เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบจาก KNS / KCNA / AFP
กองทัพอากาศ เตรียมเครื่องบินแอร์บัส - ซี 130 อพยพคนไทยในเกาหลีใต้ ขณะที่เกาหลีเหนือ ประกาศเตรียมเดินเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ยองบยอนอีกครั้ง
จากเหตุความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ หลังจากที่เกาหลีเหนือได้ออกมาประกาสงครามกับเกาหลีใต้ ทำให้ในวันนี้ (2 เมษายน) พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) ได้ออกมาเผยว่า กองทัพอากาศได้เตรียมเครื่องบินลำเลียงแบบซี 130 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินแอร์บัส 310 และเตรียมความพร้อมด้านท่าอากาศยานแล้ว เพื่อรองรับการลำเลียงคนไทยที่อยู่ในเกาหลีใต้กลับประเทศหากเกิดเหตุการณ์ขึ้น โดยจะสามารถดำเนินการทั้งหมดได้ภายใน 48 ชั่วโมง หลังมีการสั่งการ
นอกจากนี้ พล.อ.อ.ประจิน ยังเผยว่า กรณีที่เกาหลีเหนือประกาศสงครามกับเกาหลีใต้นั้นเป็นเรื่องสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อเสาหลักด้านความมั่นคง และอาจกระทบต่อการเมือง เศรษฐกิจของกลุ่มประเทศอาเซียน แต่อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนอย่าเพิ่งตื่นตระหนกมากนัก ทางด้านหน่วยงานด้านความมั่นคงและฝ่ายบริหารเองก็ได้มอบหมายให้หน่วยที่รับผิดชอบดูแลอย่างใกล้ชิด
ขณะเดียวกัน สำนักข่าวเอพี รายงานว่า เกาหลีเหนือได้ประกาศเตรียมเดินเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ยองบยอนอีกครั้ง ท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มมากขึ้นนับตั้งแต่เกาหลีเหนือประกาศขู่คุกคามสหรัฐอเมริกาและเกาหลีใต้
โดยโฆษกจากหน่วยงานด้านปรมาณูของเกาหลีเหนือ เผยว่า เกาหลีเหนือจะเริ่มเดินเครื่องปฏิกรณ์แกรไฟต์ขนาด 5 เมกกะวัตต์ ซึ่งเป็นแหล่งผลิตพลูโตเนียม อันเป็นเชื้อเพลิงที่พบได้มากสำหรับนิวเคลียร์อีกครั้ง หลังจากที่มันถูกปิดไปตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2007 ตามข้อตกลง 6 ฝ่าย ที่กำหนดให้เกาหลีเหนือต้องปลดอาวุธเพื่อแลกกับความช่วยเหลือ ซึ่งรวมถึงการทำลายหอหล่อเย็น
รายงานระบุว่า เดิมทีเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์นี้ถูกใช้เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า ซึ่งจะต้องใช้แท่งเชื้อเพลิงพลูโตเนียมถึง 8,000 แท่งในการเดินเครื่อง แต่หลังจากที่มีการปรับปรุงใหม่นั้น มันก็สามารถผลิตอาวุธนิวเคลียร์ได้โดยใช้พลูโตเนียมเพียง 7 กิโลกรัมเท่านั้น
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้เปียงยางได้ลอบทดสอบนิวเคลียร์ครั้งที่ 3 ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เป็นผลให้องค์การสหประชาชาติลงโทษด้วยการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ ก่อให้เกิดความโกรธแค้นแก่เกาหลีเหนือและนำไปสู่การข่มขู่คุกคามของเกาหลีเหนือต่อสหรัฐฯ จากนั้นเหตุการณ์ความตึงเครียดก็ทวีหนักขึ้นเมื่อสหรัฐฯ ได้นำเครื่องบินทิ้งระเบิดที่มีสมรรถนะในการบรรทุกอาวุธนิวเคลียร์ ทั้งแบบ บี-52 และ บี-2 มาบินลาดตระเวนเหนือน่านฟ้าเกาหลีใต้ อันเป็น 1 ในแผนการซ้อมรบร่วมระหว่างเกาหลีใต้และสหรัฐฯ ทำให้รัฐบาลเกาหลีเหนือออกมาขู่โจมตีสหรัฐฯ และประกาศภาวะสงครามกับเกาหลีใต้ในที่สุด