เอพีรายงานว่า เมื่อวันที่ 22 มี.ค. ประธานาธิบดีเต็งเส่ง ผู้นำพม่า แถลงทางโทรทัศน์ว่ารัฐบาลขอประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในเมืองเมกติกา เขตมัณฑะเลย์ ในพื้นที่ภาคกลาง หลังเกิดการปะทะรุนแรงระหว่างกลุ่มชาวพุทธและชาวมุสลิม มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 20 ราย
สำหรับมาตรการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินมีขึ้นต่อเนื่องจากการประกาศเคอร์ฟิวในพื้นที่ โดยรัฐบาลกลางส่งทหารและตำรวจลงพื้นที่เพื่อตรึงกำลัง ขณะที่บรรยากาศของเมืองเมกติกาโดยทั่วไปในวันศุกร์ตกอยู่ในความเงียบ เพราะประชาชนไม่กล้าออกจากบ้าน บางคนย้ายไปพักพิงตามอาราม ทั้งนี้ การสอบสวนเบื้องต้นระบุว่า เหตุดังกล่าวบานปลายมาจากเจ้าของร้านทองชาวมุสลิมทะเลาะกับลูกค้าชาวพุทธ ต่อมาเกิดการปะทะกันและมีพระมรณภาพ 1 รูป ม็อบชาวพุทธจึงบุกไปเผาบ้านเรือนและมัสยิดในชุมชนมุสลิมของเมือง นอกจากนี้ยังไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่เข้าไปดับไฟด้วย
ด้านตัวแทนสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ในพม่าเรียกร้องให้ทางการพม่าและผู้นำศาสนาต่างๆ ยุติความรุนแรงครั้งนี้โดยเร็ว และขอให้ทุกฝ่ายใช้ความอดกลั้นในการแก้ไขสถานการณ์ ทั้งนี้ มักเกิดเหตุปะทะกันประปรายระหว่างชาวพุทธกับมุสลิมในพม่า แต่เหตุรุนแรงระหว่างชาวพุทธพม่ากับชาวโรฮิงยามุสลิมเมื่อปีก่อนบานปลายมากกว่าครั้งก่อนๆ โดยมีผู้เสียชีวิตราว 200 ราย บ้านเรือนถูกเผาหลายพันแห่ง และมีผู้ลี้ภัยกว่า 100,000 คน
รายงานวิเคราะห์ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวท้าทายความพยายามของรัฐบาลพม่าที่จะปฏิรูปประชาธิปไตย หลังการเปิดประเทศ โดยวันเดียวกันนี้ นายเอริก ชมิดต์ ประธานบริษัทกูเกิ้ล ยักษ์ใหญ่แห่งวงการไอที เดินทางเยือนพม่า และกล่าวกระตุ้นให้พม่าเปิดกว้างด้านเสรีภาพทางอินเตอร์เน็ต