เมื่อ 21 ก.พ. เดลี่เมล์ของอังกฤษรายงานข่าวเปิดโปงสวนเสือในเมืองกุ้ยหลิน มณฑลกว่างซี ภาคใต้ของจีน ว่า ถูกเลี้ยงในสภาพเลวร้ายให้ค่อยๆ ตาย เพราะว่าถ้าเสือตายจะทำเงินยิ่งกว่าตอนเป็น โดยเฉพาะกระดูกที่ไปทำเหล้ายาดอง ขายได้ขวดละ 60-185 ปอนด์ หรือราว 3,100-9,600 บาท
ริชาร์ด โจนส์ นักข่าวเดลี่เมล์ รายงานว่า ช่วงที่ไปสำรวจสภาพเสือในสวนเสือเซียงเสิ่น ไทเกอร์ แอนด์ แบร์ เมาน์เทน พบเสือตัวผู้ตัวหนึ่งนอนตัวผอมแห้ง หนังติดกระดูก มีแผลที่ไม่ได้รับการรักษา เจ้าหน้าที่หญิงของอุทยานกล่าวว่า นักท่องเที่ยวที่มาดูมันต่างก็ถอนใจด้วยความสงสาร เราก็ต้องให้อาหารมันต่อไปจนกว่ามันจะจากไป เพราะมีกฎหมายห้ามฆ่าเสือ
ตาม ความเห็นของโจนส์ เสือเหล่านี้ดูเหมือนจะถูกเลี้ยงแบบทิ้งๆ ขว้างๆ เพื่อให้มันตายอย่างช้าๆ ในพื้นที่นอกจุดที่นักท่องเที่ยวเข้าชม เสือถูกเก็บไว้ในกรงคอนกรีตรอบด้าน ทั้งเล็กและมืด มีช่องหน้าต่างนิดเดียว บางห้องอัดเสือเข้าไปอยู่ 4 ตัว มีบางตัวนอนตัวงอติดกรงแคบๆ จนคอมันบิดเบี้ยว บางตัวเป็นเนื้องอก อีกตัวตาบอดข้างหนึ่ง นอนนิ่งไม่ไหวติง
เสือในสถานที่นี้มี 1,500 ตัว แทนที่ครึ่งหนึ่งจะอยู่ในป่า กลับต้องมีชีวิตอยู่ในสภาพเลวร้าย โดยอุทยานเซียงเสิ่นและอุทยานอื่นๆ ที่คล้ายกันนี้อาศัยช่องโหว่ของกฎหมาย ใช้กระดูกเสือที่ตายแล้วผลิตเหล้าเป็นยาบำรุงได้ ตามความเชื่อว่าจะช่วยรักษารูมาตอยด์ และโรคข้อเสื่อม ทำให้อายุยืนยาว
เด บบี้ แบงส์ โฆษกหญิงของสำนักงานสอบสวนด้านสิ่งแวดล้อม หรืออีไอเอ กล่าวว่า เคยร้องเรียนไปถึงรัฐบาลจีน เจ้าหน้าที่กลับทำเป็นหูทวนลม ทั้งยังว่าองค์กรของเราเข้าไปแทรกแซง กรณีของอุทยานกุ้ยหลิน ได้เงินจากรัฐ 36 ล้านบาทไปสร้างกรงใหม่ที่อ้างว่าเพื่อการวิจัยเสือ
เรื่องดัง กล่าวปรากฏเป็นข่าวในนิวยอร์กไทมส์ สื่อของสหรัฐ เมื่อ 12 ก.พ.2553 ว่า สวนเสือแห่งนี้เคยตกเป็นข่าวฉาวเมื่อ 2 ปีก่อน ว่าขายเนื้อเสือให้ภัตตาคาร มาตอนนี้เลี่ยงใช้คำว่า "เสือ"บนฉลากเหล้า เป็นคำว่า "กระดูกสัตว์หายาก"แทน เมื่อติดต่อสอบถามไปยังเจ้าของบริษัทผลิตเหล้า ก็ไม่รับสาย ให้พนักงานมายืนยันว่าไม่ได้ใช้เสือเป็นส่วนผสมในขวดเหล้าที่ผลิตปีละ 2 แสนขวด