วันนี้(22 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุระเบิดในกองบังคับการชุดเฉพาะกิจนราธิวาส 32 อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ขณะหน่วย อีโอดี เฉพาะกิจนาวิกโยธิน ทำการตรวจสอบวัตถุระเบิดที่เก็บกู้ได้เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ทำให้เจ้าหน้าที่ อีโอดี เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ 2 นาย ส่วนอีก 7 นาย ได้รับบาดเจ็บ นำส่ง รพ.นราธิวาสแล้ว โดยระเบิดลูกดังกล่าวทาง ฉก.นราธิวาส 32 และชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด นาวิกโยธิน กองทัพเรือ เก็บกู้มาจากบริเวณริมถนนเพชรเกษม สาย 42 ปัตตานี - นราธิวาส ช่วงบริเวณบ้านจำปากอ หมู่ 1 ต.กาเยาะมาตี อ.บาเจาะ แล้วนำมาตรวจสอบที่ฐาน กระทั่งเกิดเหตุสลดดังกล่าว ส่วนสาเหตุคาดเกิดความผิดพลาดจากการใช้สารเคมีตรวจสอบระเบิด

เบื้องต้นทราบชื่อ ชุดเก็บกู้นาวิกโยธิน ที่เสียชีวิต คือ ร.ท.ชัยสิทธิ์ เตชะสว่างวงศ์ และ จ.อ.เรวัตร คงนาค ต่อมา พ.จ.อ.ทัศนัย ชมพูทวีป ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส เสียชีวิตเป็นรายที่ 3 และ จ.อ.องอาจ  ศักดา เสียชีวิตเป็นรายที่ 4 ส่วนกำลังพลที่เหลืออีก 6 นาย  ถูกนำส่งรักษาที่ รพ.บาเจาะ และส่งต่อ ร.พ.นราธิวาสราชนครินทร์ ในเวลาต่อมา

สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ น.อ.สมเกียรติ ผลประยูร ผบ.ฉก.นย.ภาคใต้ ค่ายจุฬาภรณ์ ได้นำกำลังพร้อมด้วย น.ท.ธรรมนูญ วรรณา ผบ.ฉก.นราธิวาส 32 และชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด นาวิกโยธินภาคใต้ ค่ายจุฬาภรณ์ กลับจากเก็บกู้วัตถุระเบิดหนัก 20 กก. ที่คนร้ายประกอบไว้ในถังแก๊สปิกนิกสีส้ม จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร บริเวณโคนต้นไม้ใต้ป้ายผ้าต่อต้านการเจรจา ริมถนนในพื้นที่ บ้านจำปากอ ม.1 ต.กาเยาะมาตี อ.บาเจาะ ช่วงเช้าที่ผ่านมา และเมื่อกลับถึงภายในกองบังคับการ ฉก.นราธิวาส 32 วงจรระเบิดได้เกิดทำงานผิดพลาดขึ้นมา ทำให้เกิดระเบิดขึ้นเจ้าหน้าที่เสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับวงจรระเบิด ที่เก็บกู้มาตรวจสอบนั้น โจรใต้วางวงจรระเบิดสองชั้น แบบที่เรียกว่า "วงจรแบบหัวล้านชนกัน" ซ่อนไว้ เมื่อหน่วยอีโอดี ไปแกะเพื่อตรวจสอบ เพื่อศึกษา ก็ไปถูกวงจรที่ซ่อนอยู่ระเบิด จนเกิดเหตุระเบิดขึ้น

ด้าน พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) กล่าวว่า หน่วยอีโอดีได้รับแจ้งว่า มีวัตถุต้องสงสัยจึงเดินทางไปเก็บวัตถุระเบิด โดยคนร้ายใส่ระเบิดไว้ในถังแก๊ส ซึ่งอีโอดีชุดดังกล่าวได้เก็บกู้เรียบร้อยแล้ว แต่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด เพราะคนร้ายวางระเบิดไว้ 2 ชั้น เมื่อชุดอีโอดีนำถังแก๊สมาตรวจสอบภายในหน่วย และทำการแกะชิ้นส่วนทำให้เกิดการระเบิดขึ้น โดยล่าสุดพบว่า มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 4 นาย และผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 6 นาย ซึ่งขณะนี้ทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ทั้งนี้ตนได้สั่งกำชับให้ระมัดระวังตัวตลอด แต่ชุดอีโอดีที่ไปปฏิบัติงานต้องระมัดระวังตัวมากขึ้น อย่างไรก็ตามกองทัพเรือพร้อมช่วยเหลือและดูแลครอบครัวของกำลังที่ได้ปฏิบัติหน้าที่เพื่อประเทศชาติ

แหล่งข่าวความมั่นคงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้  กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีที่ กรมทหารพรานที่ 41 ได้ควบคุมตัวครูสาว เมื่อวันที่ 20 เม.ย.ที่ผ่านมา เนื่องจากพบว่ามีความเชื่อมโยงกับกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า จากข่าวกรองในพื้นที่พบว่า ครูสาวคนดังกล่าวมีความเชื่อมโยงเกี่ยวพันกับเหตุระเบิด จนทำให้ทหารพรานจากกรมทหารพรานที่ 42 ได้รับบาดเจ็บ 4 นายที่รอยต่อ อ.โคกโพธิ์ และ อ.เทพา เมื่อปี 2555 ซึ่งตรงกับข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยเราได้เชิญครูสาวคนดังกล่าวมาสอบปากคำตามกฎอัยการศึก ซึ่งขณะนี้ได้ควบคุมตัวไว้ที่ค่ายทหาร หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 41 อ.รามัน จ.ยะลา ซึ่งขณะมีทั้งแกนนำเครือข่ายภาคประชาชนและภาคนักศึกษามาเยี่ยม แต่ไม่ได้มีปัญหาอะไร

ทั้งนี้หากตรวจสอบแล้วพบว่า ไม่มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มก่อความไม่สงบก็จะปล่อยตัว แต่การควบคุมตัวครั้งนี้เพราะเรามีข้อมูลจากฝ่ายข่าวทหารและทางตำรวจที่ตรงกัน ขณะนี้กลุ่มก่อเหตุไม่ได้ใช้เพียงเยาวชนเพียวอย่างเดียว ขณะนี้ได้ใช้สตรีมากขึ้น ส่วนครูสาวคนดังกล่าวนั้นมีความเชื่อมโยงทางเทคนิค   ซึ่งเราดูแลเป็นอย่างดี  ส่วนกรณีที่กลุ่มก่อความไม่สงบพยายามข่มขู่ว่า หากไม่ปล่อยตัวครูสาวจะพุ่งเป้าไปก่อเหตุกับหญิงสาวมากขึ้นนั้น เป็นเพียงฝ่ายเทคนิคของฝ่ายตรงข้ามที่พยายามโจมตี ถือเป็นเกมหนึ่งที่เขาพยายามสร้างเงื่อนไขในการเคลื่อนไหวก่อเหตุ