นายบุญภาส รักนุ้ย นายอำเภอตะโหมด จ.พัทลุง พร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่สำรวจเส้นทางท่องเที่ยวตลอดแนวเทือกเขาบรรทัดใน 4 อำเภอ คือ .ป่าบอน ตะโหมด กงหรา และ อ.ศรีนครินทร์ โดยยึดเส้นทางสายในเป็นหลัก คือเส้นทางสายบ้านโคกพ้อ-สะพานหวย รวมระยะทางประมาณ 60 กิโลเมตรเตรียมโครงการของงบประมาณพัฒนาเป็นถนน 4 เลน ในการส่งเสริมการท่องเที่ยว เนื่องจากเส้นทางดังกล่าวในปัจจุบันกลายเป็นเส้นทางเศรษฐกิจภาคเกษตร ไม่ว่าจะเป็นยางพารา ข้าว ปาล์มน้ำมัน และไม้ผล ตลอดถึงการท่องเที่ยวในแต่ละปีที่เงินสะพัดในพื้นที่กว่า 1 พันล้านบาท
นายบุญภาสกล่าวด้วยว่า เงาะป่าซาไกหรือชนเผ่ามันนิ เป็นทรัพยากรมนุษย์มีค่าและยิ่งใหญ่ระดับโลกที่ยังคงหลงเหลืออยุ่ในพื้นที่ป่าภูเขาบรรทัด จ.พัทลุง ประมาณ 2 จุด รวมประมาณ 60 คน คือท้องที่ หมู่ที่ 7 ต.ทุ่งนารี อ.ป่าบอน และหมู่ที่ 11 ต.คลองเฉลิม อ.กงหรา โดยเฉพาะที่สันควนห้วยขวาง หมู่ที่ 11 ต.คลองเฉลิม มีทับของเงาะป่าซาไกอยู่ประมาณ 11 ครอบครัว รวม 29 คน แยกเป็นผู้ใหญ่ 18 คน และเด็ก 11 คน มีเฒ่าลอยเป็นผู้ปกครองทับ รักษาตำแหน่งกำนัน เฒ่าแดงเป็นผู้ใหญ่บ้าน
"ได้มีโอกาสพักค้างแรมกับเงาะป่าซาไกและสอบถามพูดคุยถึงวิถีความเป็นอยู่ ก็ได้รู้ว่าพวกเขาเหล่านั้นไม่มีอดีต ไร้อนาคต ยืนหยัดอยู่เพียงปัจจุบัน ชีวิตไม่ได้ต้องการอะไรไปมากกว่ามีกินไปวันๆ ไม่ต้องการปัจจัย 4 อย่างคนเมืองใช้ชีวิตผสมกลมกลืนกับป่า เพราะป่าคือลม หายใจของพวกเขา" นายบุญภาสกล่าว
สำหรับมิติทางด้านการท่องเที่ยวนั้น นายบุญภาสกล่าวว่า นอกจากจะให้ชาวบ้านในพื้นที่มีรายได้จากการท่องเที่ยวแล้ว ยังเป็นกุศโลบายอย่างหนึ่งในด้านการรักษาป่า เส้นทางสายบ้านโคกพ้อ-สะพานหวย นอกจากจะเป็นเส้นทางสายเศรษฐกิจแล้ว ยังเชื่อมโยงเป็นเส้นทางท่องเที่ยวได้หลากหลายทั้ง 4 อำเภอ เช่น เส้นทางน้ำตก ร่วมกว่า 20 แห่ง เส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติเขาเจ็ดยอด เขาหลัก แลเขาล่อนสวนสมเด็จย่า สวนสละลุงถัน สวนเกษตรวิถีพุทธ ที่สำคัญพี่น้องไทยพุทธและไทยมุสลิมอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ผู้ที่ไปสัมผัสจะได้พบกับวิถีชีวิตทั้งของเงาะป่าซาไก ชุมชนที่อยู่กันอย่างพอเพียง ธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ และช่วยให้ท้องถิ่นมีรายได้มาพัฒนาอย่างต่อเนื่องอีกด้วย.