"ฟ้าใหม่แล้วละนะน้อง สงกรานต์เราร้องทำนองเพลงโทน
โน่นไงจ๊ะโทนป๊ะโท่นโทน ทั้งโยกทั้งโยนเย้ายวนยั่วใจ..."
คุ้นๆกันมั้ยล่ะครับกับเพลงนี้ ช่วงสงกรานต์ในทุกๆปี...
หลายคนก็คงจะออกไปเล่นน้ำกันมันส์ แต่สำหรับผมบอกตามตรงเรตติ้งหมดไปนานและ
ปีนี้ก็เลยออกจากกรุงเทพฯ หนีความอับอายของตัวเองไปเยือนแดนดินวัฒนธรรมมอญที่สังขละบุรี
งานนี้ก็ขอขอบพระคุณการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภูมิภาคภาคกลาง และบริษัท บิ๊กแมพ เน็ตเวิร์ค จำกัด
ที่ทำให้ผมกลับมาโดนสาดน้ำอีกครั้ง แม้จะไกลจากกรุงเทพฯมากก็ตาม อิอิ
เรามาลองดูกันสำหรับใครที่ไม่เคยไปเยือนสังขละฯมาก่อนเลย
ก็ต้องบอกว่าอำเภอนี้อยู่ในจังหวัดกาญ-นะ-จ๊ะ บุรี (จะเอาขำไปไหน 55) กาญจนบุรี
การเดินทางก็ไปง่ายๆเลยครับ ไปตามถนนเพชรเกษม ผ่านจ.นครปฐม ก็จะพบสะพานเพื่อข้ามไปยัง กาญจนบุรี
จากนั้นมุ่งหน้าสู่สี่แยกแก่งเสี้ยน แล้วเราก็จะเห็นป้ายบอกไปยัง อ.ทองผาภูมิ จากนั้นก็ไม่ยากและครับ
หลังจากนั่งรถกันมานานประมาณ 4-5 ชั่วโมงเราก็จะเจอกับอำเภอสังขละบุรีกันล่ะ
โอ้ยยยย...เสียงร้องของเพื่อนร่วมเดินทางโหยหวนออกมา สาเหตุเพราะทางที่คดเคี้ยวนั่นแหละ
ใครก็ตามที่เวียนหัวได้ง่ายบอกไว้ก่อนนะครับว่า "ยืดอก พกถุง" ไปด้วยนะไม่ต้องอาย
หรือไม่ก็กินยาแก้เมารถซะก่อน หรือถ้าลืมยาและไม่อยากพกถุง สะกิดเพื่อนข้างๆให้เอาไม้มาตีให้หลับไปเลย
ตื่นมาจะได้สดชื่น ซาบซ่า พร้อมตะลุยได้ต่อ อิอิ
และกิจกรรมแรกของเราก็คือ นั่งแพไปชมวัดจมน้ำหรือวัดวังก์วิเวการามนั่นเอง
สายลมเย็นๆปะทะหน้า คลื่นน้ำปะทะกับเท้าที่เปล่าเปลือย มีความสุขเสียนี่กระไร
ชมวิถีชีวิตสองฝั่งน้ำได้ซักพักเราก็มาถึงจุดหมายกันเรียบร้อย
ใช้เวลาแชะรูปกันพอสมควร ก็ต้องรีบกลับครับ เพราะพายุกำลังก่อตัวทะมึนมาแต่ไกล
กลับเข้าที่พัก เก็บข้าวของเตรียมแรงไว้ตะลุยในวันพรุ่งนี้กันดีกว่าเนอะ
ทะมึนมาแล้ว
ถึงฝั่งพร้อมบรรยากาศแบบนี้
ตื่นเช้าพร้อมอากาศที่สดใส กับกลิ่นอายที่ไม่เจอในกรุงเทพฯ
หลังจากทานข้าวกันเรียบร้อย ก่อนจะก็เตรียมตัวไปลุยสำรวจแหล่งท่องเที่ยวใหม่ นั่นก็คือ "สะเน่พ่อง"
แน่นอนว่าเป็นครั้งแรกของผมเหมือนกัน การเดินทางสำรวจครั้งนี้ต้องรถ 4WD เท่านั้นเลย
