9 สิ่งที่คุณไม่ควรเก็บมาใส่ใจให้ปวดหัว

 

 

 

 

9 สิ่งที่คุณไม่ควรเก็บมาใส่ใจให้ปวดหัว

 

 

ในชีวิตของคนเรามีทั้งสุขและทุกข์วนเวียนปะปนกันไป ซึ่งหลาย ๆ คนมักจะคิดว่าความสุขอยู่กับเราไม่ได้นานเดี๋ยวมันก็ผ่านไป เพราะคนส่วนมากมักจะติดอยู่กับความคิดในแง่ลบ และเรื่องแย่ ๆ เสียมากกว่า จึงทำให้คนเหล่านั้นหาความสุขให้กับชีวิตแทบไม่ได้เลย ทั้งที่จริง ๆ แล้วความสุขอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากตัวคุณมากนักหรอก หากลองปรับเปลี่ยนทัศนคติดูบ้างก็เท่านั้น ในวันนี้กระปุกดอทคอมก็นำ 9 เรื่องที่คุณควรหยุดคิดมาฝาก ซึ่งหากทำได้เราเชื่อว่าคุณจะแฮปปี้กับชีวิตมากกว่าเดิมขึ้นอีกเยอะเลยล่ะ 

 ชอบเอาความคิดของคนอื่นมาใส่ใจมากเกินไป

          เพราะบางคนมักเก็บเอาทุกคำพูดของคนอื่นมาคิดจนแทบไม่ได้กินไม่ได้นอน ทั้งที่บางครั้งตัวคุณเองไม่ได้เป็นอย่างที่พวกเขาพูดสักหน่อย หรือไม่บางคนก็ยอมเปลี่ยนตัวเองเพื่อให้ทุกคนยอมรับ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วคุณไม่สามารถทำตามใจทุกคนได้หรอกนะ ที่สำคัญบางสิ่งที่เขาพูดมาอาจจะไม่ได้พูดเพราะหวังดีกับคุณก็ได้ ดังนั้นคนที่คุณควรแคร์ที่สุดคือตัวเอง เป็นอย่างที่คุณเป็น ทำอย่างที่คุณคิด แค่ไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อนก็พอแล้ว

 เดินตามกรอบที่สังคมขีดไว้ 

          ชีวิตของคนเรามักจะถูกกำหนดด้วยเส้นบาง ๆ จากบรรทัดฐานของสังคม หากใครคิดแตกแถวออกมาก็มักจะโดนประณามหรือคำเสียดสีจากสังคม ทำให้หลายคนไม่กล้าที่จะทำตามใจตัวเอง เพราะกลัวการต่อต้านจากสังคม ก็เลยยอมเดินไปตามทางที่สังคมกำหนดไว้ ทั้งที่ในความเป็นจริงหากเรื่องนั้นไม่ได้สร้างความเสียหายให้กับสังคม หรือไม่ทำให้ใครเดือดร้อน ก็ไม่น่าจะผิดอะไรหากจะทำในสิ่งที่ตัวเองคิดบ้าง เพราะชีวิตของเรามันสั้นนัก หากคิดจะทำอะไรแล้วก็รีบลงมือเสียตั้งแต่ตอนนี้ดีกว่ามานั่งเสียใจภายหลังนะ
 


 ทำตามคนส่วนใหญ่ เพราะกลัวแตกต่าง

          เรื่องกระแสต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นนั้น หากเราไม่สนใจในเรื่องนั้นก็ไม่จำเป็นต้องไปตามใครให้เสียเวลา บางทีปล่อย ๆ ไปบ้างก็ดี เพราะเรื่องบางเรื่องไม่ได้มีอิทธิพลกับชีวิตเรามากมายเสียหน่อย อย่างเช่น เรื่องของการแต่งตัว หากแฟชั่นที่เขาว่ากำลังอินเทรนด์สุด ๆ แต่เมื่อคุณนำมาใส่แล้วรู้สึกว่ามันแปลก ใส่แล้วไม่มั่นใจ ก็ไม่จำเป็นต้องใส่ตามใครนี่นา เป็นตัวของตัวเองดีที่สุดแล้ว 

 ตามใจคนอื่นไปหมดจนไม่เหลือที่ให้ตัวเอง 

          คนรอบ ๆ ตัวเรามักจะคอยบอกให้เราทำนู้นทำนี่ตลอดเวลาตั้งแต่เด็กจนโต ทั้งเรื่องส่วนตัวและเรื่องส่วนรวม แล้วใช้คำว่า หวังดี มาอ้างเพื่อให้คุณทำตามความต้องการ ซึ่งถ้าหากหัวใจของคุณมันบอกว่าไม่ต้องการ ก็ควรปฏิเสธหรือคัดค้านออกไปบ้าง (ตามความเหมาะสม) และถึงแม้คำบอกเล่าเหล่านั้นจะทำให้คุณรู้สึกปลอดภัย ทว่าความปลอดภัยหรือกรอบนั้นจะทำให้โลกของคุณแคบลง แต่จะดีกว่าไหมหาก...คุณยอมเสี่ยงทำตามความคิดของตัวเองซะบ้าง 

