ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 27 มีนาคม ว่า ที่สังคมอินเตอร์เน็ต กำลังมีการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก กรณีมีผู้นำรูปถ่ายมุมสูงของอาคารแห่งหนึ่ง ใกล้กับสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 15 อ.เมือง จ.เชียงราย โดยในภาพ มีเจ้าหน้าที่สวมใส่เสื้อสีส้ม กำลังถือสายยางดับเพลิงขนาดใหญ่ ทำการฉีดพ่นน้ำขึ้นบนที่สูง บริเวณเครื่องตรวจวัดค่าฝุ่นละอองอัตโนมัติ ของกรมควบคุมมลพิษ ที่ตั้งเครื่องเอาไว้หน้าสำนักงาน ปภ.เขต 15 ซึ่งภาพดังกล่าวถูกเผยแพร่ทางเว็ปไซต์www.CM108.com มีข้อความใต้ภาพว่า
"ได้ภาพนี้มา ว่า จนท. สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมใช้น้ำฉีดหมอกควันบริเวณจุดตรวจคุณภาพอากาศ ทำให้ค่าที่ออกมา ไม่วิกฤต เครื่องวัดอัตโนมัติอ่านค่าได้อ่อน หรือน้อยกว่าปกติ เหตุเกิดที่ จ. เชียงราย คือยังไม่ทราบเหตุผล ถ้าเป็นที่เชียงใหม่จะรีบไปถามมาให้มีสมาชิกเล่าว่าที่-เชียงใหม่-ก็มี แต่ยังไม่มีใครบันทึกภาพมา"
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงบริเวณเครื่องตรวจวัดค่าฝุ่นตั้งอยู่ พบว่ามีการกั้นเชือกและป้ายห้ามนำรถยนต์เข้าบริเวณ และในจุดที่เครื่องตรวจวัดตั้งพื้นดินเหมือนถูกรดด้วยน้ำ และพบเพียงการต่อท่อน้ำมายังหน้าเครื่องตรวจวัดและมีสายยางฉีดน้ำสีเขียววางอยู่ถึง 2 จุด ซึ่งยังไม่ทราบว่าต่อท่อน้ำมาเพื่อเหตุผลใด
ด้านนายสุจิน โตพันเทียม ผอ.สำนักงานทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมเชียงาย กล่าวว่าการฉีดพ่นน้ำเป็นเจ้าหน้าที่ของสำนักงานจริง ซึ่งเป็นการฉีดรดต้นน้ำตามปกติ ซึ่งจะมีการฉีดรดอยู่แล้วสัปดาห์ละ 2-3 วัน โดยเฉพาะช่วงนี้จะต้องมีการรดถี่ขึ้นเนื่องจากเป็นช่วงฤดูแล้งหากไม่มีการรดต้นไม้ก็จะเฉาตายได้ ซึ่งไม่ได้เป็นการฉีดพ่นละอองน้ำเพื่อให้ค่าฝุ่นละอองในอากาศต่ำตามที่มีการนำไปโพสในอินเตอร์เน็ต เนื่องจากการฉีดพ่นเพียงเล็กน้อยไม่ทำให้ค่าของเครื่องตรวจวัดเปลี่ยนแปลงได้เพราะเป็นการประมวลผลเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ซึ่งการรดน้ำก็รดเพียงระยะเวลาสั้น ๆ และค่าฝุ่นละอองของ จ.เชียงราย ยังมีตัวเลขที่สูงกว่า 200 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งก็สอดคล้องกับสภาพหมอกควันที่หนาแน่นในพื้นที่