ทายซิ ! นักการเมืองที่คนไทยอยาก”รดน้ำดำหัว”มากที่สุด

จนถึง น้อยที่สุด !!!

นางสาวปุณฑรีก์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลวิจัยเชิงสำรวจ เรื่อง บุคคลที่ประชาชนอยากรดน้ำดำหัวและของขวัญที่ประชาชนอยากได้ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไปใน 17 จังหวัดของประเทศ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร เพชรบุรี ฉะเชิงเทรา นครปฐม สมุทรปราการ อุตรดิตถ์ ลำปาง เชียงราย มุกดาหาร หนองคาย สกลนคร ร้อยเอ็ด บุรีรัมย์ เลย ยะลา นราธิวาส และ สงขลา จำนวนทั้งสิ้น 2,007 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 9-11 เมษายน 2556 ที่ผ่านมา โดยใช้การเลือกตัวอย่างแบบแบ่งกลุ่มเชิงชั้นภูมิหลายชั้น ที่สุ่มเลือกจังหวัด อำเภอ ตำบล ชุมชน ครัวเรือน และประชาชนที่ตอบแบบสอบถามระดับครัวเรือน ความคลาดเคลื่อนบวกลบร้อยละ 7 พบว่า

ตัวอย่างส่วนใหญ่หรือร้อยละ 85.4 ให้ความสำคัญกับเทศกาลสงกรานต์ มีเพียงร้อยละ 14.6 เท่านั้นที่ไม่ให้ความสำคัญ นอกจากนี้กลุ่มตัวอย่างส่วนมากหรือร้อยละ 84.4 เห็นว่าเทศกาลสงกรานต์เป็นเทศกาลที่มีคุณค่า

ประเด็นที่น่าพิจารณา คือ สิ่งที่กลุ่มตัวอย่างไม่อยากพบเห็นในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ 5 อันดับแรก พบว่า อันดับแรกหรือ ร้อยละ 59.0 ระบุ การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อันดับที่สองหรือร้อยละ 55.3 ระบุการเล่นสาดน้ำขณะขับรถ อันดับที่สามหรือร้อยละ 40.2 ระบุการเต้นโคโยตี้ อันดับที่สี่หรือร้อยละ 37.9 ระบุการแต๊ะอั๋งหรือการถูกเนื้อต้องตัว และอันดับที่ห้าหรือร้อยละ 37.2 ระบุการแต่งกายโป๊ เปลือย นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่ไม่อยากพบเห็นรองๆ ลงมาคือ ขับขี่รถเสียงดังแข่งกัน การใช้ยาเสพติด(ไม่รวมเหล้า บุหรี่) และการพนัน ตามลำดับ

นักการเมืองที่กลุ่มตัวอย่างอยากรดน้ำดำหัวมากที่สุด พบว่า
เกือบหนึ่งในสามหรือร้อยละ 30.7 อยากรดน้ำดำหัวนายกรัฐมนตรีนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
รองลงมาร้อยละ 16.3 อยากรดน้ำดำหัวนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
ร้อยละ 15.8 อยากรดน้ำดำหัวนายชวน หลีกภัย
ร้อยละ 10.6 อยากรดน้ำดำหัว พลเอกเปรม ติณสูลานนท์
ร้อยละ 6.8 อยากรดน้ำดำหัว ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง
ร้อยละ 6.7 ระบุนักการเมืองท่านอื่นๆ อาทิ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เป็นต้น
ในขณะที่ร้อยละ 13.1 ระบุไม่อยากรดน้ำดำหัวนักการเมืองท่านไหนเลย

สำหรับของขวัญที่ประชาชนอยากได้จากนายกรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เนื่องในเทศกาลสงกรานต์ พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 30.4 อยากให้ปฏิบัติงานอย่างเต็มที่เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ พัฒนาประเทศให้เจริญยิ่งขึ้น ร้อยละ 27.6 อยากให้แก้ปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง ร้อยละ 13.0 อยากให้ส่งเสริมสวัสดิการและดูแลประชาชนให้เป็นอย่างดี ร้อยละ 7.4 อยากให้บริหารงานด้วยความซื่อสัตย์/แก้ปัญหาทุจริตคอรัปชั่น ร้อยละ 6.9 อยากให้ลดค่าครองชีพและควบคุมราคาสินค้า และรองๆ ลงมา คือ อยากให้ทำงานอย่างมีคุณธรรม จริยธรรม ดูแลผู้สูงอายุให้มากกว่านี้ แก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ดูแลความปลอดภัยในช่วงสงกรานต์ ตามลำดับ

นอกจากนี้ของขวัญที่ประชาชนอยากได้จากนักการเมือง เนื่องในเทศกาลสงกรานต์ พบว่า ตัวอย่างร้อยละ 33.4 อยากให้นักการเมืองเลิกทุจริต คอรัปชั่น ร้อยละ 21.9 อยากให้นักการเมืองไม่ทะเลาะ เถียงกัน ร้อยละ 16.6 อยากให้นักการเมืองทำหน้าที่อย่างมีคุณธรรม จริยธรรม ร้อยละ 6.3 อยากให้นักการเมืองรับฟังและเข้าถึงประชาชนทุกชนชั้น ร้อยละ 5.0 อยากให้นักการเมืองไม่เห็นแก่ประโยชน์ของพวกพ้องตนเอง ร้อยละ 4.8 อยากได้นักการเมืองที่มีความรู้ ความสามารถอย่างแท้จริง และร้อยละ 4.0 อยากให้นักการเมืองเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับประชาชน ตามลำดับ

เมื่อสอบถามถึงพรที่อยากได้รับมากที่สุดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ พบว่า ตัวอย่างส่วนมากหรือร้อยละ 43.7 อยากมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง สมบูรณ์ ร้อยละ 17.1 อยากให้ประเทศชาติสงบสุข ร้อยละ 16.1 อยากมีชีวิตคู่ ครอบครัวที่อบอุ่น ร้อยละ 9.5 อยากให้ร่ำรวย มีเงินทอง มีโชคลาภ และร้อยละ 5.8 อยากมีความเจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงาน ตามลำดับ

จากการพิจารณาลักษณะทั่วไปของตัวอย่าง พบว่า ตัวอย่างร้อยละ 31.9 เป็นชาย ร้อยละ 68.1 เป็นหญิง ตัวอย่างร้อยละ 3.4 อายุน้อยกว่า 20 ปี ร้อยละ 20.2 อายุระหว่าง 20–29 ปี ร้อยละ 30.5 อายุระหว่าง 30–39 ปี ร้อยละ 21.7 อายุระหว่าง 40–49 ปี และ ร้อยละ 24.2 อายุ 50 ปีขึ้นไป ตัวอย่างร้อยละ 51.2 สำเร็จการศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรี ในขณะที่ ร้อยละ 48.8 สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีขึ้นไป ตัวอย่างร้อยละ 29.5 ระบุอาชีพเกษตรกร/รับจ้างทั่วไป ร้อยละ 30.1 ระบุอาชีพค้าขาย/ธุรกิจส่วนตัว ร้อยละ 13.4 ระบุเป็นพนักงานเอกชน ร้อยละ 7.0 ระบุข้าราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ ร้อยละ 9.3 ระบุเป็นนักเรียนนักศึกษา ร้อยละ 6.8 เป็นแม่บ้าน/พ่อบ้าน/เกษียณอายุ และร้อยละ 3.9 ว่างงาน/ไม่ได้ประกอบอาชีพ