"ตู้ทิ้งเด็ก" หรือเมืองไทยควรมี?
ปัญหา ท้องก่อนวัยอันควรที่มีมาตลอดในประเทศไทยนั้น ก่อให้เกิดข่าวรายวันอันน่าสลดใจเมื่อมีเด็กถูกทิ้งให้เสียชีวิตทั้งๆที่ยัง ไม่ได้ลืมตาดูโลก รวมถึงคลีนิกทำแท้งเถื่อนก็มีอยู่ทุกซอกมุม และมีแนวโน้มว่าสถิตินี้จะสูงขึ้นเรื่อยๆ วิธีแก้ไขนั้นไม่ยากแต่ทำไม่ได้เพราะเนื่องจากการศึกษาและความเข้าใจของวัน รุ่นที่ไม่เพียงพอในเรื่องเพศศึกษา
ปัจจุบันนี้มีหลายประเทศได้มีการอนุญาติให้ใช้ ”ตู้ทิ้งเด็ก” หรือ Baby hatch , Baby drop boxes ขึ้น ตามโรงบาลของรัฐ เพื่อให้พ่อแม่ที่ไม่พร้อมจะเลี้ยงดูลูก สามารถนำทารกมาใส่ไว้ในตู้นี้ ดีกว่าจะนำเด็กไปปล่อยทิ้งไว้ตามถังขยะ หรือที่ต่าง ตู้นี้มีจุดกำเนิดมาจากนิกายโรมันคาทอลิกที่มีความเชื่อว่าแม่ไม่สามารถฆ่า ลูกตัวเองได้แต่เอามาทิ้งไว้ที่โบสถ์ให้คนอื่นเลี้ยงต่อได้
ส่วน ระบบการทำงานของตู้นี้ก็คือภายในตู้จะมีอุปกรณ์การแพทย์ที่จำเป็น สภาพอากาศภายในมีการรักษาระดับอุณหภูมิให้คงที่อยู่ที่ 36 องศา ตลอดเวลา มีระบบสัญญาณส่งเสียงไปที่บริเวณแผนกเด็กอ่อน ทั้งนี้พยาบาลจะมองเห็นทารกจากกล้องทีวีวงจรปิด แต่จะไม่เห็นใบหน้าของคนที่เอาเด็กมาหย่อนไว้ จากนั้นเจ้าหน้าที่จะดูแลทารกไว้ที่โรงพยาบาลสักระยะ เพื่อเปิดโอกาสให้แม่เด็กที่อาจจะเปลี่ยนใจอยากกลับมารับลูกคืน สามารถมารับลูกกลับคืนไปได้ แต่ถ้าหากเลยจากระยะเวลาที่กำหนดแล้ว ก็จะส่งต่อทารกไปไว้ตามสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าหรือบ้านพักเด็กอ่อนต่างๆ เป็นลำดับต่อไป
ตอนนี้มี ”ตู้ทิ้งเด็ก” อยู่ ในหลายประเทศทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นเยอรมันนี ออสเตรเลีย เบลเยี่ยม รัสเซีย แอฟริกา ในเอเซียมีที่ญี่ปุ่นและจีน ซึ่งทางรัฐบาลอนุญาติให้มีและคิดว่าจะช่วยลดปัญหาการเสียชีวิตของเด็กทารก ได้ทางหนึ่ง ทั้งนี้ยังไม่มีการยืนยันว่าจำนวนเด็กที่ถูกนำมาทิ้งนั้นมีจำนวนเท่าใด สำหรับในประเทศไทยแล้วยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ว่าควรมีหรือไม่ แต่ถ้ามองให้ลึกลงไปนั้นกลับเป็นการส่งเสริมหรือเปล่านั้นคงต้องแล้วแต่วิจา รณญานและจิตสำนึกของผู้เป็นแม่นั่นเอง