เนยกลัว.. คอลัมน์ สถานีคิดเลขที่ 12 โดย สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร
กระแส "แรงส์ จุงเบย" ของ "น้องเนย รักษ์โลก" ในโลกออนไลน์ ผ่าน ทวิตเตอร์ และเฟซบุ๊ก น่าสนใจ
น่าสนใจ เพราะไม่ได้ วูบวาบ แบบ กระแส "ครูอังคณา" หรือ "ศรปักเข่า"
คือมาแรง ไปเร็ว
แต่ "น้องเนย รักษ์โลก" ยืนหยัดมาตั้งแต่ปลายปี 2555 และ
ตอนนี้ก็ยัง "แรงส์"
แสดงว่า ภาพของเด็กหญิง ในชุดนักเรียนคอซอง ผมหยักศกสั้นเสมอติ่งหู ตาตี่ ปากเบิน (ซึ่งบางวันจะถูกดัดแปลง เป็นสาวเซ็กซี่ นางงาม ตัวการ์ตูน ฯลฯ ) ซึ่งถูก "สร้างขึ้น" นั้น
"โดน"
โดนอย่างที่ "มติชนสุดสัปดาห์" อธิบายว่า "น้อยเนย" เป็นบุคคลในโลกเสมือน ที่ถูกเนรมิตขึ้นจาก "ใครก็ไม่รู้" มีเป้าหมายให้แตกต่างจากผู้ใช้อินเตอร์เน็ตรายอื่นที่วนเวียนอยู่แต่เรื่องตนเอง
น้องเนย จึง ต้อง รักษ์โลก
โลก ที่ถูก "ปรับมุมมอง" และ "มองมุมกลับ"
น้องเนยจึงมากด้วยความต่าง มีเงี่ยงมีคม ขบกัด ยั่วล้อ หยอกเอิน
เต็มไปด้วยมุข ความฮาเฮ แต่ใสซื่อ
ดั่งม็อตโต้ ที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของน้องเนยไปแล้วคือ
"น้องเนยไม่กินผัก เพราะถือว่าเป็นการตัดไม้ทำลายป่า"
พร้อมกับติ่งท้ายประโยค เช่น เนยเชื่อ, เนยกลัว ,เนยจะไม่ทน, เนยเบื่อ
เรียกเสียงหัวเราะ หึหึ ไปถึง ก๊าก
น้องเนย จึง "โดน" จริงๆ
โดน เหมือนที่ โลกออนไลน์ตอนนี้กำลังโดน "อลินา มิรอง" ทนายความชาวโรมาเนีย หนึ่งในทีมสู้คดีตีความปราสาทพระวิหาร
ถึงขนาดบางคนแต่งกลอนเชิดชู
"เธอทั้งหวานทั้งเก่ง มีร็อง
อลีนา นวลน้องของใครเอ่ย
ทำได้ดี พี่ไทยได้ชมเชย
ใครก็เอ่ย ชมนางโรมาเนีย"
บางคนถึงขนาดบอกว่าหากไทยชนะคดี น่าจะมอบพลเมืองกิตติมศักดิ์ ให้เธอไปเลย
เป็นรอยยิ้ม ในความเครียด
"กระแส" ที่เกิดขึ้นนี้ ส่วนหนึ่งต้องยอมรับเป็นผลการทำการบ้านอย่างหนักของทีมกระทรวงต่างประเทศ จนสามารถมองเห็นและดึงเธอมาร่วมงาน
ซึ่ง "อลินา มิรอง" ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง
คงต้องให้เครดิต "การประชาสัมพันธ์เชิงรุก" ของ กระทรวงต่างประเทศ ในครั้งนี้
นอกเหนือจาก การถ่ายทอดสด การพิจารณาคดีของศาลโลก จนทำให้ เรารู้จัก "อลินา มิรอง"แล้ว
ยังมีการเปิดช่องทางสื่อสาร ให้ข้อมูลกับสังคม และสื่อมวลชน อย่างเต็มที่
ทำให้ "ช่องว่าง" ในการรับรู้ข่าวสารค่อนข้างเปิดกว้าง
แน่นอน ผล แพ้ ชนะ คงคาดการยาก
แต่ จากการใช้ยุทธวิธีเชิงรุก คราวนี้ ทำให้ ข้อสงสัย ทำนอง ไทยสู้คดีไม่เต็มที่ หรือ ไทยสมรู้ร่วมคิดกับเขมร มีน้ำหนักแผ่วเบาลงอย่างมาก
อันรวมถึงกระแสการรณรงค์ให้ถอนตัวออกจากการพิจารณาคดีของศาลโลก ด้วย
จึงถือเป็น ความสำเร็จ ที่คงต้องมอบ "เครดิต" ให้ กับกระทรวงต่างประเทศและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
แต่กระนั้น ขอยืม "ติ่งท้ายประโยค" ของน้องเนย มาใช้หน่อย
"เนย กลัว.."
กลัวกับกระแสมุมกลับของคนไทย นั่นคือพอเห็นว่Ȳเร
สญ้ค4ีไ้6ี