เช้าวันที่ 15 เมษายน 2556 ตามเวลาในสหรัฐฯ ‘หลิงจือ ลู่’ นักศึกษาปริญญาโทชาวจีนของมหาวิทยาลัยบอสตัน โพสต์ภาพตัวเองพร้อมอาหารเช้าเป็นขนมปังและผลไม้ ลงในเว็บเว่ยโป๋ของจีน ซึ่งคล้ายกับเฟสบุ๊ค พร้อมข้อความว่า ‘อาหารเช้าที่แสนจะยอดเยี่ยมของฉัน’ โดยไม่รู้ว่านี่คือภาพสุดท้ายในชีวิต

‘หลิงจือ ลู่’ และเพื่อนอีกสองคนชวนกันไปเชียร์นักวิ่งในการแข่งขันวิ่งมาราธอน ที่จัดขึ้นในเมืองบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ ขณะที่กำลังเบียดเสียดผู้คนเพื่อเชียร์ผู้เข้าแข่งขันอยู่ใกล้เส้นชัย จู่ๆ ก็เกิดระเบิดขึ้นติดกันถึงสองครั้ง ทำให้สาวจีนผู้เคราะห์ร้าย กลายเป็นหนึ่งในสามของผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ โดยเพื่อนอีกคนได้รับบาดเจ็บแต่พ้นขีดอันตรายแล้ว และอีกคนโชคดีที่ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด 

            หลังเกิดระเบิดขึ้น ‘หลี่ จิง’ เพื่อนร่วมบ้านของ ‘หลิงจือ ลู่’ ได้โพสต์ข้อความในเฟสบุ๊คว่า ‘ขอให้พระเจ้าคุ้มครองชาวบอสตันด้วยเถิด′ หลังทราบข่าวว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บเกือบสองร้อยคน โดยที่ไม่รู้เลยว่าเพื่อนของเธอได้เสียชีวิตไปแล้ว

‘หลี่ จิง’ เล่าว่า เธอไม่สามารถติดต่อ ‘หลิงจือ ลู่’ ได้ จึงโพสต์ข้อความลงในเฟสบุ๊คของเพื่อน เพื่อขอความช่วยเหลือ จนได้ทราบจากประธานมหาวิทยาลัยบอสตัน ที่ประกาศข่าวการเสียชีวิตของนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา และผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ในจดหมายเปิดผนึกที่เผยแพร่บนเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัย เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (16 เม.ย.56) และได้แสดงความเสียใจไปยังครอบครัวและเพื่อนๆ ของเหยื่อระเบิดในครั้งนี้

             ก่อนหน้านี้มหาวิทยาลัยปฏิเสธที่จะเปิดเผยชื่อของผู้เสียชีวิต แต่เมื่อได้รับอนุญาตจากครอบครัว ชื่อของ ‘หลิงจือ ลู่’ จึงปรากฏไปทั่วโลก ด้านสถานกงสุลจีนในนิวยอร์กได้ออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจต่อการเสียชีวิตของเธอ ขณะที่ชาวเน็ตในจีนต่างโพสต์ข้อความแสดงความเสียใจใต้ภาพ ‘อาหารเช้าที่แสนจะยอดเยี่ยมของฉัน’ จำนวนมาก

ภาพที่เธอโพสต์เฟสบุ๊ค ไม่ว่าจะเป็นรูปที่เธอกำลังทำอาหาร ยิ้มอยู่กับแก้วกาแฟอุ่นๆ หรือหัวเราะกับกลุ่มเพื่อน แสดงให้เห็นถึงชีวิตนักศึกษาที่เรียบง่ายแต่มีความสุข  

      ชีวิตในต่างแดนของ ‘หลิงจือ ลู่’ เริ่มขึ้นเมื่อเธอได้รับทุนการศึกษาจากสถาบันเทคโนโลยีปักกิ่ง ที่ซึ่งเธอเคยได้รางวัลทางทักษะคณิตศาสตร์ สาวชาวจีนผู้มุ่งมั่นเดินทางมาศึกษาที่มหาวิทยาลัยบอสตัน เพื่อไล่ตามความฝัน แต่ขณะที่เธอกำลังทุ่มเทให้กับการเรียน เพื่อคว้าปริญญาโทในสาขาที่เธอรักอยู่นั้น สาวผู้เคราะห์ร้ายกลับต้องจบชีวิตลงอย่างน่าเสียดาย เพียงเพราะ ‘อยู่ผิดที่ ผิดเวลา’ เท่านั้นเอง