ความเป็นที่สุดในโลกของเรานั้นมันช่างมากมายหลายยากยิ่งที่จะรวบรวมเอามาไว้ให้หมดได้ในทีเดียว แต่อย่างไรก็ตามเว็บไซต์ของเรามีความพยายามและมุ่งมั่นที่จะนำเรื่องราวความเป็นที่สุดในโลกทุกอย่างที่มีบนโลกของเรามารวบรวมเอาไว้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ส่วนหนึ่งก็เพื่อที่จะเป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้ของน้องๆนักเรียนนักศึกษา ไม่มากก็น้อย ที่จะได้เนื้อหาสาระที่เป็นประโยชน์จากเว็บไซต์ของเราถึงแม้จะน้อยนิด เราก็ดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งที่ได้ให้ความรู้นั้นเพิ่มพูนมากยิ่งขึ้นครับ นอกจากสาระเรื่องราวความรู้แล้วเว็บเรายังมีเรื่องราวอื่นๆอีกมากมายหลากหลาย สามารถหาชมกันได้เลย
และในวันนี้ผมเองเป็นหนึ่งในตัวแทนของผู้เขียนเนื้อหาบนเว็บไซต์แห่งนี้ขอนำเสนอเรื่องราวของ “สุดยอดห้องสมุดที่สวยสุดในโลก 7 อันดับ” ให้ทุกท่านได้ติดตามอ่านไว้เป็นคาวมรู้กันครับ เผื่อว่าบางท่านได้มีโอกาสไปเยือนห้องสุมดแห่งนี้จะได้มีข้อมูลให้ได้รู้ก่อน ก็นับเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ใช้ได้ดีเลยทีเดียว ข้อมูลนี้ไม่ได้ใหม่สดแต่อย่างใดน่ะครับ หากแต่เพียงว่าเห็นอยู่บนเว็บไซต์ MThaiซึ่งได้เรียบเรียงเอาไว้อ่านแล้วรู้สึกว่าได้คาวมรู้ดีจึงขอนำมาเผยแพร่และขยายความต่อให้ได้ทราบกันเยอะยิ่งขึ้นน่ะครับ
ห้องสมุดที่สวยที่สุดในโลกทั้ง 7 อันดับนี้มีอยู่ในหลายๆประเทศบนโลกของเราซึ่งนับว่าคนเรานั้นมีความสามารถในการปลูกสร้างและตกแต่งสถานที่ต่างๆ ได้อย่างน่าทึ่งจริงๆ ต้องยกความดีความชอบให้กับสถาปนิกที่สามาถออกแบบและตกแต่งห้องสมุดเหล่านี้ได้สวยงามต้องตาผู้มาเยือนเสียจริงๆ
เอาละอย่ามัวแต่พล่ามบรรยายกันให้มากมาดูกันเลยดีกว่าว่า สุดยอดห้องสมุดที่สวยสุดในโลก 7 อันดับ ที่ว่านั้นจะมีที่ไหนบ้างไดูกันเลยครับ
อันดับ 7. Bishan Public Library ประเทศสิงคโปร์
ห้องสมุดสาธารณะบิซาน มีเนื้อที่ 4,000 ตารางเมตร ตั้งอยู่ใจกลางของเขตชุมชนบิซาน ประเทศสิงคโปร์ เคยได้รับรางวัลห้องสมุดบริการสาธารณะยอดเยี่ยมอาคารออกแบบมาคล้ายบ้านต้นไม้หลังใหญ่ และมีห้องเป็นช่อง ที่เต็มไปด้วยสีสัน ภายในอาคารประกอบด้วย ส่วนยืม-คืนหนังสือ พื้นที่ว่างสำหรับอ่านหนังสือที่เงียบสงบ และพื้นที่ไว้จัดสัมมนา หรือเวิร์กช็อปได้ ด้านนอกอาคารประกอบด้วยกระจกใสส่วนใหญ่ ทำให้คนด้านนอกห้องสมุด สามารถมองเห็นพฤติกรรมการอ่านหนังสือจากคนข้างในห้องสมุดได้
อันดับ 6. Stuttgart City Library: Stuttgar ประเทศเยอรมนี
