กรุงเทพฯ 35 องศาเซลเซียส!!!  โอ้โห...นี่มันถึงฤดูร้อนแล้วหรือนี่? ห้วงสัปดาห์นี้เดินไปทางไหนทั่วกรุงเทพฯ ก็มีแต่คนบ่นว่าร้อน ร้อนจริง ร้อนจัง และร้อนมาก รวมทั้งต่างจังหวัด หลายจังหวัดแล้งจัด บางจังหวัดถึงขั้นไม่มีน้ำผลิตน้ำประปา พระเจ้า! แล้วสงกรานต์ พวกเราจะต้องทนร้อน ที่ไม่รู้จะทะลุไปถึงกี่องศา...

ไม่แตกต่างจาก อุณหภูมิของ "สวัสดี…แคมปัส" สัปดาห์นี้ ที่เผ็ดร้อนไม่แพ้อากาศ เพราะแคมปัสรับเชิญเป็นถึง 1 ใน 10 สาว "Girl Next Door 2013" ของเวทีการประกวด "สาวข้างบ้าน" ของนิตยสาร FHM นิตยสารที่เซ็กซี่ที่สุดในเวลานี้ ซึ่ง "สวัสดี...แคมปัส" มุ่งไปที่เรื่องเรียนและการใช้ชีวิตของเธอมากกว่าเรื่องอื่น เพราะมันน่าสนใจอยู่ไม่น้อยทีเดียว

เสีย เวลามามาก ขอเริ่มต้นกันด้วยชื่อเสียงเรียงนาม "พิ" หรือนางสาวพิฆธิดา วชิรพุทธคุณ อายุ 19 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยกรุงเทพ

พิ เลือกเรียนเอกวิชาภาษาอังกฤษ คณะมนุษยศาสตร์ ด้วยเหตุผลที่ว่า เธออยากเป็นแอร์โฮสเตส เพราะเธอคิดว่าตัวเองสูง ส่วนเหตุผลอีกอย่างคือ หัวเธอน่าจะเรียนได้ ก็เลยเลือกเรียนภาษา แถมอาชีพนี้ ยังเป็นอาชีพในฝันของผู้หญิงหลายๆ คนด้วย

ก่อนที่จะมา ประกวด "Girl Next Door 2013" พิ เริ่มงานถ่ายแบบ ตั้งแต่อายุ 15 ปี สมัยเรียนชั้น ปวช. ที่วิทยาลัยเทคโนโลยีวิบูลย์บริหารธุรกิจ รามอินทรา โดยทำทั้งถ่ายแบบ ถ่ายโฆษณา แต่ที่เธอชอบที่สุด เห็นจะเป็นงานถ่ายแบบ เพราะพิบอกว่า มันเป็นงานที่ทำให้หนูมีรายได้มาจุนเจือครอบครัว

"สำหรับ อายุเท่าหนูนะ หาได้เท่านี้ก็เก่งมากแล้ว เพราะมันเป็นความภาคภูมิใจของเรา หากอยากได้อะไร ก็ไม่ต้องไปขอเค้า บางทีเราก็รู้ว่าเค้าเหนื่อยเหมือนกัน"

"สวัสดี…แคมปัส" ถามพิว่า หากไม่ได้ทำงานด้านนี้ต่อไป แล้วยังอยากไปเป็นแอร์โฮสเตสเหมือนความใฝ่ฝันหรือไม่ พิบอกว่า "เป็นค่ะ งานพวกนี้ มันไม่ได้อยู่นานอยู่แล้ว มันก็เป็นแค่ช่วงอายุนึง เราจะทำไปถึงแก่ ก็ไม่ได้ ตอนนี้หนูอายุ 19 หนูก็ทำมา 5 ปีแล้ว มันเป็นงานสบาย จุนเจือรายได้ เดือนละประมาณ 6-7 หมื่น หนูหาได้ หนูภาคภูมิใจมาก"

พิ แบ่งเวลาได้ลงตัวมาก ทั้งทำงานและเรียนหนังสือ พิมีเกรดเฉลี่ยอยู่ที่ 2 กว่าๆ โดยสัปดาห์หนึ่ง เธอจะต้องเรียนหนังสือ 4 วัน และมีวันหยุด 3 วัน ก็จะไปทำงาน และถ้ามีเหตุจำเป็นต้องหยุดจริงๆ พิจะขออาจารย์ และทำงานส่งทีหลัง

