ทางการอังกฤษเริ่มพิธีศพของนางมาการ์เร็ต แธตเชอร์ อดีตนายกรัฐมนตรีหญิงของอังกฤษอย่างสมเกียรติแล้วในวันนี้ เริ่มต้นที่มหาวิหารเซนต์ พอล ในกรุงลอนดอน โดยมีสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 และแขกผู้มีเกียรติ รวมถึงผู้นำและตัวแทนจากทั่วโลกจาก 170 ประเทศเข้าร่วมพิธีกว่า 2,300 คน
ศพของนางแทตเชอร์ถูกเคลื่อนออกจากรัฐสภาเพื่อไปประกอบพิธียังมหาวิหารเซนต์พอลโดยมีทหารสามเหล่าทัพ 700 นายในชุดเครื่องแบบเต็มยศยืนเรียงรายตามถนนกรุงลอนดอน และมีตำรวจคอยอารักขาดูแลความปลอดภัยถึง 4,000 นาย ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด หลังเกิดเหตุระเบิดที่งานบอสตัน มาราธอนในสหรัฐฯ และท่ามกลางความวิตกว่ากลุ่มต่อต้านนางแธตเชอร์จะออกมาขัดขวาง
ด้านนายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน ของอังกฤษ เรียกพิธีศพครั้งนี้ว่า เป็นการยกย่องที่เหมาะสมต่อนายกรัฐมนตรีผู้ยิ่งใหญ่ โดยมีฝูงชนจำนวนมากเฝ้าดูพิธีศพอยู่ตาม 2 ข้างถนนเส้นทางเคลื่อนศพ
พิธีศพเริ่มต้นโดยการอ่านคัมภีร์ไบเบิลของนายคาเมรอน และน.ส.อมันดา หลานสาวของนางแธตเชอร์ รวมถึงบทสวดสรรเสริญที่นายคาเมรอนเป็นผู้เลือก
ต่อมาบาทหลวงริชาร์ด ชาร์เทรส บิชอปแห่งลอนดอน ได้กล่าวอุทิศแก่นางแธตเชอร์ ตามคำสั่งเสียครั้งสุดท้ายที่ระบุว่า เธอไม่ต้องการคำกล่าวคำสรรเสริญเยินยอใดๆ โดยข้อความตอนหนึ่งระบุว่า "หลังจากมรสุมแห่งชีวิตท่ามกลางความร้อนแรงทางการเมือง ยังมีความเงียบสงบครั้งยิ่งใหญ่ พายุแห่งความเห็นอันขัดแย้งที่มีศูนย์กลางคือนางแธตเชอร์ ผู้ซึ่งเป็นตัวแทนทางสัญลักษณ์ แม้จะเป็นความเชื่อ วันนี้ ร่างของมาร์กาเร็ต ฮิลดาตัวจริง ได้อยู่ที่นี่ ที่พิธีศพของเธอ ที่นอนอยู่ ณ ที่นี่ เธอก็เป็นเช่นเดียวกับเรา ผู้มีชะตากรรมเช่นมนุษย์ปุถุชนทั่วไป"
โลงศพของอดีตนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของอังกฤษ ถูกคลุมด้วยธงชาติอังกฤษยูเนียนแจ็ค วางอยู่บนรถตั้งปืนใหญ่ที่มีม้าสีดำ 6 ตัวเป็นผู้ลาก มีทหารกองเกียรติยศเดินขนาบทั้ง 2 ข้าง โดยที่ช่อดอกไม้สีขาวเหนือโลงศพ มีการ์ดขนาดเล็กที่มีข้อความจากมาร์คและแครอล บุตรและธิดาฝาแฝดของนางแธตเชอร์ที่มีใจความว่า "แด่มารดาผู้เป็นที่รัก จะอยู่ในใจเราตลอดไป"
นางแทตเชอร์ ซึ่งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีระหว่างปี 1979-1990 ถึงแก่อสัญกรรมเมื่อวันที่ 8 เมษายน เนื่องจากภาวะสมองขาดเลือด ขณะมีอายุได้ 87 ปี