เมื่อเวลา 03.00 น.วันที่ 15 เม.ย.56 ร.ต.ท.สุนทร นาโม ร้อยเวร สภ.เมืองบึงกาฬ อ.บึงกาฬ จ.บึงกาฬ รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถชนต้นไม้ข้างทางมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก บนถนนสาย 212 ช่วงบึงกาฬ-บุ่งคล้า ระหว่างกิโลเมตรที่ 22 -23 บ้านโคกก่อง ต.โคกก่อง ใกล้กับโรงงานยางพาราเซ้าท์แลนด์รับเบอร์จำกัด จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบรุดไปตรวจที่เกิดเหตุพร้อมด้วยหน่วยรถกู้ชีพ 1669 ร.พ.บึงกาฬ แพทย์เวรและหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างคุณธรรมบึงกาฬ ที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะ 4 ประตูยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์ฟ้า ทะเบียน กษ 8170 ชลบุรี จอดอยู่ข้างต้นหว้าหันหน้าขึ้นมาบนถนน  สภาพกระจกหน้าแตกหลังคารถยุบมาตั้งแต่ช่วงกระจกหน้าแอ่นโค้งลงเป็นรูปตัวยูจนติดเบาะหน้าที่หักพับไปด้านหลัง  เหลือหลังคารถตรงที่นั่งเบาะหลังเพียงประมาณ 1 ฟุตที่ไม่ยุบลงเนื่องจากเป็นเหล็กแข็ง

 

พบผู้บาดเจ็บ 3 รายร้องครวญครางขอความช่วยเหลืออยู่ในช่องแคบๆ ของหลังคาที่ยุบตัวลงมาทับ หน่วยกู้ภัยสว่างคุณธรรมจึงระดมเจ้าหน้าที่พร้อมอุปกรณ์ตัดถ่างมาช่วยเหลือ ทราบชื่อผู้บาดเจ็บที่นั่งอยู่เบาะหลังด้านขวาว่า นางนันทิพร  แซ็สทูโร่ อายุ 22 ปี  ขาขวาหัก นายบุญรักษ์  ศรีสว่าง อายุ 49 ปี บ้านเลขที่ 111 หมู่ที่ 2  บ้านบุ่งคล้าทุ่ง ต.บุ่งคล้า อ.บุ่งคล้า จ.บึงกาฬ นั่งอยู่เบาะหลังด้านซ้ายขาหักเช่นกัน และนางวงศ์  วินพิชัย  อายุ 61 ปี บ้านเลขที่ 152 หมู่ที่ 2 บ้านบุ่งคล้าทุ่ง นั่งกลางเบาะหลังเป็นผู้บาดเจ็บรายสุดท้ายที่ช่วยเหลือออกมาได้ใช้เวลาไปกว่า 2 ชั่วโมง เนื่องจากเบาะหน้าทับขาหักทั้ง 2 ข้าง ต้องใช้รถเครนดึงฉีกหลังคาให้ขาดจึงสามารถนำผู้บาดเจ็บออกมาได้ทั้งหมด  ส่วนเบาะคู่หน้าที่นั่งคนขับทราบชื่อผู้เสียชีวิต นายพงษ์เทพ  ศรีสว่าง อายุ 23 ปี  และนางกาญจน์  ศรีสว่าง อายุ 23 ปีภรรยา บ้านเลขที่ 111 หมู่ที่ 2 บ้านบุ่งคล้าทุ่ง ทั้งคู่มีบาดแผลบริเวณคอหักเนื่องจากหลังคารถยุบทับอย่างแรงขณะชนอัดกับต้นไม้ 

 

สอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุ นางนันทิพร แซ็สทูโร่ อายุ 22 ปี เป็นเจ้าของรถคันเกิดเหตุและมีสามีเป็นชาวต่างชาติได้กลับมาเยี่ยมบ้านเพื่อเที่ยวงานเทศกาลสงกรานต์  ได้ชักชวนญาติๆ พากันมาเที่ยวเธคในตัวเมืองบึงกาฬ โดยมี นายพงษ์เทพ  ศรีสว่าง อายุ 23 ปี  อาสาเป็นคนขับรถให้ โดยมีนางกาญจน์  ศรีสว่าง อายุ 23 ปีภรรยาที่พึ่งแต่งงานกันเมื่อเดือนมีนาคม ซึ่งยังไม่ครบเดือนนั่งมาด้านหน้า โดยมีพ่อ เมียฝรั่งและเพื่อนบ้านนั่งเบาะหลัง หลังจากเทคเลิกได้แวะซื้อกับข้าวที่ตลาดสดบึงกาฬ  

 

ขณะขับรถมาถึงที่เกิดเหตุเป็นทางตรงและมีไหล่ถนนไม่สูงนัก รถเสียหลักลงข้างทาง นายพงษ์เทพผู้ตาย พยายามประครองรถให้วิ่งมาตามไหล่ถนนเป็นระยะทางยาวประมาณ 100 เมตร เมื่อถึงทางแยกลงสวนยางจึงได้หักรถขึ้นถนนอย่างแรงทำให้รถพลิกตะแคงข้ามถนนไถลไปชนอัดกับต้นหว้าข้างทางจนหลังคายุบเป็นรูปตัวยูก่อนรถจะพลิกกลับมาตั้งกับพื้นเหมือนเดิม ทำให้ตัวเองและภรรยาถูกหลังคายุบอัดอย่างแรงจนคอหักทั้งคู่ ส่วนผู้นั่งเบาะหลังรอดปาฏิหาริย์ เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า ผู้ตายซึ่งไม่เคยขับรถเกียร์ออโต้ เมื่อเกิดเหตุคับขันอาจบังคับรถไม่อยู่จึงเกิดอุบัติเหตุดังกล่าว รวม 7 วันอันตรายช่วงรณรงค์สงกรานต์ของจังหวัดบึงกาฬตายสะสมแล้ว 3 ราย