คดีนี้เริ่มขึ้นเมื่อผู้หญิงทำงานให้กับไนต์คลับแห่งหนึ่งในฮ่องกง เมื่อ ฟาน มัน-ยี (อายุ 23 ปี) ถูกลักพาตัวโดยผู้ชายสามคนคือ
ชาน มัน-ลก (อายุ 34 ปี), เหลียง ชิง-โช (อายุ 27 ปี) เหลียง ไหว-หลัน (อายุ 21 ปี) พวกเขานำเธอไปอพาร์ทเมนต์ใน แกรนวิล โลด,
ซึม ชา ซุย ซึ่งคดีดังกล้าวถือว่าเป็นคดีดังของฮ่องกงเนื่องจากทำให้ฮ่องกงเสื่อมเสียอย่างมากค่ะ เพราะคนภายนอกมักคิดว่าฮ่องกง
อดีตอาณานิคมของอังกฤษนั้นเป็นเมืองแห่งความเจริญ แม้มันจะแออัด แต่ก็ปลอดภัย (จากสถิตอัตราการฆ่ากันตายในฮ่องกง
คิดเป็น 1.23 ต่อ 100,000 คน) ดังนั้นปัญหาอาชญากรรมจึงไม่ควรมีเด็ดขาด หากแต่เมื่อเกิดคดี 'คิตตี้สังหาร' ทำให้หลายฝ่ายเก็บ
ไปคิดอีกครั้งว่าฮ่องกงทุกวันนี้ปลอดภัยจริงหรือ ?? แต่คดีนี้มันก็นานพอสมควรแล้วล่ะค่ะ
ต่อไปนี้คือวิธีการทรมานของฆาตกรค่ะ ใครไม่อยากอ่านข้ามได้เลยค่ะ
พวกเขานำเธอไปอพาร์ทเมนต์ในถนน Granville ซึม ชา ซุย ทั้งหมดมีอาชีพเป็นแมงดา และสาเหตุที่ลักพาตัวก็เนื่องจากผู้หญิง
ดังกล่าวไม่ได้ใช้หนี้ตามที่กำหนด (เธอเป็นหนี้ประมาณ 20,000 ดอลลาร์ฮ่องกง หรือประมาณ 2560 ดอลลาร์สหรัฐ) พวกเขากักขังเธอ
เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 1999 และทรมานเธอจนกว่าจะเธอใช้หนี้ โดยทั้งสามเริ่มทำร้ายร่างกายของเหยื่อทุกวันจะตีหัวเธอจนเลือดออก
ช่วยกันแตะตามลำตัว แล้วเอาน้ำมัน และพริกมาราดบาดแผลและปากของเธอ จากนั้นก็บังคับให้เธอดื่มและกินปัสสาวะและอุจจาระ
เอาพลาสติกที่ละลายด้วยความร้อนไปละเลงที่ตัวอันเปล่าเปลือยของเธอ เมื่อเหยื่อเธอหมดสติก็ผูกกับขื่อนานหลายชั่วโมงจากนั้นก็
เฆี่ยนเธอ เอาไฟเผาเท้าเธอ หลังจากที่กักขังมานานจนกระทั้งเดือนเมษายน 1999 เธอก็ถูกขาดใจตายในสภาพใบหน้าบวม
เลือดกลบปาก ร่างกายเต็มไปด้วยแผลพุพอง และหนอง เมื่อพวกผู้ชายเห็นผู้หญิงตายพวกเขาตกใจมาก และมีความคิดกำจัดศพ
พวกเขาเอาศพของเธอไปที่อ่างอาบน้ำแล้วช่วยกันชำแหละร่างกายดังกล่าวเป็นท่อนๆ โดยมีน้ำร้อนลวกเหมือนชำแหละหมู
(มีการทำให้สุกเหมือนปรุงอาหารด้วย) เครื่องในจำพวกหัวใจ ตับ ปอด และกระดูกบางส่วนถูกนำมาใส่พลาสติกที่จะถูกนำไปทิ้ง
