โอปป้า-ออนนี่ ภาษาเกาหลีที่แปลว่าพี่ชาย-น้องสาว ที่แพร่ฮิตในกลุ่มวัยรุ่นผู้คลั่งไคล้เหล่าศิลปินจากแดนโสมขาว จากกระแสข่าวในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาสถานการณ์ความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีดูเหมือนว่าจะยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นและยังไม่จบกันในเร็ววันนี้ ทำให้อดีตบ้านพี่เมืองน้องเกาหลีเหนือ-ใต้ยิ่งเพิ่มความขมขื่นมากยิ่งขึ้น สถานการณ์ที่มีการยั่วยุตอบโต้กันไปมาทั้งจากทางการเกาหลีเหนือ สหรัฐอเมริกา และเกาหลีใต้ยิ่งเป็นตัวเร่งโหมไฟสงครามเกาหลีให้เกิดขึ้นอีกครั้ง วันนี้เราจะลองมองย้อนไปถึงวันวานของชนวนสงครามที่ทำให้เกาหลีต้องแบ่งเกาหลีและชนวนสงครามครั้งใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้น

แบ่งชาติ-แบ่งพี่น้อง

ย้อนมองกลับไปเมื่อปี 1945 หลังสงครามโลกครั้งที่2 ยุติ ความพ่ายแพ้ของจักรวรรดิญี่ปุ่นที่ยึดครองเกาหลีอยู่เดิมส่งผลให้สหรัฐฯ ชาติผู้ชนะสงครามเข้ามาจัดการเกาหลี โดยนักปกครองชาวอเมริกันได้แบ่งคาบสมุทรตามเส้นขนานที่ 38 แบ่งให้กองกำลังทหารสหรัฐยึดครองส่วนใต้ และกองกำลังทหารโซเวียต ยึดครองส่วนเหนือ เป็นจุดเริ่มของการแบ่งชาติโดยมีเส้นขนานที่ 38 แบ่งไว้  หลังจากนั้นได้มีการพยายามจัดการเลือกตั้งขึ้นเพื่อหลอมรวมคาบสมุทรเกาหลีให้เป็นหนึ่งเดียวแต่แล้วก็ไม่เป็นผล

จากความล้มเหลวในการจัดการเลือกตั้ง  ปี 1948 เกาหลีเหนือจึงสถาปนารัฐบาลคอมมิวนิสต์ขึ้นมาและเกาหลีใต้เริ่มใช้ประชาธิปไตยเข้ามาปกครองประเทศ ความรุนแรงเริ่มประทุขึ้นเมื่อพรมแดนเส้นขนานที่38 ถูกล่วงล้ำทำให้สงครามเกาหลีปี 1950 จึงเริ่มขึ้นและยาวนานกว่า 3 ปี เกาหลีใต้ ได้รับการสนับสนุนจากสหประชาชาติ นำโดยยักษ์ใหญ่แห่งสงครามสหรัฐอเมริกาที่เหมือนว่าประเทศใดสนใจจะจัดงานเทศกาลสงครามก็ขอให้เรียนเชิญประเทศนี้เข้าร่วมด้วยอยู่เสมอ ส่วนทางด้านเกาหลีเหนือ ได้รับแรงสนับสนุนจากสาธารณรัฐประชาชนจีนซึ่งปกครองด้วยระบอบเดียวกัน

สงครามสู้รบจบลงในปี 1ฃ 1953 จากกาสูญเสียที่มากมายทำให้สองชาติยอมลงนามในความตกลงการสงบศึกโดยข้อตกลงดังกล่าวระบุว่าให้ฟื้นฟูพรมแดนระหว่างประเทศใกล้กับเส้นขนานที่ 38 นอกจากนี้ให้สถาปนาเขตปลอดทหารเกาหลี สร้างเป็นแนวกันชนที่มีการป้องกันกว้าง รวม4 กิโลเมตร  จากสงครามแบ่งชาติในครั้งนั้นยังคงยืนยาวมาจนถึงปัจจุบันร่วม 60 ปี แม้จะมีการกระทบกระทั่งกันเล็กน้อยแต่ไฟสงครามที่สุมฟอนให้ไฟต้มน้ำในคาบสมุทรเกาหลีกำลังจะเดือดขึ้นอีกครั้ง

