วันที่ 3 เม.ย. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" ได้รับแจ้งว่า บริเวณข้างสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีนางเวียง บุญมี หญิงสุรินทร์วัย 59 ปี ใบหน้าพิการลักษณะคล้ายเนื้องอก แลดูคล้ายเทียนโดนไฟลนไหลย้อยห้อยยานถึงหน้าท้อง ต่อสู้ชีวิตด้วยการยึดอาชีพขายการบูรหอมห่อละ 10 บาท อยู่บนสะพานลอยคนข้ามแยกอังรีดูนังส์ ถนนพระราม 1 ปทุมวัน กทม. ทางเดินเชื่อมต่อสกายวอร์คด้านสำนักงานตำรวจแห่งชาติไปฝั่งสยามสแควร์ จึงไปตรวจสอบ
ทั้งนี้ นางเวียง ให้สัมภาษณ์ว่า ยึดอาชีพจำหน่ายการบูรจุดนี้มานานกว่า 1 ปี สำหรับอาการที่เกิดขึ้นกับใบหน้าเคยไปรักษาที่โรงพยาบาลศิริราชมาเมื่อ 10 กว่าปีก่อน แต่หมอบอกว่ารักษาไม่ได้
"เป็นมาตั้งแต่เกิด เรียกอะไรก็ไม่รู้ ตอนเด็กก็เป็นแค่นิดเดียว พอแก่ตัวมาก็โตขึ้นมาตามตัว ใหญ่ขึ้นมาเรื่อยๆ ทุกวันนี้พักอาศัยอยู่ย่านเจริญนคร 14 ฝั่งธนฯ มาอาศัยพื้นที่ตรงนี้ขายการบูรหอมทุกวัน ตั้งแต่ 7 โมงเช้าไปจนถึงเย็น มีรายได้พอกินไปวันๆ ความรู้สึกก็ธรรมดาเฉยๆ ชินแล้ว" หญิงชรา สู้ชีวิต กล่าว
นางเวียง กล่าวด้วยว่า ตนมองไม่เห็น เพราะไม่มีลูกนัยตา เวลาขายของใช้วิธีวางการบูรเอาไว้ตรงข้างหน้า เวลาคนเขาจะซื้อก็ให้หยิบเอาเอง เพราะตนมองไม่เห็น ให้สตางค์มาก็เก็บไว้ ส่วนจะหยิบการบูรหรือไม่ก็แล้วแต่ประชาชนที่เดินผ่านไปมา
ผู้สื่อข่าวถามว่า น้อยในชะตาชีวิตหรือไม่ นางเวียงตอบกลับอย่างอารมณ์ดีว่า "โอ๊ย จะไปน้อยใจอะไร แก่จนป่านนี้แล้ว"
จากการสอบถามนางเวียง ทราบว่า มีน้องชาย 4 คน คนอื่นๆ ไม่มีอาการเหมือนตนสักคน หน้าตาเป็นปกติดูดีหมดทุกคน มีหลานอีก 4 คน แต่ก็ไม่เป็นเหมือนตน
เมื่อถามถึงครอบครัว นางเวียนถามว่า "แฟนเหรอ ? ไม่มีหรอก ใครเขาจะมาเอาเราล่ะ" ก่อนหัวเราะอย่างอารมณ์ดี
และว่า "วันก่อนมีคนมาพูดคุยก็มาถามตนแบบเดียวกัน แต่ไม่เคยมีใครยื่นมือมาช่วยเหลือจริงๆ จังๆ สักครั้ง ทุกวันนี้มีเงินช่วยจากกรมประชาสงเคราะห์ที่ได้รับอยู่เดือนละ 500 บาทเหมือนเดิม เจ้าหน้าทีี่บอกว่า 500 ก็พอแล้ว แต่เรามันจะไปพอใช้อย่างไร ไหนจะค่าน้ำค่าไฟ"
นางเวียง เผยว่า สำหรับการบูรที่นำมาขายเลี้ยงชีพนั้น หลานสาวเป็นคนทำ แล้วตนเอามาจำหน่าย ลูกค้าบางคนให้สตางค์ก็จะหยิบไปบ้าง ไม่หยิบบ้างก็แล้วแต่ ทำให้มีรายได้พอไปช่วยค่าน้ำค่าไฟได้