล้วลื่นไม้กระดานฟาดกลางหว่างขา
เดี๋ยวนี้ก็เป็นล้มในห้องน้ำ ขับรถเครื่องแล้วเบรกแรงๆ ตกบันได

ผมจะบอกว่า ถ้าคุณไปทำแท้ง ก็บอกว่าไปทำแท้งเถอะครับ เพื่อให้ทุกอย่างง่ายขึ้น ปลอดภัยทั้งตัวคุณเองและคนที่ให้การรักษา
เคยมีกรณีที่เด็กบอกว่าหกล้มในห้องน้ำแล้วเลือดออก แม่ก็ยืนยันว่าเป็นเรื่องจริงเห็นกับตา แต่ว่าไปๆมาๆเกิดปวดท้องไข้สูง และก็ติดเชื้อในช่องท้องจากการที่มดลูกทะลุและมีการติดเชื้อ..... ซึ่งการติดเชื้อระดับนี้ เวลาคุยกับญาติ เราไม่ได้คุยว่าจะกลับบ้านได้เมื่อไหร่นะครับ แต่เราคุยว่าโอกาสตายมีมากเพียงใด
ถ้ารู้ว่าไปทำแท้งมาและเลือดออกไม่หยุด ส่วนมากก็จะขูดต่อให้เสร็จสรรพเพื่อรักษา และจะได้ให้ยาทั้งหลาย ทั้งยาฆ่าเชื้อและวัคซีนบาดทะยัก

การทำก็คล้ายกับที่เล่าไปแล้ว คือก็จะใช้เครื่องมือดันเปิดทาง แต่จะมีเครื่องวัดขนาดภายในมดลูก และมีการตรวจทิศทางของมดลูกเพื่อจะได้ใส่เครื่องมือได้ถูก จากนั้นก็จะค่อยๆขูดโดยใช้วิธีที่ถูกต้องเพื่อให้ได้เนื้อออกมาให้ครบถ้วนที่สุดเพื่อเลือดจะได้หยุดไหล

นอกจากนี้ยังมีวิธีทำแท้งโดยใช้การฉีดยาหรือสารบางอย่างเข้าไป เช่นฉีดน้ำเกลือเข้าไปรอบๆทารกให้ทารกขาดน้ำตาย หรือฉีดสารพิษให้ทารก
แต่การทำแท้งวิธีนี้เสี่ยงต่อแม่มาก เพราะหลายครั้งผู้ทำแท้งก็ฉีดมั่วจนตายทั้งแม่ทั้งลูก
ปัจจุบันก็เลยเจอลดลง

2. เหน็บยา


วิธียอดฮิตที่มีที่มาจากการที่พบว่ายารักษาโรคกระเพาะตัวนึงเมื่อกินเข้าไปทำให้แท้งได้บ่อย และต่อมาก็พบว่ายานี้ออกฤทธิ์ที่มดลูกได้
ต่อมาก็มีคนเอามาใช้เพื่อการทำแท้ง และต่อมาอีกก็นำมาใช้ในการเร่งคลอดให้ปากมดลูกเปิดได้เร็วขึ้น

ปัญหาที่ทำให้หมอไม่ชอบใช้ยานี้ทำแท้งอย่างถูกกฎหมาย มีดังนี้คือ
ท้องอ่อนๆ หมอชอบทำแท้งให้เพราะอันตรายน้อยกว่าและเด็กยังเล็ก แต่ยานี้ใช้ไม่ค่อยได้ผลมดลูกไม่หดปากมดลูกไม่เปิด
ท้องมากๆ หมอไม่ชอบทำแท้ง แต่ยาดันใช้ได้ผลดีขึ้น เด็กไหลดีนัก
แต่หมอจะฝันร้าย เพราะว่าเด็กที่หลุดออกมาจะยังมีชีวิต ดิ้นได้ และจะดิ้นอย่างสุดฤทธิ์ก่อนตาย บางคนดิ้นเป็นชั่วโมง

