วิกิพีเดียมีศัพท์หนึ่งเขียนว่า "Taboo Food and Drink." หรือ "ข้อห้ามอาหารและเครื่องดื่ม" อันเป็นข้อห้ามกินอะไรบางอย่างที่สังคมและวัฒนธรรมในประเทศนั้น ๆ รับไม่ได้ อาจเนื่องด้วยเหตุผลศาสนาที่มีข้อห้ามอาหาร เช่น ห้ามกินหมู สัตว์เลื้อยคลาน ปลากระดูกแข็ง พืช หรือ เชื้อรา และแมลงต่าง ๆ หรืออาจเป็นเรื่องของสุขอนามัยและการสูญพันธุ์ของสัตว์ที่ถูกกินจนต้องร่างกฎหมายดังกล่าว
และต่อไปนี้คือ 10 อับดับของสัตว์เหลือเชื่อว่าจะเอามากินได้
จริงอยู่ที่ในสังคมตะวันตกช้างเป็นสัตว์น่ารักเหมาะนำมาใช้งาน และความบันเทิงมากกว่าจะมาทำเป็น อาหาร อีกทั้งรูปร่างของมันดูยังไงก็ไม่น่าจะรับประทานได้ แต่คุณรู้หรือไม่ว่าในภาคกลางและแอฟริกาตะวันตก พวกชาวพื้นเมืองมักล่าช้าง เพื่อนำไปเป็นอาหารมากกว่าจะเอางาของมัน โดยช้างนั้นเป็นสัตว์ให้เนื้อเยอะถึง 1000 ปอนด์ต่อตัว โดยจะแล่เนื้อช้างเอาไปรมควันและเอาไปตากเค็ม ในแคเมอรูนเนื้อช้างถูกวางจำหน่ายในตลาดราวกับเนื้อหมู ทั้งที่ผิดกฎหมาย ที่ประเทศซิมบับเวนั้นกินสดๆ หลังจากช้างล้มไปก็มีเนื่องจากความหิวโหย ส่วนในประเทศไทยเชื่อว่าการกินเนื้อช้างจะมีผลต่อสมภาพทางเพศที่ดีขึ้น ทำให้มีหลายครั้งที่ช้างมักถูกล่าเพื่อการนี้ และในศาสนายิวและศาสนาอิสลามมีกฎชัดเจนว่าห้ามบริโภคเนื้อช้างเพราะช้างเป็นสัตว์บกที่ไม่เหมาะแก่การบริโภค ปัจจุบันช้างเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์และเป็นสัตว์ที่ป้องกันจากการล่าของมนุษย์ยากที่สุด
กอริลลาเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ที่ป้องกันการล่ายากพอๆ กับช้าง ชาวเมืองพื้นเมืองของประเทศต่างๆ ในแอฟริกา ไม่ว่าเป็นแคเมอรูน อูกันดา คองโก นิยมเอาเนื้อกอริลล่าไปตุ๋น โดยขายตามตลาดในเมืองใหญ่ โดยเนื้อกอริลล่าจะถูกแบ่งเป็นชิ้นๆ และนำไปรมควัน ขายประมาณชิ้นละ 6 ดอลลาร์ ส่วนมากมักนิยม กินในประเทศมากกว่าส่งออก ในแต่ละปีกอริลล่าประมาณ 300 ตัวจะถูกฆ่าเพื่อไปทำเป็นอาหาร บางประเทศการกินเนื้อกอริลล่าและลิงชิมแปนซีซึ่งถือว่าเป็นประเพณีเก่าแก่มาก และประเพณีดังกล่าวยังคงอยู่จนถึงทุกวันนี้ ปัจจุบันกอริลล่าใกล้จะสูญพันธุ์และมีการคาดหมายว่าในทศวรรษหน้ากอริลล่าจะหมดโลก
