...เงียบหายไปนาน หลังจากที่ทำนายพลาดมาหลายเรื่อง แต่ อาจารย์วารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ เจ้าของฉายา โหร คมช. ผู้อยู่เบื้องหลังการเลือกฤกษ์ปฏิวัติ 19 กันยายน 2549 ให้ บิ๊กบัง พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ก็ยังเป็นที่เคารพนับถือของบรรดาคนมีสี โดยเฉพาะใน ทบ. ที่ยังแวะเวียนไปหาเสมอๆ
ถึงขั้นที่ บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งถือเป็นศิษย์เอกคนหนึ่ง ได้เดินทางไปเชียงใหม่ เพื่อร่วมพิธีทำบุญและรับมอบ "ข่วงพระเจ้าล้านนา" ที่ใช้เวลาสร้างมา 5 ปีเต็ม ด้วยเงินบริจาคกว่า 200 ล้านบาท จากลูกศิษย์ลูกหาของ อ.วารินทร์ เมื่อ 7 เมษายนที่ผ่านมา
ความสำคัญของ "ข่วงพระเจ้าล้านนา" ที่ อ.วารินทร์ สร้างตามนิมิตที่ หลวงปู่ฤๅษีเกวาลัน ดลบันดาลให้เห็นนั้น ก็เพื่อที่จะแก้เคล็ดประเทศ
"เป็นการคลายกรรมให้ประเทศ และเป็นศูนย์กลางการปฏิบัติธรรม ที่สำคัญที่สุดคือเป็นพลังบุญให้กองทัพ ผมจึงเลือกที่จะสร้างในพื้นที่ของกองทัพบก เพราะกองทัพจะต้องเป็นหลักให้ชาติบ้านเมือง" อ.วารินทร์ เผย
ตอนที่เริ่มสร้างเมื่อ 7 กุมภาพันธ์ 2551 นั้น เพราะ อ.วารินทร์ มองเห็นเหตุร้ายในชาติบ้านเมือง เห็นการเผาบ้านเผาเมือง จึงเร่งสร้าง แต่ก็ไม่สำเร็จในเวลาแค่ 1 ปี เพราะต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก เพราะสร้างประหนึ่ง มินิพุทธมณฑล เลยทีเดียว จึงทำให้เกิดเหตุปราบปรามคนเสื้อแดงในปี 2553 เสียก่อน
"แต่ผมไม่รับเงินบริจาคจากพวกโจรปล้นแผ่นดิน พวกนี้ผมให้ไปบริจาคที่อื่น เพราะเงินที่จะสร้างสถานที่สำคัญศักดิ์สิทธิ์ จะต้องเป็นเงินจากผู้ที่ช่วยดูแลชาติบ้านเมือง ไม่เอาเงินพวกที่ทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย" อ.วารินทร์ กล่าว
ในทุกๆ ปี อ.วารินทร์ จะถือฤกษ์ในช่วงวันจักรี 6 เมษายน ในการทำบุญครั้งใหญ่ แบบที่เรียกว่า ทำบุญประเทศ และเป็นการถวายเป็นพระราชกุศลให้กับสถาบันกษัตริย์ แต่ปีนี้พิเศษตรงที่ มีการส่งมอบ "ข่วงล้านนา" นี้ให้ พล.อ.ประยุทธ์
งานสำคัญแบบนี้ จึงมีทั้ง บิ๊กต๋อย พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข องคมนตรี และอดีต ผบ.ทอ. และรองประธาน คมช. ศิษย์เอกอีกคนมาร่วมพิธี ที่ อ.วารินทร์ บอกว่า พล.อ.อ.ชลิต ก็จะเป็นอีกท่านที่มีบุญบารมีจะช่วยกอบกู้ชาติบ้านเมืองและสถาบัน พร้อมด้วย ท่านใหม่ พล.ต.ม.จ.จุลเจิม ยุคล
ขาดแต่ บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีต รมว.กลาโหม ศิษย์เอกคนสำคัญคนแรกของ อ.วารินทร์ ที่ไม่มา เพราะกลัวว่าจะมาปะหน้ากับ พล.อ.สนธิ เพื่อน ตท.6 แต่คนละขั้ว หรือ ป้าหล้า ปิยะดา หลังบ้านบิ๊กบัง จึงออกตัวกับ อ.วารินทร์ ว่า ไม่ว่าง
"ผมพูดไว้ได้เลยว่า ผมเห็นว่า ชาติบ้านเมืองเราจะต้องมีอะไรอีกสักครั้งหนึ่ง แล้วก็จะจบ จะสงบเรียบร้อย ต้องมีสถานการณ์ที่ยุ่งวุ่นวาย แล้วจะมีคนที่เป็นวีรบุรุษมาระงับเหตุ ผ่อนหนักให้เป็นเบา" อ.วารินทร์ ทำนาย
ครั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ก็สวมเครื่องแบบทหารบก มาร่วมพิธี พร้อมควงเพื่อนรักร่วมชะตากรรมอย่าง บิ๊กหนุ่ย พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รอง ผบ.ทบ. มาด้วย
"ผมไม่มีสี และไม่อยากให้คนไทยมีสี ไม่อยากให้แบ่งแยกกันด้วย อยากให้พวกเราเป็นสีเดียวกันคือ สีธงชาติ แล้วพวกเรานี้จะเรียกพวกเราและกลุ่มที่จะมากอบกู้ชาติบ้านเมืองว่า กลุ่มสีธงชาติ ผมขอเน้น และย้ำว่า สีธงชาติ จะกอบกู้ชาติบ้านเมือง" โหร คมช. กล่าว
ตามฟอร์ม อ.วารินทร์ ให้ความสำคัญกับ พล.อ.ประยุทธ์ อย่างมาก เพราะนอกจากจะเป็น ศิษย์รัก ศิษย์เอก ที่อยู่ในอำนาจ และที่ผ่านมาก็ขอคำปรึกษาต่างๆ แบบเงียบๆ มาตลอด ด้วยการระบุว่า "พล อ.ประยุทธ์ นั้นจะเป็นผู้ที่ค้ำราชบัลลังก์ ค้ำแผ่นดิน"
นั่นคือสิ่งที่ อ.วารินทร์ ได้บอกกับ พล.อ.ประยุทธ์ มาเสมอๆ ใครเจอมุขนี้เข้าไปก็ต้องคิดหนักพอสมควร
ยิ่งเมื่อ อ.วารินทร์ ย้ำว่า ในยุคก่อน เป็นยุคของการสร้างชาติ ระงับไม่ให้เกิดความรุนแรง ตอนนั้น เป็นหน้าที่ของพระเจ้าตากสินฯ และทหารเอกพระเจ้าตากฯ ภายใต้การนำของ พล.อ.สนธิ
มาเวลานี้ องค์พระสยามเทวาธิราช ได้เป็นองค์ประธานอยู่เบื้องบน แล้วให้เป็นยุคที่ให้สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงลงมากอบกู้ชาติบ้านเมือง
"ผมถึงบอกว่า พล.อ.ประยุทธ์ ในชาติภพก่อนนั้น ท่านเป็นทหารเอกพระนเรศวรฯ ที่คอยกอบกู้ชาติบ้านเมือง ในการต่อสู้กับอริราชศัตรูในยุคนี้" อ.วารินทร์ กล่าว
ในภาพรวมตอนนี้บ้านเมืองกำลังจะเดินไปสู่เส้นทางที่ดี ในเวลานี้ อ.วารินทร์ มองว่า ยังเป็นเวลาของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่จะอยู่ไปได้ช่วงหนึ่ง เมื่อหมดบุญก็หมดเวลา ไม่อาจอยู่ค้ำฟ้าได้
ท่ามกลางความหวาดหวั่นว่า "อีกสักครั้งหนึ่ง" ของ อ.วารินทร์ จะหมายถึงการปฏิวัติรัฐประหาร
รวมทั้งมักตอกย้ำเรื่องนายกรัฐมนตรี ที่ชื่อว่า ป. ที่ไม่ใช่นายกฯ ปู แต่เชื่อกันว่า หมายถึง นายทหารใหญ่
พล.อ.ประยุทธ์ จึงต้องออกตัวว่า "มี ป. ตั้งหลายคน คงไม่ใช่ผมหรอก" อีกทั้งนายกรัฐมนตรีจะต้องมาจากการเลือกตั้ง และการเลือกกันในสภา เป็นไปตามกระบวนการประชาธิปไตย "ตอนนี้สภายังอยู่ แล้วจะมีนายกฯ คนใหม่ได้ยังไง"
พร้อมออกตัวแจงแทน อ.วารินทร์ ว่า ไม่ได้เป็นโหร คมช. เพราะท่านเป็นโหรมาก่อนมี คมช. เสียอีก แล้วประชาชนก็ไปหาท่านโดยตลอด ใครถามอะไรท่านก็ตอบหมด อย่าไปโทษว่าเป็นโหร คมช.
แต่ที่แน่ๆ พล.อ.ประยุทธ์ นั้น ก็เชื่อว่า ตนเองในชาติปางก่อน ได้เกิดมาเป็นทหารเอกพระนเรศวรฯ "ชาตินี้เกิดมาเป็นทหาร ก็แสดงว่าชาติก่อนก็ต้องเป็นทหาร" เขาจึงให้ความเคารพนับถือสมเด็จพระนเรศวรฯ อย่างมาก และส่งผลให้หน่วยทหารของ ทบ. ในภาคเหนือ หันมาสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรฯ กันอีกด้วย
เรื่องของอดีตชาติ กับเรื่องในอนาคต ไม่มีใครอาจหยั่งรู้ได้ว่า เคยเกิดขึ้นจริง หรือจะเป็นเรื่องจริงหรือไม่ แต่เมื่อโหร คมช. กลายเป็นผู้หยั่งรู้อดีตและอนาคต จึงยังคงเป็นที่เคารพเชื่อถือของบิ๊กทหาร ยิ่งเมื่อระดับ ผบ.ทบ. เป็นศิษย์เอกด้วยแล้ว เขาก็เป็นประหนึ่ง นอสตราดามุส ของ ทบ.
ที่ตัว พล.อ.ประยุทธ์ เอง ก็อาจกำลังลุ้นว่า อีกสักครั้งหนึ่ง ที่รออยู่เบื้องหน้านั้น คืออะไร จะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ แต่ที่สำคัญ มันจะจบลงอย่างไร ในเมื่อโหรผู้นี้ ตอกย้ำกับเขาเสมอว่า "ท่าน ผบ.ทบ.ประยุทธ์ จะเป็นผู้กอบกู้แผ่นดิน และราชบัลลังก์"
"อีกครั้งหนึ่ง มีแน่ๆ ผมเห็น แล้วทุกอย่างจะจบ" เสียงโหร คมช. ที่ก้องอยู่ในโสต