ยาตัวนี้เป็นที่นิยมในหมู่ผู้รับทำแท้งและคนขายยานอกคอก เนื่องจากขายในราคาเม็ดละ 700-1400 บาท เวลาใช้มักขายทีละสองเม็ด
โดยที่ต้นทุนไม่ถึง10บาท กำไรเหนาะๆ และไม่ต้องเสี่ยงถูกจับเท่าเปิดร้าน
หลายครั้งที่มีคนมาด้วยเรื่องตกเลือด พอตรวจไปก็เจอว่ามียาที่ยังละลายไม่หมดเหน็บอยู่ (แต่เจ้าตัวก็ยังปฏิเสธว่านั่นน่ะยาเหน็บแก้เชื้อรา..)

ข้อเสียนอกจากเด็กตายแบบดิ้นๆ ยังมีอีกคือ Amniotic pulmonary embolism
ซึ่งเป็นภาวะอันเกิดจากการที่มดลูกบีบรัดแรงแล้วทำให้น้ำคร่ำไหลเข้ากระแสเลือด แล้วไปอุดตันที่ปอดของแม่จนแม่ขาดอากาศตาย
ซึ่งภาวะนี้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้อยู่แล้วแม้คลอดปกติ และช่วยเหลือยากมากแม้อยู่ในมือหมอ ข่าวดังๆที่หาว่าหมอทำคลอดไม่ดีแล้วแม่ตาย ก็มีส่วนมาจากอันนี้เหมือนกัน นี่ขนาดบางคนอยู่ในโรงเรียนแพทย์และมีหมอสิบกว่าคนยื้อชีวิตยังเอาไม่อยู่
ถ้าเกิดใครไปเหน็บยาตัวนี้เข้าแล้วเกิด Amniotic pulmonary embolism ขึ้นล่ะ รอดยากครับ ก็คงตายเงียบๆในบ้าน(แต่ก็ไม่ได้เกิดบ่อย)

3. กินยา

 

วิธีสุดคลาสสิก เห็นในหนังไทยที่คุณหญิงย่าบังคับให้นางอิจฉาเอายาขับเลือดกรอกปากนางเอก กรอกเสร็จแล้วจะเกิดอาการปวดท้องแล้วก็มีเลือดไหลออกทางหว่างขา

ผมได้เจอเด็กคนนึง กินยาสตรีและยาขับเลือดลมหลายขนานในท้องตลาดหลังจากที่รู้ว่าท้อง... กินอยู่5เดือน จนค่ายารวมๆแล้วแพงกว่าค่าทำแท้ง เธอก็เลยเปลี่ยนไปซื้อยามาเหน็บ เด็กจึงออก.... 
สรุปแล้ว ผมยังไม่เคยเห็นยาขับเลือดที่ใช้ได้ผล มีแต่คนโน้นคนนี้มาบอกเท่านั้น

 

4. เหยียบ เตะ เข่า ศอก นวด


วิธีที่อ้างว่าได้ผล.... คงได้ผลกันบ้างแลกกับการเจ็บตัวพอสมควรของแม่เด็ก

เป็นวิธีที่ผมไม่เคยได้ประสบหรือเจอใครที่เอาตัวเข้าแลกขนาดนั้น... เห็นแต่ในหนัง ที่กลิ้งตกบันไดแล้วเลือดออก

แต่เรื่องที่ยืนยันว่าเข่าและเท้าเอาเด็กออกได้ก็มี เป็นเรื่องของครอบครัวนึง แม่ตั้งท้องแฝด ตั้งท้องได้ 7-8 เดือน พ่อก็ทะเลาะกับแม่แล้วเตะต่อยท้อง....... จนแม่ปวดมาก และเมื่อทนไม่ไหวก็ไปโรงพยาบาลชุมชนขนาด 30 เตียง แล้วเด็กก็เริ่มคลอดแบบมันทีที่ไปถึงโดยที่หมอยังไม่ทันตั้งตัว เด็กออกมาได้1คน แต่อีกคนคาอยู่ออกยาก และในที่สุดเด็กออกมาก็แย่ทั้งคู่เนื่องจากคลอดก่อนกำหนดและคนน้องก็แย่เพราะขาดอากาศ
เรื่องนี้ พ่อเด็กเอาเรื่องหมอ หาว่าหมอฝีมือแย่ทำให้ลูกเขาแย่หายใจไม่ได้........ เอาเรื่องไปลงหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น... จนที่สุดหมอต้องจ่ายเงินให้ไปหลายแสนทั้งที่ไม่ผิด

