ยูเนสโกมีมติขึ้นทะเบียนเอกสารสำคัญทางประวัติศาสตร์ของรัชกาลที่ 5 เป็นมรดกความทรงจำแห่งโลกปี 2552 เป็นเอกสารเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสยาม รวมพระอัจริยภาพทุกด้านที่ทรงปรับปรุงเปลี่ยนแปลงส่งเสริมให้สยามอยู่ได้อย่างสงบ
คุณหญิงแม้นมาส ชวลิต ประธานคณะกรรมการว่าด้วยแผนงานมรดกความทรงจำโลก ของคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยยูเนสโก ประเทศไทย แถลงว่า การประชุมคณะกรรมการที่ปรึกษาระหว่างประเทศของโครงการมรดกความทรงจำแห่งโลก ที่ประเทศบาร์เบโดส ระหว่างวันที่ 29-31 กรกฎาคม มีมติเอกฉันท์ให้ขึ้นทะเบียนเอกสารสำคัญทางประวัติศาสตร์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงของสยาม เป็นมรดกความทรงจำโลก ซึ่งเอกสารดังกล่าวประกอบด้วยเอกสารการเลิกทาสและเอกสารอื่นที่แสดงให้เห็นถึงนโยบายและการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ที่ส่งเสริมให้กรุงสยาม ดำเนินนโยบายต่างประเทศ ที่ทำให้ประเทศสามารถอยู่ในความสงบได้อย่างดี โดยเป็นเอกสารต้นฉบับทั้งหมด 8 แสนหน้า ปัจจุบันจัดเก็บไว้ที่หอสมุดแห่งชาติและหอจดหมายเหตุแห่งชาติ
ได้จัดทำเอกสารนำเสนอคณะกรรมการที่ปรึกษาฯ 8 กลุ่มด้วยกันคือ 1.เลิกทาส และจัดระบบการศึกษาแบบใหม่ 2.ระบบการสาธารณสุข 3.ปรับปรุงการสาธารณูปโภค 4. รถไฟ 5.จัดระบบบริหารราชการ 6.ปรับปรุงระบบเศรษฐกิจ การจัดเก็บรายได้ 7.จัดระบบการประปา ไฟฟ้าให้ไปได้ทั่วถึง 8.พระราชนิพนธ์และวรรณกรรม เช่น พระราชนิพนธ์ไกลบ้าน เงาะป่า
"เมื่อยูเนสโกรับรองขึ้นทะเบียนเป็นมรดกความทรงจำโลกแล้ว มีข้อผูกพันต้องเก็บเป็นอย่างดี หากมีสภาพทรุดโทรมต้องดูแลรักษา และต้องเผยแพร่ให้เอกสารออกไปสู่ประชาชนและโลก"คุณหญิงแม้นมาส กล่าว
รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะเลขาธิการคณะกรรมการว่าด้วยแผนงานมรดกความทรงจำโลก ของคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยยูเนสโก ประเทศไทย กล่าวว่า นำเสนอที่ประชุมใหญ่คณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยยูเนสโก ประเทศไทยที่มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธาน พิจารณาจัดนิทรรศการเฉลิมฉลอง ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐมนตรีว่าการฯ ที่เน้นความเป็นไทย
เอกสารสำคัญทางประวัติศาสตร์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เป็นเอกสารของประเทศไทยชิ้นที่ 2 ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกความทรงจำแห่งโลก ภายหลังจากที่ยูเนสโกได้ประกาศให้ศิลาจารึกหลักที่ 1 ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อปี 2546 และพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้รับประกาศเป็นบุคคลสำคัญแห่งโลกที่ยูเนสโกร่วมเฉลิมฉลองเมื่อปี 2544