ไทยปล่อยหมัดเด็ด! อลินา มิรอง อัดเขมรดัดแปลงแผนที่หวังฮุบ 4.6 ตร.กม.

 


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ไทยพีบีเอส

          เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2556 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าขณะนี้ในโลกโซเชียลเน็ตเวิร์กได้มีการสรรเสริญชื่นชม อลินา มิรอง ผู้เชี่ยวชาญด้านแผนที่ฝ่ายไทย ภายหลังจากที่เธอให้การต่อศาลโลก โดยสามารถโต้ตอบกลับกัมพูชาได้ พร้อมกับแฉว่า ทางฝ่ายกัมพูชาได้ปลอมแปลงเอกสารจดหมายเหตุยื่นแผนที่คนละฉบับของภาคผนวก 1 หวังตบตาศาล

          โดย น.ส.อลินา มิรอง กล่าวถึงความผิดปกติของแผนที่อัตราส่วน 1 ต่อ 2 แสน หรือแผนที่แนบท้ายภาคผนวกที่ 1 ที่ฝ่ายกัมพูชาได้นำเสนอต่อคณะผู้พิพากษา โดยระบุว่าในคำร้องฝ่ายกัมพูชาได้ใช้แผนที่มาอ้างอิงหลายฉบับ สังเกตได้จากคำว่า "maps" ที่เป็นพหูพจน์ ดังนั้นขอให้คณะผู้พิพากษาได้พิจารณาให้รอบคอบ

          ทั้งนี้ แผนที่ที่กัมพูชาได้นำมาแสดงนั้น เป็นการเลือกใช้แผนที่ที่เป็นประโยชน์กับตนเอง โดยนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญด้านแผนที่ได้ให้ความเห็นไว้ว่า แผนที่ที่กัมพูชานำมาอ้างอิงนั้น ในทางสากลไม่สามารถนำมาปฏิบัติใช้ได้จริง เพราะมีความผิดพลาดทางภูมิประเทศ แม้ว่าฝ่ายกัมพูชาจะระบุหลายครั้งว่า ศาลโลกได้รับรองแผนที่ตามภาคผนวกที่ 1 ตามคำพิพากษาปี 2505 เมื่อทีมต่อสู้คดีนี้ของไทยไปค้นดูคำพิพากษาที่มีความยาวกว่า 1,500 หน้า ไม่ปรากฏการบันทึกใดที่เป็นการรับรองแผนที่ฉบับดังกล่าว อีกทั้งไม่ปรากฏว่าในการพิพากษาในปี พ.ศ. 2505 ศาลโลกได้ใช้แผนที่ฉบับใดมาเป็นหลักในการพิจารณา

 



แผนที่แสดงการแบ่งเขตแดนตามธรรมชาติ ซึ่งใช้สันปันน้ำเป็นเส้นแบ่งเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา

ภาพแสดงการแบ่งเขตตามแผ่นที่ในอดีตหลายฉบับซึ่งยังขาดความชัดเจน


          ถ้านำแผนที่เก่าของกัมพูชามาวางไว้แผนที่ปัจจุบัน จะพบว่าไม่มีความแม่นยำ แต่ไม่ทราบว่ามีการนำแผนที่มาสับเปลี่ยนกันหรือไม่ ทั้งนี้ ต้องขอชื่นชมกัมพูชา หากเราจะตัดสินจากความละอายของกัมพูชาที่ไม่มีการโต้แย้งในเรื่องนี้ สิ่งที่ทนายฝ่ายกัมพูชาให้ถ้อยแถลงต่อคณะผู้พิพากษาเมื่อวันที่ 15 เมษายน ระบุว่า แผนที่ที่ได้นำเสนอนั้นเป็นการขีดเส้นตัดกันระหว่างแผนที่ในภาคผนวก 1 และแนวเส้นสันปันน้ำ ถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่น่าเชื่อถือ เนื่องจากการถ่ายทอดแผนที่ในอดีตมายังแผนที่ปัจจุบันมีความยาก เพราะต้องใช้วิธีทางคณิตศาสตร์ และหากนำแผนที่ตามถ้อยแถลงของทนายฝ่ายกัมพูชามาอ้างอิง จะพบว่าส่วนที่ตัดกันนั้นอยู่ห่างจากตัวปราสาทมากถึง 6.8 กิโลเมตร และที่สำคัญ ผู้เชี่ยวชาญหน่วยวิจัยเขตแดนระหว่างประเทศ ระบุว่า วิธีการของกัมพูชาจะทำให้เกิดความคลาดเคลื่อนของแผนที่มากถึง 500 เมตร ในทางตอนเหนือของปราสาทพระวิหาร ดังนั้น เห็นชัดว่ากัมพูชาไม่สนใจในความถูกต้องของภูมิประเทศรอบปราสาท รวมถึงภูมะเขือ และเทือกเขาพนมดงรัก ทั้งที่เป็นพื้นที่ที่สำคัญ และไม่สามารถพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือได้ภายในเวลา 50 ปี