การเข้าไปครั้งนี้เพื่อไปเยี่ยมชมวิถีชีวิตที่เรียบง่าย ของชาวกะเหรี่ยง รวมถึงเข้าไปสักการะพระพุทธรัตนสังขละบุรีศรีสุวรรณ (พระแก้ว) ที่รัชกาลที่ 3 ทรงประทานให้กับเจ้าเมืองสังขละ ขอบอกว่าพระแก้วองค์นี้เป็นพระพี่พระน้องกับพระแก้วมรกตเลยทีเดียว
ล่องผ่าลำธารกันไป
พระพุทธรัตนสังขละบุรีศรีสุวรรณ
น้องๆชาวกะเหรี่ยงที่สะเน่พ่อง
ขากลับออกมาหัวแดงกันเป็นแถวๆ เพราะใช้เวลากว่าชั่วโมงกว่าๆตะลุยดงฝุ่น
กลับถึงที่พักก็เย็นๆ อาจน้ำอาบท่ากันเรียบร้อย ก็ออกไปเดินเล่นแถวสะพานมอญกันต่อ
ได้รูปชีวิตประจำวันของเด็กๆที่นั่น ก็คือการกระโดดน้ำบนสะพานไม้ที่ผมว่ามันสูงงงงงง มว๊ากกกก
มองดูนาฬิกา ใกล้จะ 4 โมงและ งานสงกรานต์ที่เจดีย์พุทธคยาใกล้เข้ามา สังเกตได้จากการแต่งตัวของชาวมอญครับ
สวยงามมากๆ แล้วทั้งหมดก็เดินตรงไปยังเจดีย์เพื่อสรงน้ำพระตามประเพณีกัน
มาถึง ตกใจนึดหน่อย งงๆว่าทำไมต้องมีไม้ไผ่เรียงตัวกันยาวและเยอะขนาดนี้ ฟังไปฟังมาก็ถึงบางอ้อ
เนื่องจากคนที่มาร่วมงานเยอะมากเค้าก็เลยทำรางไม้ไผ่เพื่อให้ทุกคนสรงน้ำพระได้อย่างทั่วถึงนั่นเอง
รอยยิ้มอิ่มบุญ
เมื่อถึงเวลาก็จะอัญเชิญพระพุทธรูปและพระภิกษุมาร่วมสรงน้ำ โดยอยู่หลังฉากที่เป็นดอกไม้
แต่ที่เด็ดก็คือวิถีการที่เชิญพระภิกษุจากวัดก็คือ การที่ผู้คนที่มีจิตศรัทธา จะนอนเรียงกันเพื่อเป็นทางเดินให้กับภิกษุ
หลังจากสรงน้ำเสร็จก็จะอุ้มพระภิกษุไปยังวัดเลย เป็นพิถีที่การที่ไม่เคยเห็นมาก่อนจริงๆ
จากนั้นก็ถึงเวลาสาดดดดดด กันแว้ววววววว
ด้วยความเป็นมืออาชีพ ผมรีบเก็บกล้องทันที กลัวเปียก เลยได้มาฝากกันนิดหน่อยนะคร๊าบบบบบ อิอิ
เล่นกันแล้วววว
รุ่งขึ้นก็แวบไปร่วมขบวนพิธียกฉัตร ก่อเจดีย์ทราย ซึ่งเป็นพิธีกรรมทางศาสนาอีกวันที่ผมว่าหาดูได้ยากนะ
กับความศรัทธาที่คนในพื้นที่มีให้กับประเพณีแบบนี้
ครื้นเครงกันตลอดทาง
พิธียกฉัตร
ผมว่าปีหน้าใครมีโอกาสก็ลองมา "ยลเสน่ห์สงกรานต์มอญ" กันนะรับรองไม่ผิดหวังจริงๆ
ท้ายสุดก็ต้องขอขอบคุณการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยภูมิภาค ภาคกลาง
และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานกาญจนบุรี ด้วยนะครับ สำหรับทริปดีๆแบบนี้