วันนี้ 23 มี.ค. ขณะที่ พ.ต.ท.จุมพล คณานุรักษ์ รอง ผกก.จร.สน.พญาไท ร.ต.ท.วรกฤษฎ์ นุใหม่ รอง สว.จร.สน.พญาไท นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สน.พญาไท ตั้งด่านกวดขันวินัยจราจรอยู่บริเวณหน้าโรงแรมเดอะ สุโกศล ถนนศรีอยุธยาฝั่งขาออก แขวงถนนพญาไท เขตราชเทวี พบรถกระบะยี่ห้อเชฟโรเลต โคโลราโด้ สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน บท-1525 สระแก้ว ขับเข้ามาที่ด่านตรวจ แต่เมื่อเจ้าหน้าที่จะขอเรียกตรวจค้นรถคันดังกล่าว คนขับกลับรีบถอยหลังแล้วกลับรถวิ่งย้อนไปทางฝั่งขาเข้ามุ่งหน้าแยกศรีอยุธยาด้วยความเร็วสูง ทาง ด.ต.ภาณุวัฒน์ ร่มโพธิ์ ผบ.หมู่ จร.สน.พญาไท จึงรีบขี่รถจยย.เร่งติดตามไปทันที

จากนั้นรถกระบะคันดังกล่าวได้เลี้ยวซ้ายที่แยกศรีอยุธยา แล้วขับหลบหนีเข้าถนนบรรทัดทองก่อนเลี้ยวซ้ายที่แยกเจริญผล วิ่งผ่านหน้าสนามกีฬาแห่งชาติ ก่อนมุ่งหน้าผ่านแยกปทุมวันเข้าแยกราชประสงค์ก็เลี้ยวซ้ายเข้าประตูน้ำ ก่อนจะเลี้ยวเข้าซอยเพชรบุรี 14 ซึ่งมีแคมป์พักคนงานอยู่ด้านใน ด.ต.ภาณุวัฒน์ ก็ยังขี่รถจยย.ติดตามไปอย่างไม่ลดละ เมื่อรถกระบะคันดังกล่าวเห็นว่าภายในซอยเป็นทางตันก็รีบกลับรถย้อนออกมา ทาง ด.ต.ภาณุวัฒน์ พยายามเรียกให้จอด แต่คนขับรถกระบะคันดังกล่าวกลับเร่งเครื่องพุ่งเข้าใส่ ด.ต.ภาณุวัฒน์ ทันที โชคดีที่เจ้าตัวกระโดดหลบได้อย่างหวุดหวิด ก่อนชักอาวุธปืนยิงใส่ล้อรถกระบะคันดังกล่าวจนรถยางล้อหน้าและล้อหลังซ้ายแตกทั้งสองเส้น

หลังจากยางแตกทั้งสองเส้นคนขับรถกระบะยังก็ไม่ยอมจอดรถเพื่อลงมามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ แต่กลับเร่งเครื่องวิ่งย้อนกลับมาที่แยกราชประสงค์ ด.ต.ภาณุวัฒน์ จึงรีบขึ้นรถจยย.เร่งเครื่องติดตามไปอย่างกระชั้นชิด จากนั้นรถกระบะคันดังกล่าวได้แล้วเลี้ยวเข้าถนนสุขุมวิทแล้วหลบหนีไปจนกระทั่งถึงแยกอโศกมนตรีจึงเลี้ยวซ้ายเข้าถนนรัชดาภิเษก แล้วใช้ความเร็วประมาณ 130 กม.ต่อชั่วโมง มาตลอดทาง แต่เนื่องจากยางล้อหลังซ้ายที่แตกเริ่มหลุดออกจากล้อไปจนหมด ทำให้รถไม่แรงขับไปต่อทำให้มาจอดตายสนิทอยู่ที่บริเวณทางขึ้นสะพานข้ามแยกวงศ์สว่างฝั่งมุ่งหน้าสะพานพระราม 7 แขวงวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ

เมื่อเห็นดังนั้น ทาง ด.ต.ภาณุวัฒน์ จึงรีบขี่รถจยย.เข้าปาดหน้า ก่อนเรียกให้คนขับรถลงมามอบตัว จนสามารถจับกุมตัวได้ ทราบชื่อต่อมาคือนายบุญกอง สุขจันทร์ อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 91/1 ม.1 ต.โคกสำโรง อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี ทั้งนี้จากการตรวจสอบภายในแคปของรถและกระบะหลัง ยังพบคนงานต่างด้าวชาวกัมพูชาทั้งเด็กและผู้ใหญ่ จำนวน 18 คน แบ่งเป็นชาย 12 หญิง 6 คน เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวทั้งหมดมาสอบปากคำที่ สน.พญาไท
 

จากการสอบสวนนายบุญกอง ให้การรับสารภาพว่า ตนทำงานเป็นช่างปูนมานานหลายปีแล้ว จนกระทั่งประมาณ 1 เดือนก่อน ได้มาทำงานก่อสร้างที่แคมป์ในซอยเพชรบุรี 14 โดยหลังเลิกงานตนก็รับคนงานทั้ง 18 คน ขึ้นรถเพื่อจะขับไปส่งที่ อ. เขาหินซ้อน จ.ฉะเชิงเทรา แล้วให้ทั้งหมดต่อรถเดินทางกลับประเทศตัวเองไป โดยคิดค่าโดยสารคนละ 1,300 บาท เพิ่งรับจ้างส่งคนงานกัมพูชาครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 เท่านั้นก็มาถูกจับได้ดังกล่าว ส่วนที่ขับรถหลบหนีนั้นเป็นเพราะกลัวความผิด

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหานำพาแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตกับนายบุญกอง ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนสน.พญาไท และแจ้งข้อหาเป็นแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตกับแรงงานต่างด้าวทั้ง 18 คน ก่อนผลักดันกลับประเทศต่อไป