ห้องสมุดเมืองสตุ๊ตการ์ท ประเทศเยอรมนี เป็นที่ถกเถียงจากนักวิจารณ์เป็นอย่างมากว่า มันเป็นสิ่งก่อสร้างที่มีไอเดียสร้างสรรค์ หรือว่า มันดูขัดแย้งกับสภาพแวดล้อมกันแน่ แต่ที่แน่ๆ มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้พิพิธภัณฑ์แห่งนี้น่าสนใจขึ้นมา เพราะมีพิพิธภัณฑ์พอร์ช ตั้งขึ้นอยู่ใกล้ๆ นี่เอง
ห้องสมุดแห่งนี้ออกแบบโดย Yi Eun-Young สถาปนิกชาวเกาหลี แต่มาโตที่เยอรมัน ซึ่งรูปทรงตัวอาคารคล้ายลูกบาศก์ ซึ่งได้ไอเดียมาจาก วิหารพาร์เธนอน ในประเทศกรีซ นอกจากอาคารจะทาสีขาวทั้งหมดแล้ว ข้างบนหลังคายังมีกระจกโปร่งใส เพื่อให้แสงรอดส่องลงมาผ่านห้องสีขาว เพื่อเพิ่มความสว่างให้กับห้องสมุดที่มากขึ้น เป็นการประหยัดพลังงานจากหลอดไฟไปในตัวอีกด้วย
ส่วนสาเหตุที่มีคนไม่ชอบ ห้องสมุดเมืองสตุ๊ดการ์ท แห่งนี้ เพราะตัวอาคารมีสีขาวนี่แหละ เนื่องจากรอบๆ ด้านของเมืองสตุ๊ดการ์ท ส่วนใหญ่ประกอบไปด้วย หมู่ต้นไม้สีเขียว บ้านเรือนยุโรปหลังคาสีแดง อยู่ดีๆเจ้า อาคารสีขาวนี่ สร้างเด่นขึ้นมา เลยรู้สึกขัดสายตาสำหรับคนแถวนั้นเอง
อันดับ 5. Bibliotheca Alexandrina: Alexandria ประเทศอียิปต์
หอสมุดศึกษาประวัติศาสตร์แห่ง เมืองอเล็กซานเดรีย ประเทศอียิปต์ เป็นสถานที่รวบรวมประวัติศาสตร์และอารยธรรมโบราณของกรีกและอียิปต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งสร้างโดย อเล็กซานเดอร์มหาราช เมื่อกว่า 2,300 ปีที่แล้ว จากนั้นก็ทรุดโทรมตามกาลเวลา จนกระทั่งได้มีการบูรณะสร้างขึ้นใหม่อีกครั้งในปี 2002 ใกล้ชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน หลังจากทีมงานออกแบบการก่อสร้างนานถึง 10 ปีเลยทีเดียว
หอสมุดประวัติศาสตร์เมืองอเล็กซานเดรีย ถูกออกแบบโดย SNOHETTA บริษัทออกแบบสิ่งก่อสร้างระดับโลก แบบหอสมุดแห่งนี้ ได้รับรางวัลการออกแบบจากองค์กรสถาปนิกนานาชาติ รวมทั้งจากยูเนสโก และรัฐบาลอียิปต์ อีกด้วย
โดยภายในอาคารของ หอสมุดประวัติศาสตร์เมืองอเล็กซานเดรีย ประกอบไปด้วยหนังสือตำราศึกษา และยังแยกเป็น 4 พิพิธภัณฑ์ ได้แก่ ห้องตำราเรียน และเทคโนโลยีในยุคโบราณ, ห้องศิลปะภาพต่างๆ ในยุคอเล็กซานเดรียเก่า, ห้องศึกษารวบรวมภาษาอาระบิก และไฮโรกริฟฟิก สุดท้ายห้องประวัติศาสตร์ของการพิมพ์
อันดับ 4. TU Delft Library ประเทศเนเธอร์แลนด์
ห้องสมุดที่ตั้งอยู่ในบริเวณมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีเดลฟท์ สร้างขึ้นในปี 1997 ภายในห้องสมุดประกอบด้วยหนังสือตำราเรียนกว่า 862,000 เล่ม นิตยสารหัวต่างๆที่เป็นสมาชิกกว่า 16,000 เล่ม หนังสือเยอะแยะมากมาย ทำให้หนอนหนังสือมองด้วยความตกตะลึงกันเลยทีเดียว
