ก่อนอื่น บอกตามตรงว่า ผมไม่ใช่คอวิสกี้ และไม่ใช่คนดื่ม แต่พอดีได้มีโอกาสไปร่วมงาน Glenfiddich Exclusive Media Tasting ในฐานะ Blogger คนหนึ่ง ได้มีโอกาสรับฟัง มร.สตรวน แกรนท์ ราล์ฟ ซึ่งเป็นแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ของ William Grant & Sons ผู้เชี่ยวชาญมาบอกเล่าแบบนี้ ผมจึงนำมาบอกต่อเพื่อนๆให้รู้ว่า กว่าจะได้วิสกี้ชั้นดี ต้องพิถิพิถันแค่ไหน กว่าเราจะได้วิสกี้ที่มีความหลากหลาย
ในบล็อกนี้ผมไม่ขอลงในรายละเอียดของรสชาต แต่ผมจะมาบอกถึงขั้นตอน กรรมวิธี ที่นำไปสู่การหมักวิสกี้ว่าจะต้องใส่ใจรายละเอียดอะไรบ้าง งานนี้ถึงผมจะไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ ผมก็ได้คำแนะนำจาก มร. สตรวน ราล์ฟ แบรนด์แอมบาสซาเดอร์ของ William Grant & Sons มาบอกเล่าให้ได้ทราบกัน
William Grant and Sons เป็นธุรกิจครอบครัวที่ทำธุรกิจ Scotch Whisky ถ่ายทอดจากรุ่น สู่รุ่น ซึ่งผลิตภัณฑ์ของ William Grant and Sons มี 6 แบรนด์ ซึ่ง Glenfiddich คือ 1 ใน 6 แบรนด์ที่วางจำหน่ายเจาะตลาดในกลุ่มต่างๆ
ในงานนอกจากนี้มี มร.สตรวน ราล์ฟ แล้ว ยังมีอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องดื่มให้ความรู้ด้วย
Glenfiddich เป็นวิสกี้ Single Molt โรงกลั่นโรงเดียว มีความเชี่ยวชาญเพราะเป็นโรงกลั่นที่บริหารงานในครอบครัวกว่า 126 ปี คำว่า Glenfiddich นั้นเป็นคำเรียกขานว่า Valley of the Deer หรือหุบเขาแห่งกวาง ดังนั้นจึงมั่นใจถึงความเชี่ยวชาญในการกลั่นวิสกี้ระดับโลก
href="http://www.bloggang.com/data/y/yokekung/picture/1364514330.jpg" target=_blank>
เคล็ดลับในการหมักวิสกี้ ไม่ใช่ง่ายๆเลย ต้องพิถีพิถันมาก โดยเฉพาะไม้โอ๊ตที่ทำถังหมัก จะต้องมีการเผานิดเพื่อให้หมดกลิ่นยาง และนอกจากนี้ ในตอนที่หมัก ไม้โอ๊ตอาจจะมีการยืดและขยายตัว การที่วิสกี้ซึมเข้าไม้โอ๊ต และคลายออกมา ทำให้รสชาตดีขึ้น หอมกลิ่นไม้โอ๊ต ซึ่งไม้โอ๊ตแต่ละชนิดก็แตกต่างกัน นี่เขาพิถีพิถันมากขนาดนี้เลยเชียว
ในงานได้มีการวางส่วนผสมต่างๆของวิสกี้ 12 15 และ 18 ปีให้เราได้สัมผัสกลิ่น กับส่วนผสมแท้ๆ บริสุทธิ์ ไม่มีการปรุงแต่งใดๆทั้งสิ้น มีแต่การหมักให้นานเพื่อรสชาตที่แตกต่างและหลากหลาย
ผลิตภัณฑ์ที่ผมได้ลองจะเป็น
Glenfiddich 12 ปี กลิ่นความหอมของลูกแพรและผลไม้ หมักในถังไม้โอ๊ตหอมกลิ่นโอ๊ต
Glenfiddich 15 ปี หอมกลิ่นน้ำผึ้งและและลูกเกด
และ Glenfiddich 18 ปี ที่ได้ลองชิมตั้งแต่เริ่มงาน จะเป็นการผสมของแอปเปิ้ลอบและชินนามอน
นอกจากนี้ผมเพิ่งทราบวิธีการดมกลิ่นวิสกี้แบบไร้แอลกอลฮอลล์กลบกลิ่นผลไม้ เพียงเอามือวางทาบบนแก้วแล้วเทแก้วลงแล้ววิสกี้พอจะหกโดนฝ่ามือ จากนั้นเอามือสองข้างถูกัน เราก็จะได้สัมผัสกลิ่นผลไม้ในวิสกี้อย่างแท้จริงแบบไร้กลิ่นแอลกอฮอลล์กลบ นี่มันภูมิปัญญาชาวบ้านชัดๆ
จากที่ผมได้ทราบกรรมวิธีและความพิถีพิถันของวิสกี้ ผมเชื่อว่าการกลั่นวิสกี้ในตระกูลครอบครัว William Grant & Sons นี่ไม่ธรรมดาจริงๆ เพราะเขาเชี่ยวชาญและควบคุมคุณภาพการผลิต การหมัก ในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเลือกไม้โอ๊ต เข้มงวดกับการหมัก เพื่อให้ได้รสชาตที่หลากหลาย และรอบนี้เขามุ่งเน้นว่าการเติบโตของตลาดวิสกี้ในไทยของ Glenfiddich จะมีอัตรา 18%