8 คนร้ายอุกอาจ! บุกอุ้มนาวิกชุดวิสามัญ 16 ศพ คาดล้างแค้น
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 2 เม.ย.56 น.ส.ดารีซะ ซอพี อายุ 22 ปี พร้อมด้วย นายอายิ โตะลู อายุ 56 ปี และ นางคอลีเยาะ โตะลู อายุ 55 ปี ได้เดินทางเข้าแจ้งความต่อ ร.ต.ท.รัชสิทธิ์ ลือลั่น ร้อยเวร สภ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ว่า พลฯมะอีลา โตะลู อายุ 24 ปี สังกัดกองพันทหารราบที่ 7 กรมทหารราบที่ 3 กองพลนาวิกโยธินภาคใต้ ค่ายจุฬาภรณ์ ซึ่งถูกส่งตัวไปปฏิบัติหน้าที่ที่กองร้อยปืนเล็กที่ 2 ชุดเฉพาะกิจนราธิวาส 32 ซึ่งตั้งอยู่บ้านยือลอ ม.3 ต.บาเร๊ะใต้ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ที่คนร้ายได้บุกโจมตีฐานเมื่อวันที่ 13 ก.พ.56 ที่ผ่านมา และถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญเสียชีวิต 16 ราย ถูกกลุ่มคนร้ายจำนวน 8 คน แต่งกายเลียนแบบเจ้าหน้าที่ทหารมีอาวุธปืนครบมือ บุกจี้ตัวพลฯมะอีลา หายออกจากบ้านไปในช่วงคืนที่ผ่านมา
จากการสอบสวน น.ส.ดารีซะ ภรรยาของพลฯมะอีลา ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ในช่วงเวลา 19.00 น. ของคืนที่ผ่านมา ขณะที่ตนขี่รถ จยย.ออกไปซื้ออาหารในหมู่บ้าน สามีซึ่งลาพักราชการกลับมาบ้าน 6 วัน ได้อยู่กับนายยาการียา ซอพี อายุ 20 ปี ซึ่งเป็นน้องชายตามลำพัง 2 คน ทันใดนั้นได้มีคนร้าย จำนวน 8 คน แต่งกายเลียนแบบเจ้าหน้าที่ทหารมีอาวุธปืนครบมือขับรถยนต์กระบะไม่ทราบสียี่ห้อและแผ่นป้ายทะเบียนเป็นพาหนะ มาจอดหน้าบ้านพัก โดยคนร้ายจำนวน 2 คน ยืนคุมเชิงอยู่ที่หน้าบ้าน ส่วนอีก 6 คน ได้เดินตรงเข้าไปในบ้านพัก 1 ในนั้นได้ใช้อาวุธปืนเอ็ม.16 จี้ที่ศรีษะของนายยาการียาซึ่งเป็นน้องชาย แล้วพูดเป็นภาษายาวีว่าบ้านนี้ใครเป็นทหารแล้วคนร้ายได้เดินไปใช้เชือกที่เตรียมมามัดมือพลฯมะอีลา ก่อนใช้ปืนจี้คุมตัวขึ้นรถยนต์กระบะหายไปโดยที่คนร้ายไม่ได้ทำร้ายนายยาการียา ซึ่งเป็นน้องชายแต่อย่างใด
นอกจากนี้ น.ส.ดารียะ กล่าวว่า ปกติสามีไม่เคยมีเรื่องขัดแย้งและบางหมางกับผู้ใดในพื้นที่ เมื่อลาพักจากราชการก็จะกลับมาอยู่บ้านโดยที่ไม่ออกไปไหนมาไหนเกรงจะตกเป็นเป้าถูกคนร้ายลอบดักสังหาร และสามีได้พูดให้ฟังบ่อยครั้งว่าทหารทุกนายที่ปฏิบัติหน้าที่ที่กองร้อยปืนเล็กที่ 2 บ้านยือลอ ต้องระมัดระวังเรื่องความปลอดภัย เนื่องจากมีกระแสข่าวหลังจากเจ้าหน้าที่วิสามัญคนร้ายเสียชีวิต 16 รายว่า กลุ่มคนร้ายจะทำทุกวิถีทางเพื่อเอาคืนชีวิตเจ้าหน้าที่เป็น 2 เท่า เพื่อแก้แค้นให้กลับสมาชิกในกลุ่มที่ถูกวิสามัญ
อย่างไรก็ตามหลังจากรับแจ้งความแล้วเสร็จ ร.ต.ท.รัชสิทธิ์ พนักงานสอบสวนและเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะเดินทางไปยังบ้านเกิดเหตุ เพื่อตรวจสอบหาหลักฐานของกลุ่มคนร้ายอย่างละเอียดอีกครั้งในการรวบรวมเป็นประจักษ์พยานหลักฐาน เพื่อนำไปสู่การสืบสวนสอบสวนหาข้อเท็จจริงและติดตามกลุ่มคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป