ต้องเรียกว่ากลายเป็นปรากฎการณ์ใหม่ของวงการภาพยนตร์ไทยเลยก็ว่าได้ เมื่อค่ายอารมณ์ดี"จีทีเอช"หยิบภาพยนตร์ในตำนานมาปัดฝุ่น แล้วร้อยเรียงเรื่องราวใหม่ให้กลายเป็นภาพยนตร์ขำ ฮา ปนเศร้าและน่ากลัว อย่าง "พี่มาก พระโขนง" ที่ได้ผู้กำกับมือดีอย่าง "โต้ง บรรจง ปิสัญธนะกูล" ที่เจ้าตัวเลือกให้พระเอกหน้าฝรั่งอย่าง"มาริโอ้ เมาเร่อ" มารับบทพี่มาก และนางเอกหน้าคมอย่าง "ใหม่ ดาวิกา โฮร์เน่"รับบทนางนากไป
ก็ต้องบอกเลยว่า แรกเห็นใครๆ ก็คงตั้งคำถามด้วยความสงสัยว่า "มันจะเวิร์คแน่หรือ??"
แต่มานาทีนี้ คงมีคำตอบที่ชัดเจนให้กับคำถามนี้แล้วว่า นอกจากผู้กำกับและทีมงานตลอดจนถึงทีมเขียนบท ทุกคนล้วน"เอาอยู่" ด้วยการันตีตัวเลขรายได้ในวันแรก 28 มีนาคมของการเปิดตัวหนังที่ 21.20 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นสถิติการเปิดตัวสูงสุดของภาพยนตร์ไทยในวันแรก ส่วนรายได้ในวันที่สอง เมื่อวันที่ 29 มีนาคม อยู่ที่ 23.50 ล้านบาท วันที่สาม วันที่ 30 มีนาคม รายได้อยู่ที่ 28.50 ล้านบาท รวม 3 วัน รายได้อยู่ที่ 73.27 ล้านบาท และคาดว่ารวม 4 วัน น่าจะมีรายได้รวม 100 ล้านบาท นับเป็นการทำลายสถิติภาพยนตร์ไทยในทุกๆ เรื่องที่ผ่านมา รวมถึงภาพยนตร์"นางนาก"ที่เคยทำสถิติไว้ที่ 11.40 ล้านบาทในวันแรก และปิดตัวด้วยตัวเลขที่ 150 ล้านบาท แถมยังเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกที่ต้องกางเก้าอี้เสริมให้คนดูอีกด้วย
เมื่อภาพยนตร์"พี่มาก พระโขนง" เดินทางมาถึงนาทีนี้ ก็เลยต้องขอพูดคุยกับบุคคลที่เกี่ยวข้อง เริ่มที่ "เต๋อ ฉันทวิทย์ ธนะเสวี" ที่คราวนี้เจ้าตัวผันตัวเองเข้านั่งในตำแหน่งหนึ่งในทีมเขียนบท ก็บอกเล่าความรู้สึกของตัวเองว่าทั้งตื่นเต้น และไม่คาดคิด
"ตอนเราเขียนเราไม่คิดว่าจะถึงขนาดไหน ยอมรับว่าตอนเขียนบทยากมาก ไม่ใช่เรื่องนี้เรื่องเดียว รวมถึงเรื่องที่ผ่านมาด้วย เขียนบทยังไงให้ออกมาดี ไม่ใช่ทำส่งๆ ไป อย่างเรื่องนี้ใช้เวลาปีครึ่งกว่าจะลงตัว เรียกว่าแก้บทกันเยอะเหมือนกัน บางทีเราคิดว่าเขียนดีแล้ว แต่ไปเจออะไรที่ดีกว่าก็ต้องโละใหม่ เราเขียนบทกัน 3 คน มีพี่แอ้ม (นนตรา คุ้มวงศ์) พี่โต้ง และผม เราพยายามทำให้แตกต่างจากแม่นาก เพราะที่ผ่านมาแม่นากทำมาเยอะ ตัวละครพี่มากน่าสนใจ เราดึงตรงนี้มาเล่น แต่ถ้าเราทำหนังย้อนยุคก็ธรรมดาไป เราใส่ความวัยรุ่น แต่เราก็คิดนะจะโดนด่าไหม แต่นี่คือการตีความใหม่ ไม่ใช่เดิมๆ"
มาที่ด้านของเสาหลักบ้านจีทีเอชอย่าง "วิสูตร พูลวรลักษณ์" ประธานกรรมการบริหาร ก็เผยว่า ตั้งแต่ภาพยนตร์เข้าฉายก็มีรายงานความเคลื่อนไหวเข้ามาตลอด และทำให้ตนค่อนข้างมั่นใจว่าจะได้เห็นสถิติใหม่ที่เกิดขึ้นในวงการภาพยนตร์ไทยอีกครั้ง
"นับตั้งแต่เช้าที่หนังเข้าฉาย ก็มีรายงานข่าวเข้ามาตลอดเวลาว่า คนดูต่างหลั่งไหลมาที่โรงหนัง จากทุกสารทิศ ที่นั่นเต็ม ที่โน้นล้น บางที่จองบัตรข้ามรอบกันไปแล้ว ซึ่งเป็นแบบเดียวกันหมดทั้งประเทศ ทำให้แม้แต่การจองบัตรผ่านระบบออนไลน์ ก็มีมากเสียจนทำให้เว็บล่มไปพักใหญ่ และฟีตแบ็คที่เราได้จากผู้ชม พบว่าคนดูแทบจะ 100 % ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า พี่มาก..พระโขนง เป็นหนังที่สนุกมาก ขำมาก น่ารักมาก และซึ้งมาก มีครบทุกรส รวมไปถึงกลุ่มคนดู ที่ตอนนี้มีหลากหลายกลุ่มมาก ตั้งแต่วัยรุ่น วัยทำงาน กลุ่มผู้ใหญ่ ไปจนถึงผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นได้น้อยครั้งมาก ทำให้เราค่อนข้างมั่นใจได้ว่า เมื่อผ่าน 4 วันแรกของการฉายไปแล้ว เราน่าจะได้เห็นสถิติใหม่ๆ เกิดขึ้นกับวงการหนังไทยอีกครั้งครับ"
คงต้องบอกว่า พี่มาก พระโขนง มีวันนี้ เพราะความกล้าของคนที่กล้าเสี่ยง (ลองของใหม่) จริงๆ