เรื่องนี้บอกให้รู้ว่า การกระแทกแรงๆเหล่านี้ หากเป็นอายุครรภ์น้อยๆ มักแท้งยากหน่อย เพราะว่าตัวอ่อนมีเกราะหนาเมื่อเทียบกับขนาดตัวอ่อน แต่พอเป็ฯอายุมากๆ ก็จะโดนแรงกระแทกโดยตรงได้มากโอกาสที่เด็กจะแย่ก็มีมาก และเด็กที่คลอดก่อนกำหนดจากมือจากเท้าแบบนี้ก็มีได้ และตายจากการหายใจไม่ออก(ปอดยังเจริญไม่พอ)


วันนี้คุยเรื่องวิธีการทำแท้งก่อนนะครับ มาต่อด้วยเรื่องผลเสียผลข้างเคียงและผลแทรกซ้อนจากการทำแท้ง

เอาล่ะครับ เรามาต่อจากกระทู้ที่แล้วกันเถอะ เรามาพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้น หลังจากเด็กได้จากไปแล้วกัน

ผลสืบเนื่องที่ตามมาหลังการทำแท้งเถื่อนแบบใช้อุปกรณ์
นอกจากเรื่องที่จะเกิดขึ้นในระยะใกล้ๆที่ได้เล่าไปในกระทู้ที่แล้ว สิ่งที่อาจเกิดตามมาได้และเป็นปัญหาสำคัญที่ตามไปตลอดคือ ปัญหาการมีบุตรยาก
มดลูกประกอบไปด้วยส่วนต่างๆดังนี้คือ ปากมดลูก ตัวมดลูก ปีกมดลูก
เวลาใส่อุปกรณ์จะโดนปากมดลูกและปีกมดลูก หากทำรุนแรงก็อาจเกิดการฉีกขาด เนื่องจากว่าในระยะตั้งครรภ์นั้นส่วนเหล่านี้จะนุ่มกว่าปกติ
เมื่อฉีกขาด ร่างกายของมนุษย์ก็จะมีการซ่อมแซมตนเอง

การฉีกขาดที่ปากมดลูก จะทำให้เกิดแผลเป็นที่ปากมดลูก หากต่อไปมีการตั้งครรภ์อีกครั้ง ก็มีโอกาสที่จะเกิดการแท้งได้ในช่วงเดือนที่ 3-4 จากการที่ปากมดลูกไม่แข็งแรงพอ
หรือเมื่อคลอดในครั้งต่อไปทางช่องคลอด ก็อาจเกิดเลือดออกมากผิดปกติ
การฉีกขาดมากๆในโพรงมดลูก เมื่อร่างกายซ่อมแซมก็จะเกิดการเชื่อมติดกันของแผล โพรงมดลูกอาจเชื่อมติดกัน จนทำให้ต่อไปตั้งครรภ์ไม่ได้เพราะไม่มีช่องให้เด็กอยู่
การติดเชื้อในมดลูกหลังการทำ อาจลามไปสู่ปีกทั้งสองข้าง และเมื่อการติดเชื้อผ่านไป ก็อาจทำให้ท่อทั้งสองข้างตีบหรือตัน ก็มีลูกยาก

