เมื่อเวลา 22.30 น. วันที่ 23 เม.ย. ผู้สื่อข่าว ข่าวสด รายงานว่า พ.ต.ท.เชาวลิต ส่องเมืองสุข พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการ สน.บางยี่เรือ รับแจ้งมีเหตุหญิงถูกน้ำกรดสาดใส่ใบหน้าและตามร่างกายได้รับบาดเจ็บบริเวณตู้โทรศัพท์ริมถนนอิสรภาพ ปากซอย 11 แขวงบางยี่เรือ เขตธนบุรี กทม.จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้วรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.ท.วิชัย สนสกุล สว.สส.สน.บางยี่เรือ และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู

 ที่เกิดเหตุอยู่บนบาทวิถีห่างจากร้าน 7-11 สาขาอิสรภาพ 11 ประมาณ 20 เมตร เจ้าหน้าที่พบคราบน้ำกรดเปียกไปทั่วบริเวณ ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บถูกพลเมืองดีช่วยเหลือนำตัวส่ง ร.พ.ศิริราช ไปก่อนหน้านี้ ทราบชื่อภายหลัง คือ น.ส.ขวัญฤดี เปียสกุล อายุ 22 ปี อยู่ต.ทุ่งคา อ.เมืองชุมพร จ.ชุมพร มีอาการถูกของเหลวลักษณะเป็นกรดสาดที่ใบหน้าซีกซ้ายและท่อนแขนจนแสบร้อนเป็นรอยแดง เบื้องต้นแพทย์ให้การปฐมพยาบาลจนอาการดีขึ้นแล้ว

 จากการสอบสวน นางวิลาวรรณ กั้นเขต อายุ 53 ปี แม่ค้าผลไม้อยู่ด้านหน้าร้าน 7-11 ซึ่งเห็นเหตุการณ์เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุเห็นผู้เสียหายเข้าไปในร้าน 7-11 เพื่อซื้อน้ำแข็งยูนิคกับข้าวกล่อง จำนวน 1 ชุด ระหว่างที่เดินออกมาเห็นหญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกัน 2 คน โดยคนหนึ่งมีลักษณะคล้ายทอมเดินตามประกบออกมาด้วย จากนั้นสักพักก็ได้ยินเสียงคนเจ็บกรีดร้องขอความช่วยเหลือเสียงดังและล้มนอนลงกับพื้นบอกว่าถูกน้ำกรดสาดใส่บริเวณใบหน้ากลุ่มพ่อค้าแม่ค้าและพลเมืองดีจึงช่วยนำน้ำสะอาดไปล้าง ให้หายจากอาการแสบก่อนช่วยกันนำตัวส่ง ร.พ.ศิริราช เพื่อให้แพทย์ช่วยปฐมพยาบาล ซึ่งระหว่างที่พลเมืองกำลังช่วยเหลือเหยื่ออยู่นั้น ตนพยายามพูดคุยกับคนเจ็บจับใจความได้ว่า เจ้าตัวปัจจุบันศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จชั้นปีที่ 3 พักอยู่ในหอพักชื่อเฮง ภายในซอยอิสรภาพ 11 และกำลังอยู่ระหว่างฝึกงานที่บริษัทแห่งหนึ่ง 

 ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปตรวจสอบที่ร้าน 7-11 เพื่อขอดูหน้าตาคนร้ายจากกล้องวงจรปิด แต่ผู้จัดการร้านอ้างว่าต้องทำหนังสือขออนุญาตสำนักงานใหญ่เสียก่อนจากนั้นจึงได้เดินทางไปยังหอพักดังกล่าวจึงทราบว่าน.ส.ขวัญฤดี เพิ่งย้ายมาอยู่ได้ไม่ถึง 1 เดือน โดยมาเปิดห้องเช่ารายเดือน เดือนละ 2,000 บาท กับเพื่อนสนิท ชื่อ น.ส.บี อายุ 22 ปี ซึ่งมีลักษณะคล้ายทอมบอย แต่เมื่อทดลองโทรศัพท์ติดต่อไปหา น.ส.บี อ้างว่าอยู่ต่างจังหวัดกำลังร่วมงานศพคนรู้จักและเพิ่งทราบว่าเพื่อนสนิทถูกทำร้าย

 เมื่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนเดินทางไปตรวจสอบอาการผู้บาดเจ็บที่ร.พ.ศิริราช พบว่าแพทย์ยังให้นอนดูอาการอยู่ที่ห้องฉุกเฉินและยังไม่อนุญาตให้สอบปากคำ แต่ระหว่างนั้นตำรวจได้โทรศัพท์ติดต่อไปหาญาติ น.ส.ขวัญฤดี ที่ จ.ชุมพร ได้ข้อมูลว่าผู้ก่อเหตุน่าจะเป็นสาวทอมเพื่อนสนิทคนเก่าของ น.ส.ขวัญฤดี ทราบเพียงชื่อเล่นว่า ลูกหมู ร่วมมือกับแฟนสาวคนใหม่ที่มีประวัติเคยพูดจาข่มขู่กันมาก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตามจะรอให้เหยื่ออาการทุเลาเสียก่อนเพื่อทำการสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้งและจะรีบทำหนังสือขออนุญาตดูกล้องวงจรปิดจากร้าน7-11 ยืนยันตัวตนขอคนร้ายและติดตามมาดำเนินคดีต่อไป