เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก tlc.howstuffworks
เมื่อวันที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมา รายงาน My Strange Addiction ซึ่งถ่ายทอดเรื่องราวของคนกินแปลกของอเมริกา ได้เปิดเผยเรื่องราวสุดอึ้ง ของสาวชาวอเมริกันรายหนึ่ง ที่เสพติดการดื่มเลือดสด ๆ จนแก้ไม่หาย เผยเลือดสำคัญต่อชีวิตเธอพอ ๆ กับน้ำดื่มเลยทีเดียว
สาวอเมริกันรายนี้ เธอมีชื่อว่า มิเชล ศิลปินสักวัย 29 ปี จากรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐฯ เธอเสพติดเลือดสด ๆ มาเป็นเวลานานกว่า 10 ปีแล้ว หลังจากลองลิ้มชิ้มรสแล้วติดอกติดใจ เธอก็ไม่อาจหยุดพฤติกรรมนี้ได้ โดยเธอจะดื่มเลือดสด ๆ ทั้งเลือดหมู และเลือดวัวทุกวัน (บางวันมีเลือดมนุษย์ด้วย) วันไหนไม่ได้ดื่ม จะรู้สึกว่าขาดอะไรไปเลยล่ะ ซึ่งถ้าหากจะให้คำนวณปริมาณเลือดสด ๆ ที่เธอดื่มเข้าไปแล้ว ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา เธอดื่มเลือดไปแล้วประมาณ 1,000 แกลลอน หรือหากนำไปเติมอ่างอาบน้ำให้เต็ม ก็คงได้ 23 อ่าง
มิเชล เล่าว่า เลือดสำคัญสำหรับชีวิตของเธอมาก เวลาไม่ได้ดื่มเลือดเธอจะอารมณ์เสีย ต่างกับเวลาที่เธอได้ดื่มเลือด จะรู้สึกอารมณ์ดีและมีพลังขึ้นมาได้อย่างไม่น่าเชื่อ ทุกวันนี้ สิ่งที่เธอทำเป็นอันดับแรกเมื่อตื่นนอน ก็คือดื่มเลือดแทนน้ำ ถึงเวลาอาหารเช้า เธอก็จะเติมเลือดลงในกาแฟถ้วยโปรด และระหว่างวัน เธอก็จะต้องดื่มเลือดอย่างต่อเนื่องตลอด ไม่ว่าจะกำลังอ่านหนังสือ วาดรูป ดูทีวี หรือแม้แต่ตอนที่พักผ่อนอยู่ว่าง ๆ ก็จะหยิบแก้วเลือดขึ้นมาจิบกิน และเมื่อถึงเวลาอาหารก็ไม่ต้องพูดถึง เธอทั้งใช้เลือดคลุกเคล้ากับอาหารที่ทาน และทั้งดื่มไปพร้อมกับทานอาหาร เพื่อเพิ่มรสชาติเลยทีเดียว
สำหรับรสชาติของเลือดที่ใคร ๆ อยากรู้กันว่า มันเป็นอย่างไรในความคิดของเธอนั้น เธอบอกว่า มันเหมือนการดื่มไวน์นี่แหละ แต่ถ้าเลือกได้ เธอจะเลือกดื่มเลือดหมูมากกว่า เพราะมันเค็มกว่าเลือดวัวนิดหน่อย ซึ่งเธอชอบมาก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเลือดหมูหรือเลือดวัว ก็นุ่มลิ้นเหมือน ๆ กัน ส่วนเลือดมนุษย์นั้น เธอก็ชื่นชอบไม่น้อย และจะพยายามดื่มเลือดมนุษย์ให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ โดยดื่มเลือดของจอห์น เพื่อนนักบริจาคเลือดของเธอเอง
นอกจากนี้ เธอยังเปิดเผยถึงรสชาติของเลือดมนุษย์ให้ฟังด้วยว่า เลือดผู้ชายกับผู้หญิงจะมีรสชาติต่างกัน เลือดผู้ชายจะเข้มข้นกว่า เรียกว่าถ้าได้ลิ้มรสแบบไม่รู้ว่าเป็นเลือดใครแล้วละก็ เธอจะแยกได้ว่าเป็นเลือดผู้ชายหรือเลือดผู้หญิงเลยทีเดียว