ศพทหารกล้าบุรีรัมย์-ศรีสะเกษ เสียชีวิตชายแดนใต้กลับถึงบ้านเกิด ครอบครัวเศร้า

บุรีรัมย์/ศรีสะเกษ - ศพ “อส.ทพ.พรชัย” ทหารกล้าเสียชีวิตจากเหตุโจรชายแดนใต้ลอบวางระเบิดที่ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ถูกส่งกลับบ้านเกิดที่ จ.บุรีรัมย์ เพื่อประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลแล้ว โดยมีกองทหารเกียรติยศ พร้อมส่วนราชการรอรับศพอย่างสมเกียรติ ท่ามกลางความโศกเศร้าของครอบครัว ส่วนศพทหารกล้า “อส.ทพ.สังคม” กลับถึงภูมิลำเนาที่ จ.ศรีสะเกษ แล้วเช่นกัน 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเย็นวานนี้ (29 มี.ค.) นายอภินันท์ จันทรังษี ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วย พล.ต.วุฒิ แสงจักร ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกบุรีรัมย์ พ.ต.อ.รวีวรรธน์ เทียนสุวรรณ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ หัวหน้าส่วนราชการ รวมทั้งครอบครัว และญาติพี่น้องได้มาตั้งแถวรอรับศพ อาสาสมัครทหารพราน (อส.ทพ.) พรชัย โพธิ์เงิน อายุ 26 ปี สังกัดกองร้อยทหารพรานที่ 4903 กรมทหารพรานที่ 49 ที่ท่าอากาศยานบุรีรัมย์ อ.สตึก ทหารกล้า 1 ใน 3 นายที่เสียชีวิตจากเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดขณะออกลาดตระเวนในพื้นที่ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 28 มี.ค.

โดยหีบศพของ อส.ทพ.พรชัย ถูกคลุมด้วยธงชาติไทย ลำเลียงมาโดยเครื่องบิน C-130 ของกองทัพอากาศ ซึ่งทันทีที่ศพมาถึงสนามบิน กองทหารเกียรติยศได้ทำพิธีต้อนรับอย่างสมเกียรติ ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของครอบครัว และญาติที่มารอรับศพ

จากนั้น กองทหารเกียรติยศได้เคลื่อนศพของ อส.ทพ.พรชัย โพธิ์เงิน ขึ้นรถที่จอดรอรับ ก่อนเคลื่อนขบวนไปประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลตามประเพณี ที่วัดสระขาม ต.เมืองไผ่ อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของ อส.ทพ.พรชัย ต่อไป

ด้าน น.ส.นิภาวรรณ โพธิ์เงิน อายุ 20 ปี ภรรยาของ อส.ทพ.พรชัย กล่าวทั้งน้ำตาว่า รู้สึกเสียใจกับการจากไปของสามี ในเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้น 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย แต่รู้สึกภาคภูมิใจที่สามีเสียชีวิตในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อรับใช้ชาติ โดยสามีได้เข้าไปเป็นอาสาสมัครทหารพรานได้ประมาณ 1 ปีแล้ว ซึ่งการจากไปของสามีในครั้งนี้อยากให้ทางกองทัพ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ช่วยเหลือส่งเสีย ด.ญ.พรรณนิภา โพธิ์เงิน หรือน้องนิว อายุ 1 ขวบเศษ บุตรสาวคนเดียวของ อส.ทพ.พรชัย ได้เรียนจบการศึกษาสูงๆ สามารถเลี้ยงตัวเองได้ เพราะสามีถือเป็นเสาหลักของครอบครัว และตอนนี้ตนก็ตกงานไม่มีรายได้

ทางด้าน นายอภินันท์ จันทรังษี ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า สำหรับการให้ความช่วยเหลือครอบครัว อส.ทพ.พรชัย ทหารกล้าที่เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่นั้น ทางจังหวัดบุรีรัมย์ และอีกหลายหน่วยงานจะดูแลทั้งเรื่องค่าจัดการศพ เงินเยียวยาช่วยเหลือในเบื้องต้น นอกจากนั้น ทางกองทัพบกก็จะได้ให้ความช่วยเหลือตามระเบียบหลักเกณฑ์เพิ่มเติมในอีกทางหนึ่งด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา (29 มี.ค.) ศพของ อส.ทพ.สังคม เฮืองฮุง อายุ 27 ปี สังกัดกองร้อยทหารพรานที่ 4903 ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดในพื้นที่ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เช่นเดียวกัน ได้ถูกส่งกลับถึงบ้านเกิดที่ อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ แล้วเช่นกัน โดยตั้งบำเพ็ญกุศลศพอยู่ที่วัดบ้านสนามสามัคคี ต.โสน อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่ง นายพยม ธารีชาญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ได้นำคณะข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน และครอบครัวญาติพี่น้องจัดพิธีรับศพอย่างสมเกียรติ ท่ามกลางความโศกเศร้า และจะมีพิธีพระราชทานเพลิงศพในวันที่ 1 เม.ย. นี้

นางนงค์ลักษ์ เฮืองฮุง อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 355 หมู่ 6 บ้านสนามสามัคคี ต.โสน อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ ภรรยาของ อส.ทพ.สังคม กล่าวว่า รู้สึกเสียใจมากที่ต้องสูญเสียผู้นำครอบครัว แต่ก็ภูมิใจที่ อส.ทพ.สังคม ได้พลีชีพเพื่อชาติ ส่วนลูกชายและลูกสาวทั้งสองคน อส.ทพ.สังคม อยากให้ทำงานรับราชการเป็นทหารหรือตำรวจ ซึ่งตนจะพยายามเลี้ยงดูลูกทั้งสองคนให้ดีที่สุดต่อไป

ASTVผู้จัดการออนไลน์