จอดไว้กลางแดด ร้อน-ขาดอากาศ ทำให้สมองบวม แม่โฮ-แจ้งจับครู
แม่ด.ญ.วัย 3 ขวบนัก เรียนอนุบาลร้องปวีณา ก่อนแจ้งความดำเนินคดีครูพี่เลี้ยงและคนขับรถที่ลืมลูก ขังไว้ในรถนานถึง 4 ชั่วโมง แถมนำไปจอดกลางแดด จนลูกขาดอากาศมีอาการสมองบวม กลายเป็นเจ้าหญิงนิทรานอนในห้องไอซียู ตร.รุดสอบครูพี่เลี้ยงอ้างเห็นเด็กลงจากรถแล้ว คาดลืมกระเป๋ากลับขึ้นมาหยิบทำให้ครูไม่เห็นปิดประตูไปก่อน ขณะที่คนขับอ้างนึกว่าเด็กลงไปหมดแล้ว จึงนำรถมาจอดที่ลานโล่งกลางแดดเปรี้ยงแล้วล็อกประตู จนช่วงบ่ายใกล้เลิกเรียนมาที่รถเห็นเด็กนอนหมดสติ รีบพาส่งร.พ. แต่อาการเข้าขั้นโคม่าแล้ว ผอ.โรงเรียนรับภาระค่าใช้จ่ายตกวันละแสน ตร.แจ้งข้อหาครูพี่เลี้ยงและคนขับ ประมาททำให้ผู้อื่นเจ็บสาหัส
ครูอนุบาลลืมเด็กทิ้งไว้ในรถจนอาการโคม่า เมื่อวันที่ 4 เม.ย. นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณา หงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เดินทางมาเยี่ยมดูอาการของด.ญ.มนัสนันท์ ทองภู่ หรือ น้องเอย อายุ 3 ขวบ นักเรียนชั้นเตรียมอนุบาล 1 โรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่งใน จ.สมุทรปราการ ที่ป่วยสมองบวมเพราะขาดน้ำและอากาศหายใจ สาเหตุมาจากถูกขังไว้ในรถตู้รับส่งนักเรียนทั้งวัน รักษาตัวในห้องไอซียู ร.พ.กรุงเทพ โดยนางรัตนา นครโสภา อายุ 34 ปี มารดาเข้าร้องทุกข์ให้ช่วยเหลือ
นางรัตนาเล่ารายละเอียดว่าลูกสาวเรียนอยู่ชั้นเตรียมอนุบาล 1 มีรถตู้โรงเรียนมารับส่ง กระทั่งเมื่อวันที่ 3 เม.ย. ที่ผ่านมา ลูกขึ้นรถตู้โรงเรียนตามปกติในตอนเช้า และต้องมาส่งช่วงบ่ายสามโมง แต่เลยเวลาไปกว่า 2 ชั่วโมง ทางโรงเรียนติดต่อว่าลูกหมดสติในรถพาส่งร.พ.เมืองสมุทรปราการ หมอบอกว่าน้องเอยสมองบวม เพราะขาดออกซิเจน และไม่ได้สติต้องใช้เครื่องช่วยหายใจอยู่ในห้องไอซียู เมื่อสอบถามครูที่ดูแลว่าเกิดอะไรขึ้น ทางครูที่โรงเรียนยอมรับว่าลืมเด็กไว้บนรถ และคนขับนำไปจอดกลางแดดอยู่หลายชั่วโมง ก่อนที่จะมาพบในสภาพหมดสติแล้ว ตอนนี้มีค่าใช้จ่ายถึงวันละ 1 แสนบาท จึงเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.บางปู จ.สมุทรปราการ ก่อนเข้าร้องทุกข์กับนางปวีณาอีกครั้ง
ด้านนาวาอากาศเอก(พิเศษ) นพ.ไพศาล จันทร์พิทักษ์ ผอ.ร.พ.กรุงเทพ กล่าวว่า รับตัวเด็กจากร.พ.เมืองสมุทรปราการ นำเข้ารักษาตัวภายในห้องไอซียู สำหรับรักษาเด็กโดยเฉพาะ มีแพทย์หญิงเสาวนีย์ ชัยศุภรัศมีกุล กุมารแพทย์ด้านทางเดินหายใจและเวชบำบัดวิกฤตเด็ก เป็นผู้ดูแลอย่างใกล้ชิด สำหรับเรื่องค่ารักษา ทางผอ.โรงเรียนที่เกิดเหตุได้แจ้งว่าจะดูแลในเรื่องดังกล่าว