ผลสืบเนื่องจากการใช้ยา
ยาทุกชนิดในค่ายยาตะวันตก มีลักษณะคือ มีทั้งข้อดีและข้อเสียให้เห็นๆ
ผลข้างเคียงระยะสั้นๆที่มีของยาพวกนี้คือ คลื่นไส้อาเจียนไประยะหนึ่ง ซึ่งผลสืบเนื่องที่ตามาก็คือ ทำให้เกิดความรู้สึกที่ไม่ดีและแย่ติดตัวไปนาน เนื่องจากทำให้กลายเป็นช่วงเวลาอันเลวร้ายมากขึ้น
ผลสืบเนื่องระยะยาวที่น่ากลัวก็มีพวกตับอักเสบ ที่อาจเกิดขึ้นได้

------------------------------------
ฟังเท่านี้อาจรู้สึกหดหู่ใช่ไหมครับ
------------------------------------

แต่อย่าพึ่งหดหู่เลย เพราะว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคนที่ทำแท้ง ดูเหมือนธรรมชาติยังให้โอกาสคนได้กลับตัว เพราะผลที่เกิดขึ้นพวกนี้มักเกิดในคนที่ทำหลายๆครั้งมากกว่าคนที่ทำครั้งเดียว และในคนที่เป็น หลายๆอย่างก็พอมีทางแก้ไขหากตั้งใจจริง
ประโยคข้างต้นนี้เคยมีอาจารย์บอกผมไว้อย่างนั้น ทำให้พอผมมองดูใหม่ด้วยมุมมองใหม่ เลิกความคิดตัดสินคนอื่นไปเลย


ทุกปัญหามีทางออก
ผมไม่ได้เป็นจิตแพทย์ และคงไม่อาจหาญให้คำแนะนำทางจิตวิทยาได้ แต่ว่าสิ่งหนึ่งที่รู้หลังจากทำงานก็คือ ทุกปัญหามีทางออกครับ
Keyword คืออย่างน้อยที่สุด เราทุกคนต้องมีคนที่เป็นห่วงเรา
คนใกล้ตัวที่สุดคือพ่อแม่

เด็กคนที่มาหาผมคนล่าสุดในเรื่องทำแท้ง มีแม่มาด้วย........... ในกรณีการทำแท้งเป็นปกติที่ผมจะไม่พูดคุยกับเด็กในขณะที่อยู่กับแม่ และจะไม่คุยกับแม่ให้เด็กเห็น 
สิ่งหนึ่งที่จับได้คือ เด็กกลัวแม่ไม่รัก เด็กกลัวแม่เกลียด เด็กเสียใจที่ทำให้แม่เสียใจ
และอีกด้านนึงที่จับความรู้สึกได้คือ แม่กลัวเด็กตาย กลัวลูกสาวกลัวตัวเอง(แม่)
สรุปว่า กลัวอีกฝ่ายไม่สบายใจ -_-''

หรือเรื่องสุดclassicที่เคยได้ยินมา เด็กมาโรงพยาบาลด้วยเรื่องแบบนี้ และครอบครัวมากันหมด
พ่อ แม่ ปู่ ย่า (หรือตายาย) ผลัดมาถามหมอว่าเด็กเป็นอะไร
ทุกคนบอกว่าอย่าบอกใครว่าเด็กเป็นอะไร(และขอให้ทำเป็นบอกญาติๆต่อหน้าเด็กว่าไม่ได้เป็ฯอะไรมาก เลือดไหลธรรมดา)
ส่วนเด็กก็ไม่อยากให้คนในครอบครัวรู้ กลัวเสียใจ

สรุปว่าทุกคนกลัวคนในครอบครัวเสียใจ....
ก็เป็นความรักแบบครอบครัวไทยที่น่ารักดีไปอีกแบบ



