หลายคนอาจนิยามการท่องเที่ยวไว้หลายๆ แบบ และจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวส่วนใหญ่ก็คงหนีไม่พ้นทะเล ภูเขา น้ำตก และสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ ในเมืองใหญ่ แต่วันนี้ Travel MThai จะขอพาสมาชิกมิตรรักทุกท่าน ไปชมโรงเรียนของสงฆ์ในจีนกัน เอ๊ะ! หลายๆ คนคงสงสัยว่า สถานที่ปฏิบัตธรรมของสงฆ์ที่นี่ แตกต่างไม่เหมือนที่ไหนอย่างไร เพราะโรงเรียนแห่งนี้มีขนาดใหญ่มากๆ และนักเรียนส่วนใหญ่ก็ล้วนแล้วแต่เป็นนักบวช รองลงมาก็เป็นแม่ชี และอื่นๆ จนได้ชื่อว่า อาณาจักรของพระ กันเลยทีเดียว!
โรงเรียนสงฆ์ขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ในเมือง เซอต๋า (Sertar) เมืองเล็กๆ ในเขตปกครองตนเองชนชาติทิเบตกานจือ (Garze Tibetan Autonomous Prefecture) ของมณฑลเสฉวน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีนโดยเมือง เซอต๋า เต็มไปด้วยทรัพยากรทางด้านการท่องเที่ยวที่มีความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นภูมิทัศน์ทางธรรมชาติ และวัฒนธรรมที่อุดมสมบูรณ์ เช่น ทุ่งหญ้าอัน แสนกว้างใหญ่ ภูเขาหิมะ ทะเลสาบ ธารน้ำแข็ง เป็นต้น แต่ที่น่าสนใจไม่น้อยไปกว่ากันก็คงจะเป็น “สถาบันสงฆ์ลารุงกา” หรือ “สถาบันสงฆ์เซอต๋า“(Serthar Buddhist Institute) ในหุบเขาลารุง (Larung Valley) โดยอยู่ห่างจากถนนหลักประมาณ 4 กิโลเมตร และอยู่ห่างจากตัวเมืองเซอต๋าประมาณ 15 กิโลเมตร
สถาบันสงฆ์ลารุงกา เป็นสถาบันพุทธศาสนาแบบทิเบตที่ถูกก่อตั้งขึ้นในปี 1980 โดยเกนโป จิกมี พูนสก (Khenpo Jigme Phuntsok) ลามะนิกายญิงมาปะ (Nyingmapa) หรือ นิกายหมวกแดงซึ่งมีอิทธิพลมากที่สุดในทิเบต ปัจจุบันสถาบันสงฆ์ ลารุงกา นั้นถือว่าเป็นศูนย์กลางของพุทธศาสนาแบบทิเบตที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย โดยภายใน หุบเขาลารุง นั้นส่วนใหญ่จะเป็นที่ตั้งของกลุ่มอาคารที่พักของลามะ และวัดทิเบตซึ่งนับประมาณได้ว่าราวๆ 40,000-50,000 หลัง โดยอาคารแต่ละหลังก็ล้วนแล้วแต่ถูกสร้างอยู่เบียดเสียดแน่นชิดกันไป และไล่ลดหลั่นลงมาตามความลาดชันของภูเขา โดยจุดสูงสุดนั้นมีความสูงประมาณ 4,000-5,000 เมตร จากระดับน้ำทะเล
โดยภายในสถาบันสงฆ์ เซอต๋า ก็จะมีการแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนของพระภิกษุสงฆ์ และแม่ชี ซึ่งจะไม่ได้รับอนุญาตให้ออกจากพื้นที่ของตนเอง แต่ถึงอย่างไรก็ยังมีพื้นที่ส่วนกลางที่เปิดให้ทั้งพระ และแม่ชีสามารถพบกัน ได้ในลานด้านหน้าของอาคารหลักของสถาบัน แต่ส่วนใหญ่ก็ล้วนแล้วแต่ปฏิบัตรกิจวัตรทางธรรมกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นการสวดมนต์ ทำวัตร เดินจงกลม เดินก้มกราบ และอื่นๆ
สำหรับการเข้าชมภายในสถาบันสงฆ์ เซอต๋า นั้น เนื่องจากในบางช่วงก็ไม่ได้รับอนุญาติให้เข้าชม (โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติอาจต้องลุ้นกันหน่อย เพราะบางครั้งก็ไม่ได้รับอนุญาติให้เข้าไปเลย) โดยช่วงเวลาที่น่ามาเยือนมากที่สุด ก็น่าจะเป็นช่วงฤดูร้อน เนื่องจากในช่วงฤดูหนาวอากาศจะหนาวเย็นมาก ซึ่งในบางช่วงอาจติดลบถึง -25C (-13F) และส่วนใหญ่ในช่วงฤดูหนาวจะเป็นช่วงเวลาของเหล่านักแสวงบุญ ที่เดินทางมาจากทั่วทิเบต มาเยือนสถาบันสงฆ์แห่งนี้นับพันคนในทุกๆ ปี…