พญ.เสาวนีย์กล่าวว่า น้องเอยมีอาการขาดน้ำ จึงได้ให้น้ำเกลือ ต่อมาพบว่ามีอาการชักเป็นระยะ จึงนำตัวเข้าเอกซเรย์สมอง พบว่ามีอาการสมองบวม จากการขาดออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงสมอง แพทย์ให้ยากันชักและยาลดบวม นอกจากนี้จากการตรวจเลือดพบว่ามีภาวะเลือดเป็นกรด ซึ่งเป็นผลมาจากสมองขาดออกซิเจน อาการในลักษณะนี้ ต้องดูอาการราว 3 วัน ทั้งนี้ต้องรอดูว่าหลังจากที่สมองหายบวมแล้ว จะมีความเสียหายมากน้อยแค่ไหนและจะกลับมาเหมือนเดิมหรือไม่ ตอนนี้ยังไม่สามารถบอกได้
นางปวีณากล่าวว่า ในตอนนี้ต้องให้ความสำคัญกับการช่วยชีวิตเด็ก เป็นเรื่องแรก ในส่วนของคดีความนั้น ประสานไปทางผกก.สภ.บางปู ที่ได้แจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว พร้อมกันนี้จะนำนางรัตนาเข้าพบ รมว.ศึกษาธิการ เพื่อขอคำปรึกษา เป็นแนวทางแก้ปัญหา การจัดระเบียบการรับส่งนักเรียน ให้มีความรอบคอบมากยิ่งขึ้น โดยอาจจะมีการติดตั้งกล้องวงจรปิด ในโรงเรียนเพิ่มเติมเพื่อความปลอดภัยของเด็ก
วันเดียวกันพ.ต.อ.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผกก.สภ.บางปู นำพนักงานสอบสวนเดินทางไปดูที่เกิดเหตุและสอบปากคำน.ส.ดาวรอง ศรีสมุ้ง อายุ 37 ปี ครูที่ดูแลเด็ก และนายสันติภาพ หวานใจ ครูสอนคอมพิวเตอร์ซึ่งทำหน้าที่ขับรถตู้คันเกิดเหตุ โดยน.ส.ดาวเรืองให้การว่ารับเด็กทั้งหมด 13 คน จากบ้านมาถึงโรงเรียนเวลาประมาณ 09.45 น. จากนั้นให้เด็กที่นั่งแถวหลังลงจากรถก่อน ระหว่างนั้นคาดว่าน้องเอย ลืมกระเป๋าจึงกลับขึ้นรถไปหยิบ ขณะที่ตนกำลังดูแลเด็กอีกคนที่มีอาการป่วยอาเจียน เมื่อเห็นเด็กๆ ลงจากรถหมดก็ปิดประตูแล้วนายสันติภาพขับรถออกไปจอดด้านนอกโรงเรียน ซึ่งเป็นลานกลางแจ้ง
ครูพี่เลี้ยงให้การอีกว่า กระทั่งเวลาประมาณ 13.30 น. นายสันติภาพออกไปนำรถเพื่อมารับเด็กส่งบ้าน พบน้องเอย นอนหมดสติอยู่ในสภาพตัวเขียว ลมหายใจรวยริน จึงนำส่งร.พ.เมืองสมุทรฯ ก่อนแจ้งผู้ปกครองและย้ายเด็กมาที่ร.พ.กรุงเทพ
เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหาน.ส.ดาวรอง ร่วมกันกระทำการโดยประมาท ทำให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส ส่วนนายสันติภาพยังไม่เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน แต่ติดต่อว่าจะเข้าพบเพื่อให้การและรับทราบข้อกล่าวหาในภายหลัง