มดเป็นอาหารที่นิยมในบางประเทศ เนื่องจากมดมีคุณค่าทางโภชนาการและรสอร่อย และเหมาะแก่การส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันของมนุษย์ เพราะมดเต็มไปด้วยพลังงานและสารอาหาร ในประเทศไทยนั้น ในภาคอีสานและภาคเหนือนิยมเลี้ยงมด เพื่อเอามาทำเป็นอาหารราวกับสัตว์ เศรษฐกิจ เช่น ทางภาคเหนือนิยมนำไข่มดส้มมาทำอะไรต่างๆ เช่น ใส่ในไข่ตุ๋น ก้อยไข่มดแดง ยำไข่ มดส้ม ในประเทศอินเดียและอเมริกาใต้ มดนิยมนำมาทอดหรืออบ (ในกรณีมดที่มีขนาดใหญ่) ในฝรั่งเศสหรืออินเดียจะนำมดมาทำช็อคโกแลตอย่างหรู โดยเขาจะนำนางพญามดเขี้ยวใบมีดมา ใส่ในช็อคโกแลตเบลเยี่ยมอย่างดี โดยแต่ละก้อนจะมีมดสี่ตัว ราคาประมาณ ? 4.99 ซึ่งขายตามเว็บ ในอินเตอร์เน็ต และคุณสามารถดูการทำมดช็อคโกแลตได้ในคลิปด้านล่าง
ปลาปักเป้าทั้งน้ำจืดและน้ำเค็ม เป็นปลาต้องห้ามผลิตและจำหน่ายในหลายประเทศทั่วโลก เนื่องจากมันมีพิษที่ชื่อว่า เตโตรโดท็อกซิน (Tetrodotoxin) ในหนังปลา ไข่ปลา เนื้อปลา ตับ และลำไส้ มี ความทนต่อความร้อนสูง ในประเทศญี่ปุ่นได้มีการบริโภคเนื้อปลาปักเป้ามาตั้งแต่โบราณ โดยเนื้อปลาปักเป้ามีภาษาญี่ปุ่นว่า “ฟุคุ” เนื้อปักเป้าถือว่าเป็นอาหารราคาแพงและหายาก โดยผู้ที่ต้องการแล่ปลาปักเป้าจะต้องไปเรียน วิธีการแล่เนื้อปลาจากสมาคมการแล่ปลาปักเป้าแห่งญี่ปุ่นและได้รับใบประกาศมา การแล่ต้องเอาเส้นเมาออกซึ่งเส้นเมา หรือเส้นพิษจะมีขนาดเล็กและบางมาก โดยตัวหนึ่งจะมีเนื้อที่กิน ได้เพียงนิดเดียวเท่านั้น โดยราคาซาซิมิปักเป้าญี่ปุ่นขายกันจานล่ะ หมื่นเยน แต่กระนั้นเนื้อปลา ปักเป้าก็เป็นที่นิยมของชาวญี่ปุ่นเนื่องจากรสชาติที่หวาน กรุบ และถือว่าการกินปลาปักเป้าเป็นการท้าทายความตายด้วย
ในวัฒนธรรมตะวันตกส่วนใหญ่หนูขาวถือว่าเป็นสิ่งสกปรกน่ารังเกียจ นำภัยพิบัติมาให้หรือนำเชื้อโรคอันตราย อย่างมากหนูก็เหมาะเอาไว้เป็นสัตว์เลี้ยงเท่านั้น ไม่ควรบริโภคเป็นอย่างยิ่ง แต่ในบางประเทศหนูถือว่าเป็นสัตว์ที่มีโปรตีนสูง หาง่ายในประเทศตะวันออกเฉียงเหนือ เช่น ไทย อินโดจีน และเวียดนาม มักนำหนูนามาย่าง โดยหนูส่วนใหญ่ที่เอามากินเป็นหนูนา หนูเคน (หรือหนู ไร่อ้อยมีขนาดยักษ์มาก) ส่วนในแอฟริกานั้นค่อนข้างยากจนอดอยากไม่มีอาหารกิน (รวมไปถึงเกาหลีเหนือ) หนูจึงเป็นแหล่งโปรตีนอย่างช่วยไม่ได้ โดยหนูที่กินกันส่วนใหญ่มักเป็นหนูขนาดเล็ก เช่นหนูแบมบู หนูบุช ที่ซิมบับเวนั้นกินหนูสดๆ ส่วนในอเมริกาใต้ เช่น เปรู เอกวาเดอร์มักนำหนูตะเภาชนิดหนึ่งเอามาย่าง ให้หนังกรอบเสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียงจำพวกซอสหรือมันฝรั่งทอดกิน ส่วนในจีนหรือไต้หวันนิยมเอาลูก หนูที่ยังไม่หย่านมเอามาดองเหล้า