*****************************************************************************


ส่วนเรื่องการป้องกัน
1. ใช้ถุงยางทุกครั้ง (ผมไม่ได้ชี้โพรงให้กระรอกนะ เพราะโพรงมันวางในSeven)
เพราะส่วนใหญ่ของคนที่พลาด จะไม่ได้ใช้ถุงยางและหลั่งข้างนอก โอกาสพลาดมีดังนี้คือ
ก. เผลอหลั่งข้างใน
ข. ไม่รู้ว่าน้ำใสๆที่หลั่งออกมาก่อนของผู้ชายน่ะ ที่จริงก็มีเชื้ออสุจิอยู่ ดังนั้นยังไม่ถึงก็ท้องได้
ค. หลั่งเปื้อนข้างนอกแล้วไม่ล้าง มันก็ว่ายเข้าไปดิ
2. เลิกได้ก็ดี นับวัน น่ะ
หน้า7หลัง7 ไม่เห็นนับถูกเลย.. นับผิดประจำ
3. เอาเครื่องขายถุงยางอัตโนมัติให้ลับหูลับตาคนหน่อย
ในโรงพยาบาลที่ผมอยู่มีเครื่องนี้สองเครื่อง เครื่องแรกตั้งหน้าห้องน้ำ อีกเครื่องตั้งที่หน้าห้องยา(ที่มีคนตลอด)
เนื่องจากคนที่มีปัญหาทำแท้งที่อายุน้อยก็มีมาก ก็ไม่แปลกที่จะไม่กล้าซื้อถุงยางในร้านสะดวกซื้อ ผมก็เคยเห็นเหมือนกันที่เด็กมัธยมที่มาฝึกงาน

 

เรื่องเล่าหลังทำแท้ง

 

ดิฉันไปทำแท้งมาเมื่อวานนี้คะ รู้สึกเจ็บไปทั้งกายและใจมากๆ คิดอยู่เสมอว่าไม่อยากเอาลูกออกเพราะยังไงคนเลวๆอย่างดิฉันก็ยังมีความรู้สึกของคนเป็นแม่อยู่บ้าง แต่เนื่องจากดิฉันยังต้องเรียนอยู่และยังเด็กมากๆไม่พร้อมแน่ๆที่จะรับภาระของผู้เป็นแม่ได้ 

ดิฉันจึงลองหาข้อมูลสถานที่รับทำในเวปนี้มาได้ 2 ที่คือที่....กับที่ ..... ดิฉันได้ไปที่.....ก่อนปรากฏว่าข้อมูลไม่ตรงนะคะ ดิฉันท้องได้ 2เดือนครึ่ง เค้าบอกมาว่าใช้วิธีเหน็บยาไม่มีวางยาสลบและค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 17000 บาท ต้องนอนที่รพห้ามญาติมาเฝ้าและเยี่ยมด้วย ดิฉันจึงลองไปที่.... ดู ก็ค่าทำอยู่ที่ 1950 พนักงานทุกคนใจดีมากๆคะ 
ตอนที่ดิฉันเข้าไปในห้องทำแท้งจิตใจดิฉันแย่มากๆมือเย็น ตัวสั่น หูอื้อไปหมด พอคุณหมอเดินมา วูบนึงที่ดิฉันอยากหนีออกไปจากห้องนี้เหลือเกิน พอคุณหมอเริ่มลงมือดูดเอาลูกของดิฉันออกไป ดิฉันเจ็บปวดมากมันไม่ได้ปวดที่ร่างกายอย่างเดียวมันเจ็บทั้งจิตใจด้วย เพราะดิฉันคิดว่าดิฉันเจ็บแค่ไหนลูกของดิฉันก็จะเจ็บกว่าล้านเท่าดิฉันจึงยิ่งรู้สึกแย่จนเผลอสะอื้นออกมาจนคุณหมอดุเลยล่ะ ที่ดิฉันอ่านมามีคนบอกว่าเจ็บนิดเดียวเหมือนมีเมนบ้างล่ะ เจ็บแค่ไม่กี่นาทีบ้างล่ะ แต่สำหรับดิฉันมันอาจแค่ไม่กี่นาทีในความเป็นจริง แต่ในจิตใจของดิฉันนั้นมันนานมากๆ พอทำเสร้จพี่พนักงานก้ผยุงดิฉันไปที่เตียงแต่ดิฉันหน้ามืดจนเป็นลมกลางทาง พี่พนักงานจึงเอาแอมโมเนียมาให้ดม ดิฉันจึงลุกขึ้นและเดินกลับไปพักที่เตียงได้ ระหว่างนั้นดิฉันทุกข์ใจมากที่สุดในชีวิตดิฉันได้ทำไปแล้วดิฉันฆ่าลูกตัวเองไปแล้ว ดิฉันทรยศต่อคำว่า"แม่" เด็กคนนั้นอุตส่ายอมมาเกิดในตัวดิฉันที่แสนเลวได้ แต่ดิฉันกลับไปฆ่าเด็กคนนั้นตายเสียแล้ว แล้วแบบนี้ในอนาคตข้างหน้าเมื่อดิฉันพร้อมที่จะมีลูกบ้าง แล้วใครจะยอมมาเกิดกับดิฉันที่ทำร้ายลูกตัวเองได้ล่ะ ถึงก่อนที่จะไปทำแท้งดิฉันได้ไปทำสังฆทานขออโหสิกรรม และขอให้ลูกรอเมื่อดิฉันพร้อม แต่มันก็ยังรุ้สึกแย่อยู่ดี พอถึงบ้านดิฉันร้องไห้ตลอดทั้งคืน ยังไม่หยุดเลยแม้กระทั่งตอนนี้ มันเอ่อล้นมาตลอด แม้ดิฉันจะทำใจเมื่อรู้ว่าท้องและต้องทำแท้งอยู่มาแรมเดือน แต่ก้ยังรู้สึกไม่ดีมากๆในสิ่งที่ทำลงไป ดิฉันคิดทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานซ้ำไปซ้ำมาตลอด ถึงในเวลานี้เค้าจะไม่ได้อยู่ในตัวของดิฉันแล้ว แต่เค้าก้ยังอยู่ในใจดิฉันเสมอ ดิฉันรู้ตัวในสิ่งที่ทำไปมันเป็นบาปที่ไม่น่าให้อภัยที่สุด แต่นี้คือบทเรียนอันมีค่ามากที่สุดของดิฉัน มันทำให้ดิฉันเปลี่ยนเป็นคนละคนอย่างน้อยดิฉันก็เข็ดเรื่องsexไปอีกนาน และจำเรื่องเมื่อวานไปจนตาย

