เมื่อเวลา 19.30 น.วันที่ 13 เม.ย. ผู้สื่อข่าว ข่าวสด รายงานว่า ร.ต.ท.จำนงค์ นาคจีนวงษ์ พงส.สภ.พนมทวน อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี รับแจ้งเหตุคนร้ายใช้รถยนต์เก๋งขับตามประกบยิงถล่มรถยนต์กระบะมีผู้เสียชีวิตคาที่ 1 ราย บาดเจ็บสาหัส 1 ราย เหตุเกิดบนถนนสายดอนสระ - ดอนเจดีย์ หมู่ 6 ต.พนมทวน หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นจึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.ท.ศุภฤกษ์ ไชยภูมิสกุล พงส.ผู้ชำนาญการพิเศษ ในฐานะ หน.งานสอบสวน นายแพทย์ประนอมสม แสนหอม แพทย์เวร รพ.เจ้าคุณไพบูลย์พนมทวน เจ้าหน้าที่มูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ หลังทราบ พล.ต.ต.กมลสันติ กลั่นบุศย์ ผบก.ภ.จ.กาญจนบุรี ได้รีบเดินทางไปบัญชาการพร้อมตรวจสอบที่เกิดเหตุด้วยตนเอง และสั่งการให้ พ.ต.อ.ภัทรชัย กอสนาน ผกก.สส.ภ.จ.กาญจนบุรี พ.ต.ต.กาจภณ ปฐมัง สว.กก.สส.ภ.จ.กาญจนบุรี ร.ต.ท.พัฒนา ภมรพล รอง สว.กก.สส.ภ.จ.กาญจนบุรี ร.ต.ท.ยุทธนา เมตตา หน.นปพ.กาญจนบุรี พ.ต.ท.ชุมพล เฉลิมวิบูลย์ นักวิทยาศาสตร์ (สบ.3) สำนักงานพิสูจน์หลักฐานจังหวัดกาญจนบุรี ได้เดินทางไปร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุด้วย

 ที่เกิดเหตุเป็นถนนลาดยาง ซึ่งเป็นเขตรอยต่อระหว่างหมู่บ้านดอนสระและหมู่บ้านดอนเจดีย์ พบรถยนต์กระบะยี่ห้อ อีซูซุ สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน บพ 5733 กาญจนบุรี ตกลงไปข้างถนนสภาพตัวรถค่อมคูน้ำข้างถนน ยางล้อหน้าซ้ายแตก ล้อหน้าขวาหัก กระบะท้ายท้ายด้านขวามีรูกระสุนปืน 12 รู ที่กระจกท้าย กว่า 10 รู กระจกหน้ากว่า 10 รู และประตูซ้ายฝั่งข้างคนขับอีกกว่า 10 รู ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่มูลนิธิมูลนิธิ มิราเคิล ออฟไลฟ์ ได้นำคนเจ็บซึ่งเป็นคนขับส่ง ร.พ.เจ้าคุณไพบูลย์พนมทวน เพื่อช่วยชีวิตเหลือชีวิตอย่างเร่งด่วย ก่อนที่จะส่งต่อไปยังโรงพยาบาลมะการักษ์ ทราบชื่อต่อมาคือ นางกัลยา สายเทียน อายุ 38 ปี ยังไม่ทราบที่อยู่ ถูกยิงเข้าที่กลางหลัง 8 รู ก้นซ้าย 1 รู และต้นขาขวาด้านหลัง 1 รู อาการสาหัสที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 ตกอยู่ 6 ปลอก และปลอกกระสุนปืนขนาด 11 มม. ตกอยู่ 8 ปลอก ทั้งหมดตกเกลื่อนกระจายถนนเป็นระยะทางกว่า 100 เมตร ซึ่งเจ้าหน้าที่เชื่อว่าจะมีปลอกกระสุนปืนมากกว่านี้ แต่เนื่องจากเป็นเวลาค่ำมืดจึงหาไม่พบ