          นอกจากนี้ น.ส.อลินา กล่าวต่อว่า สำหรับพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร ทางกัมพูชาไม่มีแผนที่ที่สามารถพิสูจน์พื้นที่ได้แน่นอน แม้จะอ้างว่าปราสาทพระวิหารนั้นจะได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแล้ว เพราะตามแผนที่ที่ศาลโลกใช้ประกอบการตัดสินคดีเมื่อปี พ.ศ. 2505 แต่ข้อเท็จจริงยูเนสโก ได้ใช้แผนที่ของปี ค.ศ. 2011 ส่วนหลักฐานเกี่ยวกับพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร เป็นสิ่งที่น่าประหลาดว่ากัมพูชาได้ยื่นเพิ่มเติมหลังจากจบการนำเสนอ

          กัมพูชาได้อ้างอิงในสนธิสัญญาปี ค.ศ. 1904 ว่าได้ให้อำนาจอธิปไตยเหนือปราสาทพระวิหารเป็นของกัมพูชา แต่สนธิสัญญาดังกล่าวไม่ได้พูดถึงตัวปราสาทพระวิหาร ระบุเพียงแค่เขตแดนในแผนที่ฉบับอื่น ๆ เช่น แผนที่ในปี 1937 ที่แสดงให้เห็นว่าตัวปราสาทพระวิหารอยู่ในเขตของกัมพูชา แต่ไม่สามารถใช้กำหนดเขตแดนได้ เพราะไม่ชัดเจนในแง่ภูมิศาสตร์ ภูมิประเทศ, แผนที่ปี ค.ศ. 1947 ที่ประเทศไทยได้เสนอต่อคณะกรรมการประนอมระหว่างสยาม-ฝรั่งเศส มีลักษณะคล้ายกับแผนที่ภาคผนวก 1 คือแสดงให้เห็นว่าปราสาทพระวิหารอยู่ทางตอนใต้ของเส้นเขตแดน แต่ส่วนอื่น ๆ ไม่สามารถพิสูจน์ได้ ดังนั้น ทำให้คณะพิพากษาปี ค.ศ. 1962 ไม่ได้ให้คุณค่าที่จะใช้พิสูจน์เขตอธิปไตย

          ประเด็นที่กัมพูชาขอให้ศาลวินิจฉัยว่าแผนที่ภาคผนวก 1 เป็นเส้นเขตแดนหรือไม่ ทั้งที่ไม่มีความชัดเจน แสดงให้เห็นว่า ฝ่ายกัมพูชาต้องการให้ศาลเห็นชอบให้ใช้เส้นตามแผนที่ภาคผนวก 1 เป็นเส้นเขตแดน และหากพิจารณาตามแผนที่ 85D เท่ากับกัมพูชามีความต้องการขยายอาณาเขตเดิมมาในพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตรด้วย ทนายความฝ่ายไทย กล่าวสรุป

          ภายหลัง อลินา มิรอง ให้การโดยวาจาต่อศาลโลกเสร็จสิ้น ปรากฏว่า นายสมชาย แสวงการ ส.ว. สรรหา ได้โพสต์ข้อความชื่นชมในเฟซบุ๊ก โดยระบุว่า ประทับใจคำอธิบาย อลินา มิรอง ผู้เชี่ยวชาญแผนที่ฝ่ายไทยอย่างยิ่งทั้งความสุภาพ ต่อย ๆ อธิบายด้วยการใช้เทคนิคภาพแผนที่ เหตุผล เปรียบเทียบจนเคลียร์ ถึงตอนนี้เราค่อนข้างมั่นใจขึ้นว่ากัมพูชาที่ฟ้องเราไม่มีเหตุผลพอจะชนะเราได้ ทันทีที่เธออธิบายเสร็จพวกเราทุกคนในศาลอดจะชมเชยไม่ได้ โดยเฉพาะ สว.ประสาน แอบไปชมเชยเธอถึงตัวเลยทีเดียว ยอดเยี่ยมครับ

          ทั้งนี้ สำหรับ อลินา มิรอง ทนายความชาวโรมาเนียของฝ่ายไทย พูดภาษาฝรั่งเศส เป็นผู้ช่วยของ ศ.อแลง แปลเล่ต์ ซึ่งเป็นผู้ทำงานและมีความเชี่ยวชาญแผนที่โดยเฉพาะกว่า 60 ฉบับ



อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก

Credit: http://hilight.kapook.com/view/84848
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...