เรื่องเกิดเมื่อมหาเศรษฐีอันดับต้นๆของอินเดีย นายมูเกช อัมบานี ถูกกลุ่มมูจาฮีดีน มุสลิมสุดโต่งสายอินเดียข่มขู่เอาชีวิต ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องจัดกำลังมารักษาความปลอดภัยเขาอย่างเต็มที่ โดยนายอัมบานีอาศัยอยู่ในตึกสูงถึง 27 ชั้นในนครมุมไบ การรักษาความปลอดภัยเขาอย่างเข้มข้นระดับ VIP ที่ว่านี้ จึงต้องใช้เจ้าหน้าที่ตำรวจมากถึง 24 นาย ผลัดเปลี่ยนกันเฝ้าเวรยามตลอด 24 ชั่วโมง 

 

การรักษาความปลอดภัยนี้ไม่ได้ให้ฟรีๆ นายอัมบานีให้ค่าตอบแทนตำรวจทั้งทีมถึงเดือนละ 520,000 บาท เพื่อแลกกับความอุ่นใจ

 

การรักษาความปลอดภัยระดับนี้ ปกติใช้กับนักการเมืองหรือข้าราชการระดับสูงเท่านั้น แต่ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติของอินเดียบอกว่า นายอัมบานี ผู้เป็นนักธุรกิจ นักลงทุนอันดับหนึ่งของประเทศ และมีทรัพย์สินมากถึงเกือบ 7 แสนล้านบาท ถือเป็น "ทรัพยากร" ที่สำคัญของประเทศ จึงสมควรได้รับการปกป้องเป็นกรณีพิเศษ

 

แน่นอนว่าการแก้ตัวแบบนี้ สร้างความไม่พอใจให้กับชาวอินเดียอย่างมาก โดยประชาชนส่วนใหญ่โจมตีว่านอกจากตำรวจจะให้สิทธิพิเศษกับนักธุรกิจที่มีเส้นสายกับนักการเมืองอย่างออกนอกหน้าแล้ว ยังล้มเหลวในการปกป้องคุ้มรองคนธรรมดาเดินดินให้มีความปลอดภัยตามที่ควรจะเป็นอีกด้วย โดยโยงเรื่องนี้ไปเทียบกับกรณีข่มขืนหญิงสาวและเด็กหญิงในอินเดียหลายคดี ทั้งคดีข่มขืนนักศึกษาแพทย์บนรถเมล์ในนิวเดลีเมื่อต้นปีที่ผ่านมา และกรณีข่มขืนเด็กวัย 4 และ 5 ขวบ ที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นไม่นาน 

 

กรณีข่มขืนทั้ง 3 คดีนี้ ตำรวจตกเป็นเป้าโจมตีอย่างหนักว่าไม่มีประสิทธิภาพในการทำงาน โดยเฉพาะ 2 คดีหลังที่เด็กโดนข่มขืน พ่อแม่ของเด็กไปแจ้งความ แต่กลับถูกปฏิเสธไม่รับแจ้ง ขณะที่มีอีกหลายกรณีที่ผู้หญิงไปแจ้งความว่าถูกข่มขืน แต่กลับถูกทำร้ายร่างกายและล่วงละเมิดทางเพศโดยตำรวจเสียเอง

 

การรักษาความปลอดภัยแบบ VIP จึงถูกตั้งคำถามว่าจำเป็นหรือไม่ หรือควรจะเอากำลังตำรวจที่ปัจจุบันก็ไม่ค่อยจะเพียงพออยู่แล้ว ไปปฏิบัติหน้าที่พิทักษ์สันติราษฎร์มากกว่ามาห้อมล้อมนักการเมืองหรือนักธุรกิจรวยๆ ซึ่งสามารถจ้างหน่วยรักษาความปลอดภัยเอกชนมาทำหน้าที่นี้ได้อยู่แล้ว

 

สำหรับวัฒนธรรมการให้บริการรักษาความปลอดภัยแบบ VIP ไม่ใช่เรื่องใหม่ในอินเดีย แต่เป็นสิ่งที่ตำรวจทำกันมานานแล้ว เฉพาะในนิวเดลี ที่มีตำรวจ 75,000 นาย มีถึง 8,000 นายที่ต้องไปทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยบุคคล VIP 460 คน คิดเป็นสัดส่วน VIP 1 คน ต่อเจ้าหน้าที่ 17 นาย ขณะที่อัตราส่วนตำรวจต่อประชาชนเดินดิน ต่างกันอย่างสิ้นเชิง อยู่ที่ตำรวจ 1 นายต่อประชาชน 250 คน

 

Credit: http://board.postjung.com/672829.html#