เพื่อยืนยันว่า เศรษฐีน้ำมัน "ดูไบ" ที่ได้ชื่อว่า มั่งคั่งที่สุด ล่าสุดทางการดูไบเตรียมใช้งานแลมบอกินีรถซูเปอร์คาร์เป็นรถตำรวจ
"แลมบอกินี อะเวนทาดอร์" ในสีรถตำรวจคันนี้ ถูกนำมาจัดแสดงที่ห้างสรรพสินค้าดูไบมอล์
โดยสำนักข่าวท้องถิ่นรายงานว่า รถตำรวจแลมบอกินี 1 คันนั้น สนนราคาประมาณ 10 ล้านบาท และด้วยเครื่องยนต์ วี12 ทำให้รถตำรวจของดูไบนี้ สามารถทำความเร็วสูงสุดกว่า 347 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และสามารถเร่งเครื่องจากช่วง 0 - 96 กิโลเมตร ในเวลาเพียง 2.9 วินาที ซึ่งดูจะเป็นคุณสมบัติที่ควรจะใช้ในสนามแข่ง มากกว่าที่จะใช้เป็นรถตำรวจธรรมดา
อย่างไรก็ตาม น่าสนใจว่า รถตำรวจแลมโบกินีได้ปรากฎต่อสาธารณะในช่วงเวลาเดียวกับที่กรมตำรวจได้รณรงค์แคมเปญเพื่อลดการใช้รถใช้ถนนของบรรดาวัยรุ่นที่ค่อนข้างมีฐานะที่เห็นท้องถนนเป็นสนามเด็กเล่นเป็นสนามแข่งรถ โดยเฉพาะถนนมอเตอร์เวย์ในแถบทะเลทราย
โดยทางกรมตำรวจได้กำหนดโทษตั้งแต่การปรับไปจนถึงจำคุกหากขับรถยนต์ด้วยความเร็วเกิน200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยอัตราค่าปรับจะอยู่ระหว่าง 4,000 - 6,500 บาท
แต่ก็มีผู้ใช้ถนนที่ไม่เห็นด้วยกับแคมเปญนี้ของกรมตำรวจเท่าใดนัก โดยคนในพื้นที่บางคนกล่าวว่า การกำหนดความเร็วเช่นนี้ไม่สามารถใช้ได้จริง เพราะต้องพิจารณาเงื่อนไขเรื่องสถานที่ด้วย เช่น หากถนนโล่ง และเป็นเวลามืดแล้ว ทำไมถึงต้องขับช้า อีกทั้งการขับช้าในเงื่อนไขแบบนี้ยังอาจก่อให้เกิดอันตรายได้
นอกจากนั้นยังมีผู้ให้ความเห็นอีกว่ารถทุกคันสามารถใช้ความเร็วได้เกิน 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อยู่แล้ว ควรจะสร้างความตระหนักให้แก่ผู้ใช้ถนน มากกว่าใช้กฎระเบียบที่เคร่งครัดเช่นนี้
โดยก่อนหน้านี้ รถตำรวจของดูไบได้ใช้บริการรถ "เชฟโรเลต คามาโร เอสเอส" เป็นเครื่องมือแรกที่แคมเปญรณรงค์นี้