 อยากมีอยากได้เหมือนคนอื่น
 
          คนที่คิดว่าวัตถุสิ่งของอันมีค่าทั้งหลายแหล่คือ ความสุขที่คนเราต่างต้องการไขว่คว้าเพื่อให้ได้มา เพราะกลัวน้อยหน้าคนอื่น ซึ่งแท้จริงวัตถุนอกกายเหล่านี้ไม่ได้สร้างความสุขที่ยั่งยืนอย่างที่คิดหรอก หากคุณไม่รู้จักพอ ซึ่งบางทีมันอาจไม่มีความจำเป็นกับชีวิตของคุณเลยด้วยซ้ำ ซึ่งทางเดียวที่จะแก้ได้ก็คือ ถามความต้องการของตัวเองให้แน่ใจเสียก่อน ว่าของชิ้นนั้นจำเป็นกับชีวิตของคุณหรือเปล่า? หรือว่าความสุขที่แท้จริงนั้นไม่ใช่วัตถุกันแน่? ฉะนั้น ถ้าไม่จำเป็นจริง ๆ ก็ควรหักห้ามใจเอาไว้บ้าง เพราะไม่มีอะไรสบายใจได้เท่ากับอยู่อย่างพอเพียงแล้วล่ะ 
 


 คิดว่าชีวิตของตัวเองต้องเพอร์เฟคท์

          คำว่า สมบูรณ์แบบ นั้นเป็นแค่คำนิยามคำนึงซึ่งอาจไม่มีตัวตนอยู่จริง เพราะเรื่องบางเรื่องอาจจะดูสมบูรณ์แบบสำหรับใครบางคน แต่ในสายตาของอีกฝ่ายอาจจะมองว่าเป็นแค่เรื่องธรรมดาก็ได้ นอกจากนี้บางคนยังเอาคำว่าเพอร์เฟคท์มายึดติดอยู่กับตัว จนคาดหวังว่าทุกสิ่งอย่างจะต้องเป็นไปอย่างที่ตัวเองคิดเสมอ และเมื่อไหร่ที่มันไม่เป็นดั่งที่หวัง คราวนี้ก็จะเฟลล์แบบสุด ๆ ทางที่ดีก็แค่วางคำว่าสมบูรณ์แบบลง แล้วพยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุดก็เพียงพอแล้ว

 คิดว่าตัวเองถูกเสมอ

          บางคนชอบวางตัวเองไว้บนความถูกต้อง และคิดเสมอว่าทุกคนจะเห็นด้วยกับความคิดของตัวเอง อีกทั้งยังต่อต้านคนที่คิดต่าง จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมเราเห็นคนบนโลกนี้ทะเลาะกันไม่เว้นแต่ละวัน ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงการโต้เถียง ก็ควรเปิดใจยอมรับความคิดเห็นของคนอื่นเสียบ้าง แล้วลองคิดตามพวกเขาดู บางทีคุณอาจจะมองเห็นอะไรดี ๆ ในมุมมองที่ต่างออกไปจากเดิม

 ตกอยู่ในภวังค์ของความผิด 

          ใคร ๆ ก็ทำผิดกันได้ เหมือนอย่างที่เขากล่าวไว้ว่า สี่เท้ายังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง แล้วนับประสาอะไรกับคนธรรมดา ๆ อย่างเรา ๆ ก็ย่อมทำเรื่องผิดพลาดกันได้อยู่แล้ว ฉะนั้นแทนที่จะเอาแต่โทษตัวเอง หรือจมอยู่กับความผิดที่ก่อไว้ ควรตั้งต้นเริ่มนับหนึ่งใหม่แล้วเดินต่อไปดีกว่า และเก็บความผิดพลาดไว้เป็นบทเรียน เพื่อไม่ให้ทำผิดซ้ำสองก็เท่านั้นเอง
 


 กังวลกับเรื่องที่อยู่เหนือการควบคุม

          ในโลกใบนี้มีอีกหลายเรื่องราวที่อยู่เหนือการควบคุมของคนเรา ฉะนั้นเมื่อเกิดเรื่องที่คุณไม่คาดคิดขึ้นมา อย่าเอาแต่โทษตัวเองหรือเสียวิตกกังวลอยู่แต่กับสิ่ง ๆ นั้น ทว่าควรปรับเปลี่ยนมุมมองและทัศนคติเสียใหม่ แล้วปล่อยให้เรื่องทุกอย่างเป็นไปอย่างที่มันควรจะเป็นก็เท่านั้นเอง 

          ทีนี้ก็รู้กันแล้วใช่ไหมครับว่าจะทำให้ตัวเองมีความสุขได้อย่างไรบ้าง คราวนี้ก็อยู่ที่ตัวคุณเองแล้วล่ะ ว่าจะเลือกลงมือทำเพื่อความสุขของตัวเอง หรือปล่อยให้ชีวิตของตัวเองจมอยู่กับความทุกข์ซ้ำ ๆ กับเรื่องเดิม ๆ เพราะอนาคตจะดีหรือร้าย บางทีมันก็ไม่เกี่ยวกับโชคชะตา แต่อยู่ที่สองมือสองเท้าและความคิดของคุณต่างหาก ที่เป็นตัวกำหนดทางเดินชีวิตในวันข้างหน้าของคุณ

 

Credit: http://men.kapook.com/view51088.html
19 เม.ย. 56 เวลา 11:50 2,283 10
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...