เหลียง ชิง-โช รับผิดชอบในการชำแหละเครื่องในออกจากท้องของเธอ ซึ่งเมื่อเขาเห็นลำไส้ออกจากท้องก็อาเจียน ส่วนอีกคน
ได้ก็ตัดหัวของเธอยัดลงไปในตุ๊กตาฮัลโล คิตตี้ โดยเอาผ้าฟ้ายออกแล้วยัดกระโหลดศีรษะเข้าไปแทน จากนั้นพวกเขาทิ้งร่างกาย
ส่วนอื่นๆ ไปยังที่ต่างๆ ตามถังขยะ (ส่วนสาเหตุที่ยัดหัวลงตุ๊กตาคริสตี้ไม่ระบุ) นอกจากนี้ผนังในห้องยังตกแต่งใหม่เพื่อกำจัดหลักฐานด้วย
หลังจากนั้นค่ะ
หลังจากผ่านไปสองเดือนแฟนสาวของหนึ่งในสามของฆาตกรที่ฆ่าหญิงผู้ตาย ได้กลายเป็นโรคประสาทโดยบอกว่าเธอถูกผีผู้ตาย
เข้าสิงเธอทำให้เธอฝันร้ายตลอดคืน หลังจากเธอพูดคุยกับนักสังคมสงคราะห์ เธอก็ได้แจ้งความในวันที่ 24 พฤษภาคม และก็ได้เล่า
ความจริงทั้งหมดให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งในเวลาต่อมาก็มีตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุพบว่าภายในส่งกลิ่นเหม็นอย่างรุนแรงและภายในเต็ม
ไปด้วยขยะและเศษเลือดและมีดบางส่วนเห็นได้ชัดว่ามีการฆาตกรรมที่โหดร้ายเกิดขึ้นที่นี้แน่นอน โดยเฉพาะพวกเขาพบตุ๊กตาคิตตี้ที่
เปื้อนเลือดส่งกลิ่นเหม็นพิงอยู่ผนังทางเดิน หลังจากตรวจสอบพบว่ามีวัตถุแข็งอะไรบางอย่างและเมื่อเขาพบก็พบว่ามีกะโหลกศีรษะ
พร้อมฟัน และอวัยวะภายในบางส่วน และที่หม้อสแตนเลสและหม้อดินยังมีเศษเนื้อที่เน่าเชื่อว่าน่าจะเป็นการต้มเพื่อกำจัดศพอีกด้วย
.. ต่อมาทั้งสามคนก็ถูกจับและถูกตั้งข้อหาฆาตกรรม หากแต่กระนั้นก็ยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่าเธอเสียชีวิตได้อย่างไร
ซึ่งฆาตกรทั้งสามใช้เรื่องนี้ในการต่อสู้ในชั้นศาล โดยบอกว่าเหยื่อตายเพราะกินยาเกินขนาด และพวกเขาเชื่อว่าศาลไม่มีหลักฐานพอ
เอาผิดพวกเขา ซึ่งปกติแล้วหากเกิดคดีดังกล่าวที่จีนแผ่นดินใหญ่ ศาลจะตัดสินอย่างรวดเร็วและเด็ดขาดถึงโทษประหาร แต่ฮ่องกงไม่มี
โทษประหาร ทำให้พวกเขาถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต และมีโอกาสที่จะถูกปล่อยตัวเมื่อเวลาผ่านไป 20 ปี โดยวันที่ 6 ธันวาคม 2000
ผู้พิพากษาคดีนี้กล่าวว่า 'ไม่มีคดีไหนในฮ่องกงที่แสดงถึงพฤติกรรมของมนุษย์ที่กระทำต่อเพื่อนมนุษย์ที่ โหดร้าย, เลวร้าย, ใจดำ
อำมหิต และน่ากลัวเท่าคดีนี้อีกแล้ว' ซึ่งคดีนี้ได้ถูกนำไปสร้างหนังเรื่อง Human Pork Shop (2001)