หาก มีคนผูกใจเจ็บว่าในอนาคตมีโอกาสเมื่อไหร่ขอแก้แค้นผู้ที่เบียดเบียนเรา หรือผูกใจต่อเราว่าขอให้ได้ทำร้ายคืน ผู้ที่มีจิตแค้นผูกใจเจ็บว่าจะล้างแค้นนั้นแหละเรียกเจ้ากรรมนายเวร
แต่ทุกวันนี้และคำคำนี้ใช้กันจนพร่ำเพรื่อ แล้วมองกันดูว่าน่ากลัว มองในแง่ที่น่ากลัวลึกลับ หรือบางคนมองเป็นเรื่องเหลวไหล
สมมติ เอาแค่วันดีคืนดี เรานึกครื้มใจสนุก อยากแกล้งเพื่อนในห้องเรียน ตบหัวเพื่อน เอาสมุดโน้ตเพื่อนไปซ่อนบ้าง เพื่อนได้รับความเดือดร้อน ผูกใจเจ็บ นั่นแหละเรื่องของเจ้ากรรมนายเวรเกิดขึ้นแล้ว เราได้ทั้งกรรม ได้กรรมคือไปซ่อนสมุดโน้ตเพื่อน ตบหัวเพื่อน ได้เวรมาด้วยคือเพื่อนผูกใจเจ็บ
ถึงแม้กรณีว่าเพื่อนจะอโหสิกรรมให้ ให้อภัยคือไม่โกรธไม่ผูกใจเจ็บ แต่ทว่าเราต้องได้รับใช้ผลของกรรมที่เราทำไปแล้ว ณ จุดนั้น ได้กรรมแต่ไม่ได้เวร
แต่กรณีของบางรายที่ไม่ยอมอโหสิกรรมคือผูกใจ เจ็บ เราจึงได้ทั้งเวร ทั้งกรรม บางทีมีโอกาสก็แกล้งกันคืนบ้าง มีอคติต่อกันบ้าง ต่างคนต่างสร้างกรรมต่อกัน พอตายไป บางทีคนหนึ่งไปเกิดเป็นคนอีกรอบ อีกคนยังไม่ได้ไปเกิดเป็นคนแต่ไปอยู่ในภพของโอปาติกะบ้าง บางทีเป็นโอปาติกะที่มีฤทธิ์เช่น เทวดา จิตที่ยังมีความอาฆาตต่อกันนั้น ยังไม่ได้ให้อภัย จึงมีการตามไปแก้แค้น ตามไปเอาคืนอยู่ตลอด จึงวุ่นวาย
เจ้า กรรมนายเวรของเราทุกๆคน จึงมีได้ทุกภพ ไม่ว่าจะเป็นพรหม เทวดา นางฟ้า สัมภเวสี อสุรกาย พญานาค สัตว์เดรัจฉาน หรือแม้แต่มนุษย์ด้วยกันเอง แล้วแต่ภพภูมิ และบ่วงกรรมที่หมุนเวียนไป บางวาระกรรมมาสนองสองดวงจิตโคจรกันมาอีกวาระ คนบางคนแค่เราเจอหน้าครั้งแรกก็รู้สึกเกลียดไม่ถูกชะตาแล้ว
นั่นแหละ จิตใต้สำนึกมันเคยอาฆาตไม่ดีต่อกันมาก่อน เป็นเจ้ากรรมนายเวร หรือบางคนเคยเกื้อกูลกันมาก่อน ในอดีตชาติ พอเจอกันครั้งแรกก็ถูกชะตาเลยเป็นต้น
เวลาเราทำบุญทุกครั้งจึงควรอุทิศกุศลให้เขาด้วย จะได้อโหสิกรรมต่อกัน ชีวิตเราจะได้เบาลง ไม่มีอุปสรรค
เจ้า กรรมนายเวรที่น่ากลัวก็ได้แก่ พรหม เทวดา มนุษย์ด้วยกัน เพราะเขามีฤทธิ์ มีผลให้คุณโทษเราได้ ส่วนผีนั้น ไม่ว่าจะเปรต อสุรกาย หรือปีศาจต่างๆนั้น ทำอันตรายเราได้ยาก หากกรรมไม่สบช่องให้ เพราะว่าวาระกรรมเขาหนัก จึงไม่มีฤทธิ์มากจนถึงขั้นทำร้ายเรา หากเขาทำเราได้ เขาทำแล้ว ฆ่าแล้วไม่ปล่อยเราไว้หรอก ดังนั้นจึงอย่ากลัวจนเกินเหตุ
บางคนเคย ทำแท้งมา เจ้ากรรมนายเวรก็คือลูกของตนเองนั่นเอง จิตเขาผูกอาฆาต เลยมาเกาะอยู่กับแม่ เป็นกึ่งผี กึ่งสัมภเวสี พอเกาะอยู่ไม่มีอะไรกิน เขาก็อาศัยกายทิพย์ในร่างโอปาติกะที่แทรกเกาะตามกายหยาบเรา นั่นแหละ ดูดกินน้ำเลือดน้ำเหลืองในกายเรา พอกินในจุดนั้นไปนานๆ ก็ก่อให้เกิดการเป็นมะเร็ง เป็นเนื้องอก ผิดปรกติ
บ้างก็เคยฆ่าสัตว์มา จิตวิญญาณมันก็เกาะในคนที่ฆ่าสัตว์นั่นแหละ ก็เป็นมะเร็ง จนกว่าจะรู้แล้วฉลาดทำบุญอุทิศกุศลให้
เมื่อ เขาอภัยให้ โรคภัยที่เกิดจากเจ้ากรรมนายเวรเบียดเบียนนั้นจะหายเป็นปลิดทิ้งเลย เคยเจอมาหลายราย ทำบุญถูกจุดอุทิศให้เขาตามที่เขาต้องการแล้วก็เรียกร้องมา ทำให้ครั้งเดียวพอเลย โรคกรรมจุดนั้นหายเลย
ให้หมั่นทำบุญ ด้วยทาน ศีล ภาวนา แล้วอุทิศให้เขาบ่อยๆ แล้วจะดีเอง หนึ่งหละคือเวรเบาบางลง อุปสรรคในชีวิตก็จะลดลง สองบุญกุศลที่เราทำบ่อยๆนั่นแหละจะเบนชะตาชีวิตของเราให้เป็นไปในทางที่ดี ไม่จำเป็นต้องไปพึ่งหมอสะเดาะเคราะห์ที่ไหนให้สูญเสียเงินอีกต่อไป เพราะกรรมเราเวรเรา เราแก้เอาเองจะถูกจุดที่สุด เพราะเป็นหนี้ระหว่างเรากับเขา ใครจะเข้าใจไปกว่าเจ้าหนี้และลูกหนี้
บาง ทีคนสะเดาะทำไม่ได้จริง มาหลอกให้เราเสียเงินเสียทองเสียเวลา เราทำเองแก้เองดีที่สุด กรรมแก้ไม่ได้หรอก ทำแล้วต้องได้รับ แต่มีวิธีเบนผลของกรรมชั่ว ด้วยกรรมที่มีอำนาจตัดรอนกัน
หรือสร้าง บุญที่มาเสริมบุญเก่า เพื่อให้หนุนโชคลาภมันใหญ่มากขึ้น แต่เรื่องของเวรตัดได้แน่นอน คือการขออโหสิกรรมต่อกัน แล้วอย่าไปสร้างใหม่ หากสร้างใหม่ต้องตามไปแก้อยู่เรื่อยๆ