ชนวนสงครามรอบใหม่

ความสงบในรอบ60ปีที่ดูเหมือนจะไม่สงบซะทีเดียวเพราะตลอดเวลามีการยั่วยุอยู่ตลอดเวลาด้วยความที่เกาหลีเหนือคงจะหมั่นไส้เกาหลีใต้ที่ทำตัวเป็นมิตรที่แสนดีกับคนทั้งโลก เร่งพัฒนาชาติทั้งวันทั้งคืน ในขณะที่เกาหลีเหนือปิดประเทศและกลายเป็นประเทศที่โดดเดี่ยวที่ยังคงมีจีนที่ยังพอคบค้าสมาคมด้วย เนื่องจากหวังผลประโยชน์ทางธุรกิจที่มีแอบแฝงนั่นเอง
ในวันที่ 8 มี.ค.56 คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ( UNSC ) บังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือเป็นครั้งที่ 4 หลังจากที่เกาหลีเหนือพัฒนานิวเคลียร์ โดยการคว่ำบาตรครั้้งนี้เป็นครั้งที่รุนแรงที่สุดเป็นการเพิ่มความเข้มงวดข้อจำกัดด้านธุรกรรมทางการเงินและการเดินทาง

จากการคว่ำบาตรของ UNSC ในครั้งนี้ไม่มีใครคาดคิดว่าสงครามเกาหลีรอบใหม่กำลังจะเริ่มต้นขึ้นเพราะเกาหลีเหนือประกาศตอบโต้มติดังกล่าวด้วยการยกเลิกข้อตกลงสันติภาพที่จะไม่ใช้กำลังทหารกับเกาหลีใต้ กลายเป็นการประกาศสงครามอย่างเต็มรูปแบบ นอกจากนี้ยังได้มีตัดสายโทรศัพท์ทางด้านความมั่นคงจากเกาหลีใต้ออกด้วย เหตุการณ์ดังกล่าวหลายฝ่ายมองว่าเป็นการประกาศแสนยานุภาพของผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือคนใหม่ คิม จอง อึน

อย่าประมาท คิม จอง อึน

เกาหลีใต้และสหรัฐฯคงจะประมาทไป หลงคิดว่าคิมเล็กเป็นเพียงแค่เด็ก แต่ลืมไปว่ายังคงมีพรรคคอมมิวนิสต์และอำนาจทางการทหารที่แข็งแกร่งของเกาหลีเหนืออยู่ การพัฒนาขีปนาวุธที่มีมาอย่างต่อเนื่อง  โสมแดงได้มีการเผยแพร่คลิปข่มขู่อินทรีผยองว่าอย่าเข้ามายุ่งดีกว่า  โดยพุ่งเป้าการโจมตีไปที่สภาคองเกรส ทำเนียบขาว ยั่วยุให้กองกำลังของสหรัฐเตรียมเครื่องรบชุดใหญ่ประจำการเพื่อช่วยชาติพี่น้องอย่างเกาหลีใต้ร่วมรบ  ซึ่งมีการคาดการณ์กันว่าในวันที่ 15 เม.ย.นี้ ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิดของ คิม อิล ซุง วีรบุรุษผู้ก่อตั้งเกาหลีเหนือ จะได้มีการเริ่มลงมือยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือด้วย

หากจะว่าไปความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีคงจะกระทบกับวัยรุ่นไทยผู้คลั่งไคล้ศิลปินนักร้องเหล่าโอปป้า คงจะต้องกลัวว่าพวกเขาเหล่านั้นจะต้องถือปืนไปรบช่วยชาติ ด้วยหรือไม่ ? สงครามเกาหลีอาจจะทำให้อดดูซีรีย์เกาหลี คอนเสิร์ตเกาหลี เที่ยวเกาหลี หรือศัลยกรรมเกาหลี ผลกระทบจากความรุนแรงของสงครามกำลังจะมาบั่นทอนความบันเทิงของคนไทยคงจะทำให้สาวน้อยสาวใหญ่คงจะต้องวิตกไปอีกหลายเดือน เพราะความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีอาจจะยังไม่จบง่ายๆ เพราะปัญหาไม่ได้อยู่ที่การแบ่งชาติเหมือนสงครามครั้งเก่า แต่ปัญหามีคนกลางมาเกี่ยวด้วยคือ UNSC  ที่ประกาศคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ ความเป็นไปได้ของการยุติสงครามครั้งนี้คงจะยาวไกลและใช้การเจรจาไม่เป็นผลจนกว่าจะมีผู้สูญเสีย