สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงวาติกันซิตี นครรัฐวาติกัน เมื่อวันที่ 28 มี.ค. ว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ประมุขแห่งคริสตจักรนิกายโรมันคาทอลิก ทรงประกอบพิธีชำระล้างเท้าให้แก่นักโทษเยาวชน 12 คน ที่มีทั้งผู้หญิงและนักโทษที่นับถือต่างศาสนา ภายในสถานกักกันแห่งหนึ่งในกรุงโรม ของอิตาลี เนื่องในวัน “พฤหัสบดีศักดิ์สิทธิ์” หรือวันที่พระเยซูทรงร่วมรับประทานอาหารมื้อสุดท้ายกับเหล่าอัครสาวกก่อนถูกตรึงกางเขน
พิธีศักดิ์สิทธิ์ดังกล่าวมีขึ้นภายในสถานกักกันเด็กและเยาวชน คาซาล เดล มาร์โม สถานที่ซึ่งปัจจุบันคุมขังนักโทษอยู่ราว 50 คน โดยสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส พระชันษา 76 ปี ทรงย่อพระชานุ ( เข่า ) ลงต่อหน้าผู้ต้องขังเยาวชนทีละคน ซึ่งมีทั้งชายและหญิง อายุระหว่าง 14-21 ปี พระองค์ทรงน้ำชำระล้างเท้าทั้ง 2 ข้างของนักโทษแต่ละคนจนสะอาด และทรงจุมพิตบนหลังเท้านั้น พร้อมกับทรงแย้มพระสรวลให้แก่นักโทษจนครบ 12 คน
หลังเสร็จสิ้นการประกอบพิธี พระองค์ทรงมีพระดำรัสว่า การได้รับโอกาสให้อยู่ในตำแหน่งหรือมีสถานะที่สูงกว่าผู้อื่น เท่ากับว่า บุคคลนั้นต้องมีจิตใจบริสุทธิ์และเปี่ยมด้วยศรัทธาที่จะมอบความช่วยเหลือให้แก่เพื่อนมนุษย์ที่ด้อยโอกาส ในฐานะที่พระองค์ทรงเป็นนักบวชที่มีสถานะสูงกว่านักบวชทั้งหลายในที่แห่งนี้ พระองค์ทรงยินดีที่จะอุทิศจิตวิญญาณรับใช้ทุกคน ไม่ว่าเขาเหล่านั้นจะนับถือนิกายโรมันคาทอลิกหรือไม่ หรือมีเชื้อชาติ เพศ และสีผิวแบบใด เนื่องจากองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงสอนพระองค์อยู่ทุกวินาทีว่า การมอบความรักที่จริงใจไม่ควรมีการแบ่งแยก
ทั้งนี้ พิธีกรรมดังกล่าวถือเป็นการรำลึกถึงช่วงเวลาที่องค์พระเยซูทรงร่วมโต๊ะรับประทานอาหารมื้อสุดท้าย และชำระล้างเท้าให้แก่อัครทูตทั้ง 12 องค์ ก่อนที่พระองค์จะทรงถูกจับตรึงกางเขน ซึ่งคริสต์ศาสนิกชนเรียกวันนี้ว่า เป็นวันพฤหัสบดีศักดิ์สิทธิ์ หนึ่งในวันสำคัญของเทศกาลมหาพรต หรือสัปดาห์สุดท้ายก่อนถึงเทศกาลอีสเตอร์
ขณะที่สมเด็จพระสันตะปาปาพระองค์ก่อนจะทรงชำระล้างเท้าให้เฉพาะนักโทษชาย และต้องเป็นผู้ผ่านการคัดเลือกจากสำนักวาติกันแล้วเท่านั้น แต่สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสทรงเปลี่ยนแปลงธรรมเนียมที่ปฏิบัติมานานหลายศตวรรษโดยสิ้นเชิง พระองค์ทรงให้เหตุผลว่า การถ่ายทอดจิตใจอันบริสุทธิ์ควรมอบให้แก่มนุษย์ทุกเพศ จึงเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ที่สมเด็จพระสันตะปาปาทรงชำระล้างเท้าให้แก่ผู้ต้องขังหญิงด้วย