ถ้ามองจากภายนอกจะไม่เห็นตัวอาคารจริงของห้องสมุด ดูเหมือนว่าคุณกำลังเดินเล่นบนสนามหญ้าอยู่ จริงๆแล้วพื้นที่เนินบนสนามหญ้านั้น คือ กระจกหลังคาของหอสมุด TU Delft Library ที่สร้างคลุมตัวอาคารไว้กว่า 5,500 ตารางเมตร ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่างธรรมชาติ และสิ่งก่อสร้างที่มนุษย์สร้างขึ้นมาได้อย่างลงตัว
อันดับ 3. Geisel Library, University of California ประเทศสหรัฐอเมริกา
Geisel Library เป็นหนึ่งในห้องสมุดทรงทันสมัยอีกแห่งหนึ่งในโลก โดยคำว่า Geisel ตั้งขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่Theodor Geisel นักเขียนนวนิยายเยาวชนชื่อดัง หรือที่เรารู้จักในนามว่า Dr. Seuss นั่นเอง
ดูลักษณะภายนอกอาคารเหมือนสถานีอวกาศ ออกแบบโดยสถาปนิก William Pereira ซึ่งเคยช่วยงานออกแบบจรวดอวกาศที่ ศูนย์วิจัยอวกาศ Cape Canaveral เมืองฮุสตัน นอกจากนี้ยังเคยถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนต์ฮอลีวู้ดชื่อดังในแนว ไซไฟ มาแล้วหลายเรื่อง และล่าสุดก็คือเรื่อง Inception นั่นเอง
อันดับ 2. Trinity College Library ประเทศไอร์แลนด์
ห้องสมุด Trinity College Library ในเมืองดับลิน ประเทศไอร์แลนด์ เป็นห้องสมุดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในสมัย สมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 1 ข้างในห้องสมุดตกแต่งสวยหรูอลังการแล้ว ยังเป็นห้องสมุดห้องเดี่ยวขนาดใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย หรือเรียกอีกอย่างว่า Long Room ซึ่งสร้างจากไม้โอ๊ค เนื้อไม้ที่นิยมนำมาสร้างห้องหรูต่างๆ ในสมัยนั้น
โดยภายห้องสมุด Trinity College Library บรรจุหนังสือตำราเก่าแก่กว่า 200,000 เล่ม เลยทีเดียว หนึ่งในนั้นคือ หนังสือที่ชื่อ “The Book of Kells : Turning Darkness into Light” เป็นหนังสือคัมภีร์ภาษาละตินอันเก่าแก่และศักดิ์สิทธิ์
อันดับ 1. Central Library: Seattle ประเทศสหรัฐอเมริกา
ศูนย์ห้องสมุดกลางซีแอตเทิล เป็นห้องสมุดสาธารณะมี 11 ชั้น มีความสูงประมาณ 56 เมตร ใช้เหล็กและกระจกในการก่อสร้าง โดยห้องสมุดนี้ตั้งอยู่ที่เมือง Seattle กรุงวอชิงตัน Rem Koolhaas และ Joshua Prince-Ramus ร่วมกันออกแบบ โดยห้องสมุดนี้สามารถบรรจุหนังสือได้ถึง 1.45 ล้านเล่ม ตัวอาคารมีที่จอดรถใต้ดิน สามารถจอดรถได้ 143 คัน ภายในยังมีคอมพิวเตอร์มากกว่า 400 เครื่อง ซึ่งในปีแรกๆ ที่เปิดทำการมีคนเข้ามาเยี่ยมชมมากว่า 2 ล้านคนทีเดียว
เป็นยังไงกันบ้างครับแต่ละทีนั้นถือว่าสุดยอดไปเลยใช่เหรอเปล่า แต่ละที่นี้มันช่างน่าไปเยือนไปหาความรู้จริงๆ เลย แต่อย่างไรเสียห้องสมุดในโรงเรียนของเราถึงจะไม่สวยที่สุดในโลก แต่อย่างน้อยก็มีความรู้ให้เราได้ศึกษาได้อ่านเหมือนกัน ขอชวนทุกท่านให้หันมาอ่านหนังสือกันเอยะๆน่ะครับ อย่าเล่นแต่เฟชบุค อิอิ