เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 13 เม.ย. ผู้สื่อข่าว ข่าวสด รายงานว่า พ.ต.อ.สมคะเน โพธิ์ศรี ผกก.สภ.เมืองระนอง ได้รับรายงานจากสายข่าว ถึงพฤติกรรมของแก๊งคู่ดูโอ ชาย-หญิง วิ่งราวทรัพย์ แรงงานต่างด้าวชาวพม่า จึงสั่งการให้ พ.ต.ต.ยุทธนา ทองปาน สารวัตรสืบสวน สภ.เมืองระนอง นำกำลังเข้าตรวจสอบ ผู้ต้องสงสัย นายบุญเลิศ หรือต้น ทิวโต อายุ 24 ปี และ น.ส.เอ นามสมมติ อายุ 17 ปี บริเวณวัดสุวรรณคีรีวิหาร ต.เขานิเวศน์ อ.เมืองระนอง จ.ระนอง
ขณะเข้าตรวจสอบ ทั้งคู่เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงแผ่นหนีข้ามคลองหลังวัดหน้าเมือง โดยทิ้งกระเป๋าสะพายสีฟ้าไว้ข้างก่อไม้ไผ่ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน จึงวิทยุขอกำลังสนับสนุน จากเจ้าหน้าตำวจสายตรวจ,ตำรวจจราจร และตำรวจชุดป้องกันปราบปราม สภ.เมืองระนอง เข้าสกัดจับผู้ต้องสงสัย ชายหญิง 2 คน โดย นายต้นและน.ส.เอ ภายหลังขึ้นจากคลองได้วิ่งหลบหนีเข้าป่าละเมาะ และวิ่งตัดถนนผาดาด เข้าซอยเสาแดง เมื่อ จนท.ตำรวจวิ่งไล่กวด ก่อนจวนตัว นายต้นจึงปีนกำแพงหลังบ้านและขึ้นหลังคาบ้านประชาชน ก่อนกระโดดหนีลงทางหน้าบ้าน ทำให้ข้อเท้าเคล็ด ถูกควบคุมตัวได้ทันที ส่วน น.ส.เอ ที่แยกหนีเดี่ยวไปแอบซุ่มในป่ากอกล้วย นึกว่าตำรวจไปหมดแล้วจึงเดินออกมา สุดท้ายถูกรวบตัวไว้เช่นกัน
นายต้น ให้การรับสารภาพ พร้อมซัดทอด มีกลุ่มเพื่อนร่วมแก๊ง คู่ดูโอ อีก 4 คน พักอยู่ในเกสต์เฮาส์แห่งหนึ่ง หลังวัดป่าช้า จึงนำกำลังเข้าทำการจับกุม ได้วัยรุ่นอีก 4 คน เป็นชาย 3 คน หญิง 1 คน อายุ 14 - 18 ปี พร้อมอาวุธมีดสปาต้าที่ซุกใต้ที่นอนอีก 1 เล่ม ก่อนนำตัวทั้งหมดมแยกสอบสวน ที่ห้องสืบสวน สภ.เมืองระนอง
จากการขยายผล นายต้นและน.ส.เอ เริ่มก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์สาวแรงงานพม่า เฉพาะต้นเดือน เม.ย.56 ร่วม 20 คดี โดยนายต้น ให้การสารภาพว่า ขณะก่อเหตุจะใช้รถจักรยานยนต์ โดยมีแฟนสาวนั่งซ้อนท้าย เลือกเหยื่อเฉพาะสาวพม่าเท่านั้น หากเหยื่อขับรถจักรยานยนต์ที่มีกระเป๋าสตางค์ ใส่ตะกร้าหน้ารถ ก็จะขับรถจักรยานยนต์เทียบ แล้วให้ น.ส.เอ หยิบกระเป๋าแล้วขับหลบหนี หากเดินอยู่ตามข้างถนน สะพายหรือถือกระเป๋า นายต้นก็จะเป็นคนลงมือเอง สาเหตุที่เลือกเหยื่อหญิงชาวพม่า เพราะง่ายต่อการลงมือ และมักไม่ค่อยแจ้งความกับ จนท.ตำรวจ เพราะบางคนพูดภาษาไทยไม่ได้
ส่วนชื่อแก๊งดูโอ ตั้งจากเวลาไปไหนมาไหน มักจะไปกันเป็นคู่ สำหรับเพื่อนร่วมแก๊งอีก 4 คน เป็นกลุ่มวัยรุ่นหลังโรงเรียนพิชัยฯ 3 ใน 4 รับสารภาพเคยก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ลักษณะนี้เช่นกัน แต่เนื่องจากขาดเจ้าทุกข์ ชี้ตัวและไม่พบของกลางในการกระทำความผิด ภายหลังจากทำประวัติ ได้ปล่อยตัวไปชั่วคราว จนกว่าจะมีเจ้าทุกข์มาแจ้งความก็จะเรียกตัวมาดำเนินคดีต่อไป