เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบโดย JUNG YEON-JE / AFP , navaltoday.com
เกาหลีใต้ส่งเรือพิฆาตแอกิส 2 ลำ พร้อมเรดาร์ SPY-1 ประจำการที่แนวชายฝั่งตะวันออกและตะวันตกของคาดสมุทรเกาหลี พร้อมรับมือการยิงขีปนาวุธจากเกาหลีเหนือ
วานนี้ (5 เมษายน) สำนักข่าวยอนฮัป ของเกาหลีใต้ รายงานจากกรุงโซลว่า กองทัพเรือของเกาหลีใต้ได้ส่งเรือพิฆาตแอกิส ขนาด 7,600 ตัน 2 ลำ พร้อมเรดาร์ SPY-1 ซึ่งสามารถติดตามเป้าหมายนับร้อยได้ในระยะ 1,000 กิโลเมตร ไปประจำการยังชายฝั่งตะวันออกและตะวันตกของคาบสมุทรเกาหลี เพื่อติดตามการปล่อยขีปนาวุธจากเปียงยางแล้ว หลังเกาหลีเหนือเคลื่อนกำลังขีปนาวุธพิสัยกลางเข้ามาใกล้ชายฝั่งตะวันออก ซึ่งหากเกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธ เรดาร์ SPY-1 ก็จะสามารถติดตามวิถีของมันได้ทันที
นอกจากนี้ กองทัพของเกาหลีใต้ยังคงดำเนินการป้องกันขีปนาวุธจากภาคพื้นดินด้วยระบบเรดาร์ Green Pine หลังจากที่มีคำเตือนให้มีการเตรียมพร้อมด้านการทหารเพื่อรับมือการปล่อยจรวดของเกาหลีเหนือ
ขณะที่ เมื่อวันที่ 4 เมษายนที่ผ่านมา รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม คิมกวานจิน ยังไม่ยืนยันอย่างเป็นทางการว่าขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ เป็นขีปนาวุธพิสัยกลางหรือไม่ แต่หน่วยสืบราชการลับได้วิเคราะห์จากภาพที่เห็นผ่านดาวเทียมแล้วคาดว่าน่าจะเป็นขีปนาวุธนำวิถีพิสัยกลางที่เรียกว่ามูซูดาน ซึ่งมีพิสัยยิงไกล 3,000 - 4,000 กิโลเมตร และสามารถโจมตีฐานทัพสหรัฐซึ่งตั้งอยู่บนเกาะกวมในมหาสมุทรแปซิฟิกได้
ด้าน คิมมินซอก โฆษกของกระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ เผยว่า "เราได้จับตามองการเตรียมขีปนาวุธของเกาหลีเหนืออย่างใกล้ชิด แต่ยังไม่ทราบชัดถึงเป้าหมายและเวลาในการปล่อยขีปนาวุธจากเกาหลีเหนือ แต่เราจะใช้กำลังทหารของเราตอบโต้กลับอย่างแน่นนอนหากเกาหลีเหนือโจมตีใส่เรา"
ทั้งนี้ มีผู้เล็งเห็นว่า มีโอกาสสูงที่เปียงยางอาจจะปล่อยขีปนาวุธในช่วงกลางเดือนเมษายนนี้ เพื่อเฉลิมฉลองวันเกิดของคิมอิลซังซึ่งเป็นปู่ของคิมจองอึน ในวันที่ 15 เมษายนนี้ และสำหรับการเคลื่อนกำลังขีปนาวุธของเกาหลีเหนือในครั้งนี้ ก็ได้กระตุ้นในเพนตากอนของสหรัฐฯ ยกระดับระบบป้องกันขีปนาวุธด้วยเรดาร์ ในเกาะกวมให้สูงขึ้นแล้ว
ขณะที่กระทรวงกลาโหมของเกาหลีใต้ได้ส่งหน่วยเข้าไปตรวจสอบที่แนวชายแดนบนเกาะยอนปยอง เพื่อจับตามองผู้อพยพชาวเกาหลีเหนือที่ข้ามฝั่งมาท่ามกลางความตึงเครียดของชายแดนฝั่งทะเลตะวันตก ซึ่งการที่พวกเขาสามารถเล็ดลอดจากการตรวจจับของเรดาร์มาได้นั้นก็ได้ก่อให้เกิดความกังวลด้านความปลอดภัยของชายแดนในยามนี้ แต่การตรวจสอบนั้นคืบหน้าไปอย่างมาก และหลังจากนี้ทางกระทรวงกลาโหมของเกาหลีใต้ก็จะนำข้อมูลมาเสริมสร้างมาตรการรักษาความปลอดภัยที่ชายแดนต่อไป