วันที่ 14 เม.ย. ผู้สื่อข่าว ข่าวสด รายงานว่า นายชิน ไทยยิ่ง อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9/8 บ้านหนองเต่า หมู่ 13 ริมคลองชลประทาน ใกล้สนามไก่ ต.เฉนียง อ.เมืองสุรินทร์ รับราชการตำแหน่ง รอง ผอ.โรงเรียนสิรินธร อ.เมืองสุรินทร์ และเป็นน้องชาย พล.ต.ต.โชติ ไทยยิ่ง ผบก.ตชด.ภาค 2 ร้องเรียนขอความเป็นธรรมให้ นายฐปนา ไทยยิ่ง อายุ 25 ปี ลูกชาย ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสุรินทร์ ลุแก่อำนาจทำร้ายร่างกาย เกินกว่าเหตุ
นายฐปนา กล่าวว่า เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น. วันที่ 12 เม.ย. ได้บอกกับพ่อแม่ว่าจะไปหา นายนรเศรษฐ ไทยยิ่ง หรือ เบส พี่ชายซึ่งเป็นลูกชายของพล.ต.ต.โชติ ที่ร้านอาหารชิดลม ริมคลองชลประทาน โดยขับรถยนต์นิสสัน สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน กค 3007 ศรีสะเกษ แต่ไปแล้วไม่พบ พี่เบส ตนจึงโทร.ตามหาว่าอยู่ที่ไหนแต่สัญญาณโทรศัพท์ไม่ชัด จึงไปรับเพื่อนอีกคนที่ตะวันแดง ครั้นขับรถยนต์มาถึงแยกสนง.กกต.สุรินทร์ หรือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเก่า มองเห็นด่านตรวจระยะทาง ประมาณ 100 เมตร ได้เลี้ยวเข้าซอยใกล้สำนักงานธนาคารออมสิน สาขาย่อยหน้าวัดหนองบัว ใกล้ร.พ.รวมแพทย์ จึงเลี้ยวรถยนต์เข้าซอยเพื่อกลับบ้าน
ขณะเดียวกั เวลาประมาณ 01.00 น. พี่เบส โทรศัพท์มาหาว่า ให้ไปพบที่บ้านชุนชนหมอกวล ดังนั้นจึงขับรถย้อนกลับออกมาเพื่อไปหา ระหว่างขับรถอยู่สังเกตเห็นรถยนต์เปิดสัญญาณไฟกระพริบวิ่งตามมาห่างๆ และมีรถจักรยานยนต์สายตรวจ 191 วิ่งมาจอดขวาง ตนจึงหยุดรถ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 1 นายเดินมาหา พร้อมชักอาวุธปืนพกสั้นขึ้นมา และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกนายเข้ามาจับมือไขว้หลัง กดตัวให้หมอบลงที่พื้น และมีตำรวจเตะที่ใบหน้าอย่างแรง เป็นเหตุให้เบ้าตาขวาฟกช้ำ จมูกเลือดกำเดาไหล ทั้งๆ ที่ไม่ได้ขัดขืนการตรวจ
นายฐปนา กล่าวว่า ช่วงระหว่างเจ้าหน้าที่ทำร้ายร่างกายนั้น ได้ต่อว่าตำรวจว่าไม่มีสิทธิทำร้ายประชาชน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมตอบย้อนกลับว่า "...จะทำ...จะทำไม..." ก่อนควบคุมตัวนำส่งจุดตรวจบริการประชาชน เยื้องร.พ.รวมแพทย์ เพื่อให้เป่าวัดปริมาณแอลกอฮอล์ 3 ครั้ง วัดได้ 103 นายตำรวจยศร.ต.ท. เดินเข้ามาที่จุดตรวจ หลังพบสภาพของนายฐปนาแล้วสอบถามว่า ใครทำร้ายร่างกาย ตนจึงตอบไปว่าจำหน้าไม่ได้ เพราะตำรวจชุดจับกุมใช้ผ้าปิดปาก จมูก ชุดจับกุมตั้ง 2 ข้อหา ขับรถยนต์หวาดเสียว และขับรถยนต์ขณะเมาสุรา
นายชิน กล่าวว่า ฐานะเป็นพ่อเป็นห่วงเรื่องความยุติธรรมในการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นการกระทำเกินกว่าเหตุ ลุแก่อำนาจ กลัวว่าเรื่องจะเงียบไป จึงขอความอนุเคราะห์จากสื่อมวลชน อย่างน้อยเพื่อให้เห็นพฤติกรรมความไม่ถูกต้องของเจ้าหน้าที่ตำรวจขณะปฎิบัติหน้าที่ และทางวินัยของตำรวจด้วย ตอนนี้ยังไม่ร้องเรียนที่ไหน แต่ถ้าเรื่องยังเงียบ ตนจะร้องไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่วนความผิดของลูกชายว่ากันไป แต่พฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นการกระทำที่ลุแก่อำนาจ เป็นการกระทำไม่เหมาะสม
ขอบคุณข่าวจาก ข่าวสด