9 เรื่องควรละเลิกเมื่อตั้งครรภ์ มีดังนี้
1. เดินและเคลื่อนไหวเร็ว
ตอน ยังไม่ท้องคุณแม่อาจเป็นคนกระฉับกระเฉงเดินหรือเคลื่อนไหวเร็วไปโน่นมานี่ ได้อย่างรวดเร็วทันใจ แต่ตอนนี้คุณแม่ต้องใจเย็นเดินและเคลื่อนไหวให้ช้าลง ยิ่งท้องใหญ่มากขึ้นยิ่งต้องลดสปีดของตัวเองลง เพราะการเดินและเคลื่อนไหวในจังหวะและความเร็วที่พอเหมาะจะช่วยรักษาสมดุล ของการเคลื่อนไหว และปลอดภัยมากขึ้นหากคุณแม่เกิดก้าวพลาด หรือสะดุดหกล้ม อาจเป็นอันตรายทั้งคุณแม่และเจ้าตัวเล็กในท้องได้
2. ลดเสียงเพลง
การ ฟังเพลงที่ชอบ เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมยอดฮิตของคุณแม่ เพราะช่วยให้ผ่อนคลายสบายใจ แถมยังส่งผลต่อพัฒนาการทางสมองและอารมณ์ของเจ้าตัวเล็กในท้อง แต่ก็ไม่ควรฟังในระดับเสียงที่ดังมากจนเกินไป เพราะแทนที่จะรู้สึกผ่อนคลายสบายอารมณ์ ก็อาจกลายเป็นความเครียดและแก้วหูถูกทำลายแทน ซึ่งแน่นอนว่าเจ้าตัวเล็กในท้องจะได้รับผลกระทบเหล่านั้นไปด้วยอย่างแน่นอน
3. กินเร็ว
การ กินอาหารเร็วๆ เคี้ยวยังไม่ทันละเอียดก็รีบกลืนลงคอจนติดเป็นนิสัย จะทำให้กระเพาะอาหารทำงานหนักส่งผลให้ท้องอืดท้องเฟ้อ และยังทำให้คุณแม่กินอาหารมากกว่าปกติ เป็นสาเหตุของความอ้วนและโรคภัยอื่นๆ ที่จะตามมาได้อีกด้วย การเคี้ยวอาหารให้ช้าลง นอกจากจะปลอดภัยสบายท้องไม่มีอาการท้องอืดท้องเฟ้อลดความเสี่ยงต่ออาการผิด ปกติต่างๆ แล้วคุณแม่ก็ยังได้สัมผัสรสชาติของอาหารที่โปรดปราน หรืออาหารที่อยากกินอย่างเต็มที่เรียกได้ว่าอิ่มเอมทั้งกายและใจจริงๆ
4. เว้นอาหารและเครื่องดื่มบางชนิด
เช่น อาหารมันจัด เนื้อสัตว์ที่ติดมัน หรือติดหนัง ขนมหวาน น้ำหวาน น้ำอัดลม เป็นต้น อาหารเหล่านี้จะทำให้คุณแม่ได้รับไขมันและน้ำตาลในปริมาณที่มากเกินไป ทำให้คุณแม่อ้วน เสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวาน และยังเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ อีกด้วย
5. ไม่ยืนหรือนั่งท่าเดิมนานๆ
การ นั่งพิมพ์เอกสารนานๆ ยืนถ่ายเอกสาร หรือการทำงานบ้านต่างๆ เช่น รีดผ้า ทำกับข้าว ทำความสะอาด เหล่านี้เป็นกิจกรรมที่ควรหลีกเลี่ยง เพราะการนั่งหรือยืนนานๆ จะทำให้คุณแม่รู้สึกปวดเมื่อย เกิดเส้นเลือดขอด เป็นตะคริว และเกิดอาการเวียนศีรษะได้
6. หลีกเลี่ยงมลพิษ
คุณ แม่ควรอยู่ในที่ที่อากาศบริสุทธิ์ หรือมีมลพิษน้อยที่สุด มีผลการศึกษาวิจัยพบว่า มลพิษต่างๆ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในกระแสเลือด ซึ่งสามารถขัดขวางการทำงานของรกและส่งผลต่อ DNA ของทารกตั้งแต่ยังเป็นตัวอ่อนในครรภ์ คุณแม่ที่หายใจเอามลพิษเข้าไปมากๆ จะส่งผลให้ลูกมีไอคิวต่ำอีกด้วย แต่หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่น จำเป็นต้องใช้รถสาธารณะในการเดินทาง ควรสวมหน้ากากเพื่อป้องกันควันพิษ ฝุ่นละออง และเชื้อโรคต่างๆ
7. เลิกเครียด
เป็น เรื่องที่พูดง่ายทำยากค่ะ เพราะเรื่องที่ทำให้กังวลจนกลายเป็นความเครียดสำหรับคุณแม่แล้ว ส่วนใหญ่ก็หนีไม่พ้นเรื่องลูกในท้องนี่แหล่ะค่ะ แต่เพื่อลูกแล้วเชื่อว่าคุณแม่สามารถหาทางจัดการความเครียดตัวร้ายได้แน่ๆ เพราะถ้าปล่อยไว้ลูกในท้องจะรับรู้อารมณ์เครียดของคุณแม่ได้ มีรายงานยืนยันว่าลูกจะเป็นเด็กเครียด งอแง และเลี้ยงยาก อาจเป็นเพราะสารเครียดในร่างกายของคุณแม่ส่งผ่านมาถึงลูก และยังมีผลต่อการพัฒนาสมองของลูกอีกด้วย
8. เลิกดื่มแอลกอฮอล์
ผู้หญิง ที่ยังไม่รู้ตัวว่าตั้งครรภ์แล้วดื่มแอลกอฮอล์ จะมีผลต่อการสร้างอวัยวะต่างๆ ของลูกในท้องในช่วง 3 เดือนแรก ซึ่งเป็นช่วงที่ทารกสร้างเส้นประสาทและสมอง ทุกครั้งที่คุณแม่ดื่ม ลูกก็จะได้รับแอลกอฮอล์ด้วย ทำให้ลูกเกิดความผิดปกติทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ สมอง ใบหน้า เช่น ร่างกายไม่เจริญเติบโต พัฒนาการทางสมองผิดปกติ ปัญญาอ่อน การทำงานประสานระหว่างมือและตาไม่ดี เรียนรู้ไม่ดี เป็นต้น
9. เลิกนอนดึก
คุณ แม่ควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ซึ่งแต่ละคนจะไม่เท่ากัน บางคนอาจต้องการนอนคืนละ 7 ชั่วโมง แต่บางคนอาจต้องการนอนมากกว่านั้น ซึ่งเป็นเรื่องเฉพาะบุคคล แต่ไม่ควรนอนน้อยกว่า 5 ชั่วโมง เพราะมีการศึกษาพบว่าคุณแม่ตั้งครรภ์ที่นอนน้อยกว่าคืนละ 5 ชั่วโมง เสี่ยงที่จะเกิดครรภ์เป็นพิษมากกว่าปกติถึง 9.5 เท่า
หากคุณแม่สามารถทำได้ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ เชื่อว่าการตั้งครรภ์ในครั้งนี้จะมีความสุขทั้งกายและใจ
ที่มา : หนังสือพิมพ์ ASTV ผู้จัดการ
ที่มาข้อมูลแลภาพ thaihealth.or.th