 ตรวจสอบภายในรถยนต์กระบะพบผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย ลักษณะนั่งอยู่ที่บริเวณเบอะผู้โดยสารลำตัวและศรีษะล้มเอียงไปทางเบอะคนขับ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมงจึงสามารถนำศพชายคนดังกล่าวออกมาได้ เนื่องจากศพติดอยู่ในซากรถที่ตกลงไปในคูคลอง ลึกประมาณ 2 เมตร อีกทั้งเจ้าหน้าที่ต้องรอรถยกมายกขึ้น ทราบชื่อต่อมาคือ นายวิษณุ หรือ นายทรัพย์สิทธิ์ หรือเยื้อ ฉ่ำดุม อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 170 หมู่ 3 ต.ทุ่งสมอ อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี สภาพศพมีเลือดไหลท่วมตัว แพทย์เวร ร.พ.เจ้าคุณไพบูลย์ได้พลิกศพพบถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่ขมับขวา 4 รู หน้าผาก 1 รู เบ้าตาขวา 1 รู ท้ายทอย 2 รู และกกหูซ้าย 2 รู

 ภายหลัง พล.ต.ต.กมลสันติ กลั่นบุศย์ ผบก.ภ.จ.กาญจนบุรี กล่าวว่า จากการได้รับรายงานทราบว่าก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายและคนเจ็บได้นั่งรถกระบะคันดังกล่าวเข้ามาตามถนนในหมู่บ้าน โดยมี นางกัลยา คนเจ็บเป็นคนขับ เมื่อมาถึงช่วงทางโค้งห่างจากจุดพบศพประมาณ 200 เมตร มีคนร้ายประมาณ 3 คนขับรถยนต์เก๋งสีดำ ไม่ทราบยี่ห้อและหมายเลขทะเบียน ขับประกบตามมาติดๆ จากนั้นคนร้ายได้ใช้อาวุธปืนระดมยิงถล่มจำนวนหลายนัดจนรถยนต์กระบะเสียหาย หลังรู้ตัวว่ากำลังถูกตามยิง ผู้เสียชีวิตจึงได้สั่งให้หญิงสาวที่เป็นคนขับพยายามเร่งเครื่องหลบหนี แต่คนร้ายก็ขับรถตามประกบและยิงถล่มใส่และกระสุนปืนได้ทะลุกระบะหลังเข้าที่บริเวณแผ่นหลังของหญิงสาวที่เป็นคนขับจำนวนหลายนัด และทำให้รถเสียหลักตกลงไปข้างถนน ส่วนนายวิษณุ หรือ นายทรัพย์สิทธิ์ หรือ เยื้อ ฉ่ำดุม ถูกยิงเสียชีวิตคาเบาะโดยสาร นอกจากนั้นทราบว่า 2 ใน 3 คนร้าย ได้ลงจากรถเดินมายิงผู้ตายซ้ำผ่ากระจกซ้ายหลายนัดเข้าศีรษะ จากนั้นจึงรีบขึ้นรถยนต์หลบหนีไป และภายในพรุ่งนี้จะสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่หาปลอกกระสุนปืนและหลักฐานต่าง ๆ ที่คาดว่าจะคงหลงเหลือใกล้ที่เกิดเหตุ และจะตรวจสอบวิถีกระสุนอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง

 ส่วนสาเหตุเท่าที่ตนวิเคราะห์หากเป็นเรื่องชู้สาวคนร้ายจะไม่ก่อเหตุอย่างโหดเหี้ยมอุกอาจแบบนี้ เชื่อว่าน่าจะมีความโกรธแค้นกันมาก่อน แต่อย่างไรก็ยังไม่ตัดประเด็นชู้สาวออกไป สำหรับประเด็นที่มีพยานระบุว่ามีการยิงต่อสู้กันนั้น เท่าที่ทราบปกติผู้ตายจะพกปืนติดตัวตลอดเวลา และถือเป็นคนกว้างขวางในพื้นที่คนหนึ่ง แต่เท่าที่ตรวจสอบภายในรถไม่พบอาวุธปืนแต่อย่างใด ส่วนหญิงสาวที่ได้รับบาดเจ็บและกำลังรักษาตัวอยู่ที่ ร.พ.มะการักษ์ เพื่อความปลอดภัยตนได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ภัทรชัย กอสนาน ผกก.สส.ภ.จ.กาญจนบุรี และ ร.ต.ท.ยุทธนา เมตตา หน.นปพ.กาญจนบุรี ส่งกำลังดูแลความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง เนื่องจากถือเป็นพยานคนสำคัญในคดีนี้