 

ฝากถึงเพื่อนๆพี่ๆทุกคนนะคะ ถ้าจะมีsexก็คุมให้ดีๆด้วยนะคะถ้ามันพลาดแบบดิฉันไม่คุ้มเลยกับความสนุกแค่ไม่นานนั้น แต่ถ้ามันพลาดไปแล้วก็อย่าให้มีอีกซ้ำสองนะคะ 
ปล.ดิฉันเขียนเรื่องของดิฉันไว้เป็นอุทาหรณ์ให้แก่คนที่กำลังจะไปทำ ถ้าพวกคุณพร้อมก็อย่าไปทำเลยคะ ที่ดิฉันต้องทำเนี้ยเพราะอายุของดิฉัน ถ้าพ่อแม่รู้ว่าท้องขึ้นมา คนรักของดิฉันได้เข้าคุกแน่ๆ ในตอนนี้ดิฉันก็ได้แต่ทำบุญไปให้เค้า 


อ่านเรื่องจริงประสบการณ์ของคนที่เคยไปทำแท้งได้อีกที่http://www.clinicrak.com/birthcontrol/lady_abortion14.html

 

ขอขอบคุณคลิปจากWachira Liang 

 

 

อย่าคิดว่าเป็นเรื่องไร้สาระเลยนะค๊ะ

เป็นความรู้และเตือนสติก่อนที่จะคิดตัดสินใจทำอะไรลงไป

 

ดูแบบเต็มๆตาและอ่านรายละเอียดทั้งหมดได้ที่ลิ้งค์นี้ค่ะ

http://www.jabchai.com/main/view_joke.php?id=5664

 

ถ้าดูไม่ได้ดูที่ลิ้งค์นี้นะค๊ะ

http://video.mthai.com/player.php?id=15M1221796447M0

 

Credit: http://www.jabchai.com/main/view_joke.php?id=5664
24 เม.ย. 56 เวลา 15:36 6,827 3 100
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...