"ตอนนี้การประกวดมีเก็บตัว งานจะเยอะขึ้น บางทีก็ต้องไปขออาจารย์ บางวิชาก็ให้ บางวิชาก็ต้องตามงานให้ทัน หนูก็ต้องเหนื่อยหน่อย แต่ว่าโชคดีที่ว่า ผ่านตอนสอบมาแล้ว ช่วงนี้ก็ว่างๆ เหมือนกำลังจะเริ่มเทอมใหม่"

"แอร์โฮสเตส" เป็นอาชีพที่เธอใฝ่ฝัน ส่วน "นางแบบ" เป็นอาชีพที่พิรัก

"หนู อยากเป็นนางแบบอยู่แล้ว ที่ประกวดก็เพราะว่าอยากลองดู ที่ผ่านมาก็ไม่คิดว่าตัวเองจะติดถึง 10 คนสุดท้าย เพราะแต่ละคนมาก็สวยๆ ทั้งนั้น หนูก็ยังเด็กที่สุดในนี้ด้วย และหนูติด 10 คนสุดท้าย ก็มีนามสกุล FHM แล้ว หนูเคยผ่านงานมาบ้าง ผ่านเวทีประกวดมา 2-3 เวที ตอนหนูอายุ 17 ก็ประกวด ซุปเปอร์โมเดล ก็ติดรอบแรก แต่ก็ไม่ได้เข้า เพราะตอนนั้นยังเดินไม่เป็นเลย แค่ไปเอาประสบการณ์ แต่เวทีนี้ ก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว สำหรับหนู"

ความสำเร็จของพิ เกิดจากการที่พิทำอะไรสักอย่าง ต้องทำให้สำเร็จ!

"ยิ่ง รู้ว่ายาก เราก็ต้องทำให้สำเร็จ ถ้าทำไม่สำเร็จแล้ว มันก็เป็นอะไรที่ยอมไม่ได้ เราจึงต้องมีความอดทนสูง ถ้าสำเร็จก็คือเอ่อ ที่เหนื่อยๆ มา มันจะดูยากหน่อย แต่ก็สำเร็จ และถึงหนูเป็นแบบนี้ แต่หนูก็ยังใช้ชีวิตเหมือนเด็กปกติ แต่ความรับผิดชอบในชีวิตมหา'ลัยของหนู ก็จะมากกว่าคนอื่น สูงกว่าคนอื่น การใช้ตังหนูจะไม่ได้สุรุ่ยสุร่ายเหมือนเด็กคนอื่นๆ คือหนูเป็นคนหาตังเอง ทำงานแบบนี้ คือมันก็เป็นอยู่แล้ว หนูก็ต้องใช้เงินเยอะกว่าคนอื่นอยู่แล้ว เช่น ค่ารถ ค่าซื้อของ เครื่องสำอาง เครื่องประดับ เสื้อผ้า คือแบบต้องเป็นธีมนั้นธีมนี้ เราต้องมีไว้เพื่อเป็นของเรา จะได้ไม่ต้องไปหายืมคนอื่น แต่ก็ไม่จำเป็นต้องเป็นแบรนด์"

สุด ท้าย พิบอกว่า "การใช้ชีวิตของเด็กมหาลัย เด็กก็จะต้องแข่งกันสวย แข่งกันใช้ของแพงแบรนด์เนม นินทา เออแต่หนูเป็นคนไม่แคร์ไง คือสมมติหนูซื้อแบรนด์ มันก็คือตังหนู แต่คือแบบถ้าซื้อเอาตังพ่อแม่มาใช้ มันก็ดูแย่ ดูไม่มีแล้วมานั่งว่าคนอื่น คือถ้าตังหนูหามาเอง หนูก็ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน ใส่อะไรก็ได้ ดีกว่าเป็นลูกคุณหนูขอตังพ่อแม่ ตั้งแต่เด็ก หนูเห็นแม่ทำงานคนเดียว มีน้องอีก มันเลยทำให้หนูเป็นคนขยันตั้งแต่เด็กแล้วมั้ง หนูเห็นแม่ทำงานทุกวัน ก็ไม่อยากใช้ชีวิตแบบว่างๆ"

สิ่งที่เธอทิ้งท้าย... นี่แหละ!!! ชีวิตที่ไม่ธรรมดาของสาวพิ "Girl Next Door 2013".