วันที่ 24 มี.ค. ผู้สื่อข่าว ข่าวสด ได้รับแจ้งจากนายอนุชา จันทรวัฒนะ อายุ 19 ปี ว่า ได้ถ่ายภาพภายในอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาแล้วติดภาพวิญญาณหญิงสาวเหมือนถูกแขวนคอ ติดมาด้วยจึงเดินทางไปตรวจสอบ

 พบนายอนุชา กลุ่มเพื่อนและญาติๆ นั่งล้อมดูภาพจากโทรศัพท์มือถือ  เป็นภาพแนวกำแพงวัดมหาธาตุภายในอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ในภาพมีหญิงสาวนั่งอยู่บนกำแพง 2 คน คนหนึ่งสวมเสื้อสีดำ นุ่งกางเกงขาสั้น และอีกคนสวมเสื้อสีขาว นุ่งกางเกงขาสั้น ทั้งสองคนอายุประมาณ 20 ปี  ที่พื้นด้านล่างมีเด็กหญิงอายุประมาณ 3-5 ปี ยืนอยู่ ส่วนที่มุมกำแพงมีภาพหญิงสาวสวมเสื้อสีส้มก้มหน้ากางเกงขาสั้นสีชมพู ขาลอยไม่แตะพื้นเหมือนถูกแขวนคออยู่ ทำเอาทุกคนที่ดูภาพแล้วต่างพากันขนหัวลุกวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นาๆ

 นายอนุชา เปิดเผยว่า วันที่ภาพดังกล่าวเป็นวันที่ 16 มี.ค. 2556 เวลาประมาณ 20.30 น. ขณะที่ตนกำลังเข้าแถวเพื่อทำการซ้อมใหญ่การแสดงประกอบการแสดงแสงสีเสียง วันนายขนมต้ม โดยตนเองแสดงแต่งกายเป็นนักรบโบราณในริ้วขบวน ขณะนั้นมองเห็นหญิงสาวสองคนนั่งอยู่บนกำแพงและมีเด็กยืนอยู่ที่พื้นสนาม เห็นว่าผู้หญิงสาวสองคนหน้าตาน่ารักจึงได้หยิบโทรศัพท์มือแบล็คเบอรรี่ขึ้นมาถ่าย ยืนยันว่ามองเห็นชัดเจนว่ามีเพียงหญิงสาวสองคนและเด็ก ที่อยู่ในบริเวณนั้นเพราะมีไฟส่องสว่างขณะที่ทำการฝึกซ้อม จากนั้นไปทำการฝึกซ้อมกันต่อไม่ได้หยิบโทรศัพท์มาดูอีกเลย

 จนช่วงเมื่อคืนได้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดภาพดูถึงกับขนลุกเมื่อเห็นภาพ ตกใจมากจึงได้ลองเปิดภาพให้ญาติและเพื่อนดูทุกคนบอกว่าเหมือนเป็นผู้หญิงผูกคอตาย เพราะถ้าไม่แตะพื้น ตนเองยืนยันว่าไม่มีความรู้เรื่องการตกแต่งภาพและไม่ได้แต่งภาพผ่านโปรแกรมใดๆ ทั้งสิ้น ตนเองจะได้เข้าร่วมการแสดงในงานแสงสีเสียง อยุธยามรดกโลก เป็นประจำ และมักจะมีเพื่อนนักแสดงเจอเหตุการณ์ต่างๆ นาๆ หลายครั้ง เคยมีเพื่อนคนหนึ่งบอกว่ามีชายนักรบโบราณเรียกให้เข้าไปหาในแนวกำแพง แต่เพื่อนของตนเองไม่ยอมเดินตามเข้าไป การแสดงทุกครั้งจะต้องมีการบวงสรวงก่อนการแสดงทุกครั้ง แต่วันที่ตนเองฝึกซ้อมไม่ได้มีการแสดง แต่วันแสดงจริงวันที่ 17 มี.ค. ก่อนการแสดงได้มีการบวงสรวงก่อนไม่พบว่ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้พานายอนุชาไปชี้จุดที่ถ่ายภาพแล้วติดภาพหญิงสาว พบว่าเป็นแนวกำแพงด้านที่ติดกับบึงพระราม ริมถนนสายกลาโหม นายอนุชาเมื่อเห็นแนวกำแพงที่ถ่ายภาพจริงถึงกับขนลุกเพราะจุดที่ถ่ายภาพเป็นแนวกำแพงยาวตลอดแนวไม่มีทางเข้าออกแต่อย่างใด โดยรีบเดินออกจากบริเวณแนวกำแพงทันที