เรื่องนี้เกิดขึ้นมาประมาณปีค.ศ.2005 ขอเล่าแบบคร่าวๆก็แล้วกันนะครับ
ชนวนเหตุในการชุมนุมประท้วงโหดครั้งนี้เกิดจาก
พื้นที่เกาะแห่งหนึ่งที่ชื่อว่า Liancourt Rocks?มีชื่อตามภาษาเกาหลีว่า Dokdoหรือชื่อตามภาษาญี่ปุ่น
อีกทีนึงว่า Takeshima ซึ่งตั้งอยู่ในน่านน้ำญี่ปุ่น มีพื้นที่ 187,450 ตร.ม.
ซึ่งมีคนกลุ่มน้อยของเกาหลีใต้อาศัยอยู่บนเกาะแห่งนี้ ด้วยการอ้างสิทธิของญี่ปุ่นที่ว่าเกาะแห่งนี้
อยู่ในน่านน้ำของประเทศญี่ปุ่น จึงทำให้เกิดความไม่พอใจระหว่างประชาชนเกาหลีใต้
และทางรัฐบาลญี่ปุ่นขึ้น (น่าจะเป็นช่วงที่นายโคะอิซุมิ จุนอิจิโรดำรงตำแหน่งอยู่)
ด้วยความโกรธแค้นและเกรี้ยวกราดของกลุ่มชาตินิยมเกาหลีใต้อย่างฮาร์ดคอร์
(น่าจะบวกกับบาดแผลจากอดีตครั้งเมื่อตอนสงครามโลกครั้งที่2) ทำให้เกิดการประท้วงกันอย่าง
นองเลือด การนองเลือดครั้งนี้มิใช่เกิดจากการปะทะกันของสองฝ่าย แต่เป็นเพราะ
การประท้วงของชาวเกาหลีใต้ หน้าสถานฑูตญี่ปุ่นในกรุงโซล
มีการทำลายสัญลักษณ์ที่เป็นตัวแทนของประเทศญี่ปุ่น
นั่นก็คือ ไก่ฟ้ามรกตพันธุ์ญี่ปุ่น ซึ่งมันอาศัยอยู่ในบริเวณเกาะแห่งนี้ รวมทั้งสุนัขพันธุ์ญี่ปุ่น
สินค้าปศุสัตว์ และที่โหดร้ายไปกว่านั้นคือ การเผาตัวเอง การคว้านท้อง
แม่และเด็กต่างพากันเฉือนนิ้วมือของตัวเอง เพื่อเป็นการประท้วงด้วย
?
บทเรียนนองเลือดที่เกาหลีใต้เองต้องเจ็บตัว แต่ที่เหนือสิ่งอื่นใดคือบทเรียนในอดีต
ครั้งที่กองทัพลูกพระอาทิตย์ยังเรืองอำนาจ ที่ไล่เข่นฆ่าประเทศในภูมิภาค แต่สุดท้าย
ก็ต้องจบลงด้วยความปราชัย ทิ้งรอยแผลจะความเจ็บช้ำให้กับประชาชน
ผู้บริสุทธิ์ของประเทศตัวเอง คงเป็นบาดแผลที่หยั่งลึกไม่น้อยไปกว่า ประเทศอื่นๆ
ที่โดนผู้นำบ้าสงครามของตนเองทำไว้ เชื่อได้เลยว่าคนญี่ปุ่นเอง ก็ไม่อยากให้
เหตุการณ์ที่เลวร้ายในครั้งนั้นเกิดขึ้น หากแต่เราควรจดจำเหตุการณ์ในครั้งนั้น
เพื่อเป็นการเรียนรู้ เตือนสติ และแก้ไข ก่อนที่จะทำอะไรพลาดไป
มิใช่จดจำฝังแค้น รอการชำระสะสาง เพราะหากถือคิดเป็นเช่นนั้น
มันก็จะเป็นแผลในใจ กัดกิน เกิดความทุกข์ ของผู้ที่ยึดติดกับมันไม่มีวันจบสิ้น