เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก สปริงนิวส์
นางมาการ์เร็ต แธตเชอร์ อดีตนายกรัฐมนตรีหญิงของประเทศอังกฤษ ถึงแก่อสัญกรรมแล้ว ด้วยวัย 87 ปี ด้วยอาการหลอดเลือดสมองตีบตัน
วันนี้ (8 เมษายน) ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นางมาร์กาเร็ต แธตเชอร์ อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ เจ้าของฉายา "นางสิงห์เหล็ก" ได้ถึงแก่อสัญกรรมอย่างสงบแล้ว ด้วยวัย 87 ปี ในวันที่ 8 เมษายน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา หลังมีอาการอุดตันของเส้นโลหิตไปเลี้ยงสมอง
ทั้งนี้ ทางสำนักพระราชวังบัคกิ้งแฮม ระบุว่า สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งอังกฤษ ทรงทราบข่าวดังกล่าวแล้ว และทรงส่งสาส์นส่วนพระองค์ เพื่อแสดงความเสียใจไปยังครอบครัสของนางแทตเชอร์เป็นที่เรียบร้อย
ขณะที่ นายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ บอกว่า การถึงแก่อสัญกรรมของนางมาร์กาเร็ต แทตเชอร์ ถือว่าอังกฤษได้สูญเสียผู้นำที่ยิ่งใหญ่รวมทั้งรัฐมนตรีที่ยิ่งใหญ่ และขณะนี้ได้สั่งให้ลดธงครึ่งเสาแล้ว
สำหรับประวัติของ มาร์กาเร็ต แธตเชอร์ เดิมมีชื่อว่า มาร์กาเร็ต ฮิลด้า โรเบิร์ตส์ เกิดเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม ค.ศ. 1925 ที่เมืองแกรนแธม แคว้นลิงคอล์นเชียร์ โดยเธอสืบสายเลือดนักการเมืองมาจากบิดาผู้เป็นสมาชิกพรรคทอรี หรือพรรคอนุรักษนิยม และเป็นนายกเทศมนตรีในขณะนั้น
ส่วนประวัติทางด้านการศึกษา มาร์กาเร็ต เริ่มการศึกษาที่โรงเรียนสตรีเคสต์เวน แอนด์ แกรนแธม จบมัธยมแล้วต่อที่ซอมเมอร์วิลล์ คอลเลจ มหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด สำเร็จปริญญาตรีเคมีเกียรตินิยม
จากนั้น เมื่อเธออายุ 25 ปี ก็ได้เข้าพรรคอนุรักษนิยมและลงสมัคร ส.ส.เขตดาร์ตฟอร์ด ถึงแม้ว่าจะแพ้แต่ก็เป็นการสร้างสถิติใหม่ คือเป็นผู้หญิงที่มีอายุน้อยที่สุดในการสมัครครั้งนั้น ต่อมาเธอก็ได้แต่งงานกับ แดนิช แธตเชอร์ อดีตนายพันตรีกองพันทหารปืนใหญ่ผู้มีฐานะมั่งคั่ง และเธอได้เรียนวิชากฎหมายก่อนจะลงสมัคร ส.ส. เขตฟินชลีย์ ในปี 1959 จนเธอได้รับเลือกตั้งให้เป็น ส.ส. นับแต่นั้นเป็นต้นมา
ต่อมา มาร์กาเร็ต ได้ก้าวสู่ตำแหน่งบริหาร เป็นรัฐมนตรีกระทรวงเงินบำเหน็จบำนาญ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาและวิทยาศาสตร์ เป็นหัวหน้าพรรคอนุรักษนิยม และเป็นนายกรัฐมนตรีอังกฤษ เมื่อเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1979 ซึ่งสร้างประวัติศาสตร์เป็นผู้นำประเทศสตรีคนแรกของยุโรป และคนที่ 4 ของโลก
ส่วนการบริหารประเทศของมาร์กาเร็ตนั้น เธอตัดสินทุกอย่างอย่างเฉียบขาด แข็งกร้าวและไม่เกรงกลัวผู้ใด ถึงแม้ว่าหลายฝ่ายจะมองว่าเผด็จการก็ตาม แต่ก็เธอก็ไม่หวั่นมุทำหน้าที่นายกฯ อย่างเต็มที่ จนได้รับฉายา "นางสิงห์" ในที่สุด และเป็นนายกรัฐมนตรีที่ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุด นับตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 19 เป็นต้นมา
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก